“นิสสัน”ประกาศลุยตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้า EV ตามนโยบายรัฐบาล มั่นใจเป็นการจุดประกายยุคใหม่ของอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อนเตรียมความพร้อมขึ้นไลน์ผลิตในประเทศ พร้อมเผยแผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี เล็งเปิดตัวรถยนต์ใหม่5รุ่น หวังเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็นตัวเลขสองหลัก
นายคะซุทากะ นัมบุ ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลายประเทศพยายามผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ให้พัฒนาก้าวไกลเท่าที่จะไปได้ ขณะที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จกับโปรดักต์แชมเปี้ยนอย่าง ปิกอัพ อีโคคาร์ และล่าสุดรัฐบาลพยายามสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV-Electric Vehicle) ให้เป็นเสาหลักตัวที่สาม ซึ่งนิสสันพร้อมสนับสนุนนโยบายนี้
“หลักสำคัญคือการเคารพในสิ่งที่รัฐบาลกำลังจะทำ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในอุตสาหกรรมยานยนต์ ขณะที่นิสสันมีจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับ EV รถยนต์ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นผู้นำด้วยยอดขายทั่วโลกกว่า 2.25 แสนคัน จากนิสสัน ลีฟ”
นิสสันยังไม่แน่ใจว่า สุดท้ายรัฐบาลจะกำหนดเงื่อนไขอย่างไร แต่เห็นแนวทางทั้งการสนับสนุนด้านภาษี การขยายสถานีชาร์จไฟฟ้า ขณะเดียวกันในช่วงแรกหากเร่งให้นำเข้ามาขายภายในโควต้า 5,000 คัน(ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้า ที่แบ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถโดยสาร) โดยไม่เสียภาษีนำเข้าจะถือเป็นการจุดประกายในการสร้างตลาดEVขึ้นมา ซึ่งการนำเข้าจำนวนนี้ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับตลาดรถยนต์รวมทั้งประเทศ
สำหรับนิสสันจะเดินหน้าไปตามโจทย์ของรัฐบาล เพราะมีองค์ความรู้ โปรดักต์ และเทคโนโลยีEV พร้อมอยู่แล้ว ดังนั้นหากต้องนำเข้ามาในช่วงแรกเพื่อทำตลาด นิสสันจะลงทุนเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ หรือพวกเครื่องมืออุปกรณ์ พร้อมฝึกอบรบช่างเทคนิคเพื่อรองรับบริการหลังการขาย ซึ่งประเด็นนี้ไม่น่าเป็นห่วง
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลสนับสนุนต่อยอดให้เกิดการผลิตในประเทศ อยากให้พิจารณาเรื่องของการเพิ่มแรงจูงใจในการซื้อ ทั้งด้านภาษีสรรพสามิตที่ต้องเก็บน้อยกว่ารถยนต์ทั่วไป นั่นเพราะEVปล่อยไอเสียน้อยกว่าแต่ต้นทุนการผลิตสูง ถ้าอยากให้ราคาสามารถเข้าถึงได้ง่ายรัฐบาลต้องสนับสนุนตรงนี้ สอดคล้องไปกับการเพิ่มสถานีชาร์จไฟฟ้าให้ทั่วถึง
นายนัมบุ ยังกล่าวถึงยอดขายรถยนต์นิสสันในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.2559)ว่า ทำได้ 23,058 คัน ลดลง10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่าตลาดรวมปีนี้จะทำได้ 740,000 คัน ส่วนนิสสันตั้งเป้าหมายยอดขายในปีงบประมาณนี้(เม.ย.2559-มี.ค.2560) ไว้ 50,000 คัน ขณะเดียวกันภายใต้แผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี(พ.ศ.2559-2561) ยังเตรียมเปิดรถยนต์โมเดลใหม่ 5 รุ่น พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ถึงตัวเลขสองหลัก (ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 6-7%)
....อนึ่ง นิสสันเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ ออกสู่ตลาด ด้วยการแนะนำรถยนต์นิสสัน ลีฟ สู่ตลาดในปี พ.ศ. 2553 ปัจจุบัน นิสสันยังคงเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดตลอดกาลทั่วโลก โดยที่ผ่านมาในปีนี้ นิสสันได้ตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำในฐานะผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการปล่อยมลภาวะเป็นศูนย์ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์นิสสัน ลีฟ รุ่นล่าสุดในประเทศต่างๆ สำหรับลีฟรุ่นปี 2016 สามารถขับได้ระยะทางที่มากกว่าเดิมถึง 26 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยให้ระยะทางการขับถึง 280 กิโลเมตร จากการชาร์ตเพียงครั้งเดียว
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
นายคะซุทากะ นัมบุ ประธานบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลายประเทศพยายามผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ให้พัฒนาก้าวไกลเท่าที่จะไปได้ ขณะที่ประเทศไทยประสบความสำเร็จกับโปรดักต์แชมเปี้ยนอย่าง ปิกอัพ อีโคคาร์ และล่าสุดรัฐบาลพยายามสนับสนุนรถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV-Electric Vehicle) ให้เป็นเสาหลักตัวที่สาม ซึ่งนิสสันพร้อมสนับสนุนนโยบายนี้
“หลักสำคัญคือการเคารพในสิ่งที่รัฐบาลกำลังจะทำ เพื่อไม่ให้เสียโอกาสในอุตสาหกรรมยานยนต์ ขณะที่นิสสันมีจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับ EV รถยนต์ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมเป็นผู้นำด้วยยอดขายทั่วโลกกว่า 2.25 แสนคัน จากนิสสัน ลีฟ”
นิสสันยังไม่แน่ใจว่า สุดท้ายรัฐบาลจะกำหนดเงื่อนไขอย่างไร แต่เห็นแนวทางทั้งการสนับสนุนด้านภาษี การขยายสถานีชาร์จไฟฟ้า ขณะเดียวกันในช่วงแรกหากเร่งให้นำเข้ามาขายภายในโควต้า 5,000 คัน(ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้า ที่แบ่งเป็นรถยนต์นั่งและรถโดยสาร) โดยไม่เสียภาษีนำเข้าจะถือเป็นการจุดประกายในการสร้างตลาดEVขึ้นมา ซึ่งการนำเข้าจำนวนนี้ถือว่าไม่มากเมื่อเทียบกับตลาดรถยนต์รวมทั้งประเทศ
สำหรับนิสสันจะเดินหน้าไปตามโจทย์ของรัฐบาล เพราะมีองค์ความรู้ โปรดักต์ และเทคโนโลยีEV พร้อมอยู่แล้ว ดังนั้นหากต้องนำเข้ามาในช่วงแรกเพื่อทำตลาด นิสสันจะลงทุนเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์ หรือพวกเครื่องมืออุปกรณ์ พร้อมฝึกอบรบช่างเทคนิคเพื่อรองรับบริการหลังการขาย ซึ่งประเด็นนี้ไม่น่าเป็นห่วง
อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลสนับสนุนต่อยอดให้เกิดการผลิตในประเทศ อยากให้พิจารณาเรื่องของการเพิ่มแรงจูงใจในการซื้อ ทั้งด้านภาษีสรรพสามิตที่ต้องเก็บน้อยกว่ารถยนต์ทั่วไป นั่นเพราะEVปล่อยไอเสียน้อยกว่าแต่ต้นทุนการผลิตสูง ถ้าอยากให้ราคาสามารถเข้าถึงได้ง่ายรัฐบาลต้องสนับสนุนตรงนี้ สอดคล้องไปกับการเพิ่มสถานีชาร์จไฟฟ้าให้ทั่วถึง
นายนัมบุ ยังกล่าวถึงยอดขายรถยนต์นิสสันในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.2559)ว่า ทำได้ 23,058 คัน ลดลง10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และคาดว่าตลาดรวมปีนี้จะทำได้ 740,000 คัน ส่วนนิสสันตั้งเป้าหมายยอดขายในปีงบประมาณนี้(เม.ย.2559-มี.ค.2560) ไว้ 50,000 คัน ขณะเดียวกันภายใต้แผนธุรกิจระยะกลาง 3 ปี(พ.ศ.2559-2561) ยังเตรียมเปิดรถยนต์โมเดลใหม่ 5 รุ่น พร้อมเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดให้ถึงตัวเลขสองหลัก (ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 6-7%)
....อนึ่ง นิสสันเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่เปิดตัวยานยนต์ไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ ออกสู่ตลาด ด้วยการแนะนำรถยนต์นิสสัน ลีฟ สู่ตลาดในปี พ.ศ. 2553 ปัจจุบัน นิสสันยังคงเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดตลอดกาลทั่วโลก โดยที่ผ่านมาในปีนี้ นิสสันได้ตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำในฐานะผู้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการปล่อยมลภาวะเป็นศูนย์ ด้วยการเปิดตัวรถยนต์นิสสัน ลีฟ รุ่นล่าสุดในประเทศต่างๆ สำหรับลีฟรุ่นปี 2016 สามารถขับได้ระยะทางที่มากกว่าเดิมถึง 26 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยให้ระยะทางการขับถึง 280 กิโลเมตร จากการชาร์ตเพียงครั้งเดียว
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring