สื่อต่างประเทศรายงานว่า แบรนด์รถญี่ปุ่น “นิสสัน” (Nissan) ตัดสินใจปิดการทำงานของแอปพลิเคชัน “NissanConnect EV” ชั่วคราวระหว่างแก้ปัญหาช่องโหว่ที่อาจทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเจาะระบบเพื่อควบคุมรถโดยเจ้าของเครื่องไม่รู้ตัว
การยกเลิกนี้มีผลให้ผู้ใช้สามารถควบคุมรถได้เมื่ออยู่ในรถเท่านั้น เบื้องต้น ยังไม่มีการเปิดเผยกรอบเวลาว่าการยกเลิกนี้จะสิ้นสุดเมื่อไร รวมถึงกำหนดการที่คาดว่าการแก้ไขปัญหาจะแล้วเสร็จ
ก่อนหน้านิสสัน แบรนด์รถยนต์รายอื่นก็เคยตกเป็นข่าวแอปพลิเคชันมีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย แต่กรณีนิสสันเป็นการพบว่า แอปพลิเคชันควบคุมอุณหภูมิในรถรุ่นลีฟ (Leaf) มีรูโหว่ทำให้เสี่ยงต่อการถูกปั่นป่วนจนอาจเกิดเป็นปัญหาอื่นตามมา
นักวิจัยความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ ทรอย ฮันท์ (Troy Hunt) ให้ข้อมูลว่า ปัญหาหลักเกิดขึ้นในส่วนระบบควบคุมอุณหภูมิรถจากระยะไกล เช่นเดียวกับการเปิดระบบทำงานภายในรถอื่นซึ่งอาจทำให้แบตเตอรี่รถหมดลงอย่างรวดเร็ว ความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจึงเป็นการปั่นป่วนผู้ใช้ ซึ่งพบว่ารถของตัวเองแบตเตอรี่หมดลงกลางทาง
แม้การเจาะระบบจะไม่มีผลต่อความปลอดภัยในการขับขี่โดยตรง แต่การค้นพบรูรั่วนี้ทำให้เกิดความกังวลในหลายประเด็น โดยเฉพาะความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ จุดนี้การศึกษาพบว่านักแฮกสามารถขโมยชื่อผู้ใช้ที่ลงทะเบียนไว้กับแอปพลิเคชัน ทำให้สามารถนำไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าเจ้าของรถเป็นใคร ก่อนจะนำมาใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่เหมาะสม
รายงานระบุว่า นิสสันได้ทราบรูรั่วความปลอดภัยนี้มานานกว่า 1 เดือน และนิสสันได้ดำเนินการแก้ไขมาตลอดก่อนตัดสินใจปิดบริการแอปพลิเคชันลงชั่วคราว จุดนี้ผู้ที่กังวลสามารถยกเลิกการสมัครสมาชิก หรือ unregister เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลร้ายใดๆ ตามมา ทั้งหมดนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่สอนให้ค่ายผู้ผลิตรถรู้ว่า ต้องทำการบ้านอีกมากในการรักษาความปลอดภัยออนไลน์
สำหรับ “นิสสัน ลีฟ” ถือเป็นหนึ่งในรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก ทำยอดขายได้กว่า 200,000 คัน นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2010
