บิ๊กดีลจบไประหว่าง “มิตซูบิชิ มอเตอร์ส” กับ “นิสสัน” ที่เกี่ยวปรองดองญาติกันเรียบร้อย ส่วนบิ๊กดีลในเมืองไทยก็ถือว่าน่าสนใจ เมื่อมิตซูบิชิจัดการพัฒนาประสิทธิภาพเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.2 ลิตรของ“มิราจ”และ“แอททราจ” ให้เข้าเกณฑ์อีโคคาร์เฟสสอง ทั้งการปล่อยไอเสียไม่เกิน 100 กรัม/กม. และอัตราบริโภคน้ำมัน 4.3 ลิตร/100 กม. เป็นต้น (ส่วนเรื่องเงินลงทุนถือว่า มิตซูบิชิจัดก้อนใหญ่คลอบคลุมทั้งเฟสหนึ่งเฟสสองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเงื่อนไขหนึ่งที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ยอมรับได้)
เมื่อการผ่านเกณฑ์อีโคคาร์เฟสสอง ประโยชน์ที่จะได้เต็มๆคือภาษีสรรพสามิต 14% น้อยกว่าพวกอีโคคาร์เฟสแรกที่เสีย 17% ซึ่งตอนนี้มีเพียงสองค่ายที่ทำรถยนต์เข้าเงื่อนไขนี้ คือ มิตซูบิชิ กับ มาสด้า
สำหรับ“แอททราจ”ตัวถังซีดานไม่ได้ปรับรูปลักษณ์มากเหมือน “มิราจ”ตัวถังแฮทช์แบ็ก นั่นเพราะ “มิราจ”ยังต้องส่งออกไปหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งรถยนต์ตัวถังนี้เป็นที่นิยมและคู่แข่งเยอะ ดังนั้นการสร้างความสดใหม่จึงเป็นสิ่งจำเป็น (ส่วนแอททราจ เน้นการทำตลาดในประเทศเป็นหลัก)
ล่าสุดผู้เขียนได้ลองขับ “มิราจ ใหม่” ที่จริงๆก็เปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว แต่รถเพิ่งจะพร้อมส่งมอบจริงเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
โดยเก๋งเล็กขนาดกะทัดรัดคันนี้ ปรับรูปลักษณ์ให้ดูทันสมัย ทั้ง กระจังหน้าออกแบบใหม่ พร้อมลายโครเมียมแนวกันชนด้านล่าง ส่วนโคมไฟทรงเดิมแต่ปรับรายละเอียดภายใน ด้วยการใช้ไฟใหญ่แบบโปรเจกเตอร์เลนส์ ไฟหรี่ใช้หลอด LED แบบ Spectrum ส่วนไฟท้ายใช้หลอดLED วางเป็นรูปตัวซี สปอยเลอร์หลังคาพร้อมไฟเบรกดวงที่สามแบบ LED รวมถึงล้ออัลลอยขนาด15 นิ้วลายใหม่
ภายในใช้เบาะผ้าสีดำออกแบบลวดลายใหม่ นอกนั้นก็ดูเหมือนๆเดิม ขณะที่รุ่นท็อป GLS LTD มีหน้าจอสัมผัสขนาด 6.5 นิ้ว ที่ใช้แสดงผล พร้อมควบคุมระบบนำทาง เครื่องเสียง และบลูทูธ
ส่วนออปชันความปลอดภัย มิตซูบิชิภูมิใจเสนอ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบช่วยชะลอความเร็วเมื่อขับความเร็วต่ำ ระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งรุนแรงและรวดเร็ว ซึ่งจะมาในสองรุ่นคือ GLS และ GLS LTD
…ถือเป็นออปชันที่เข้าทางว่า “มีแล้วได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี” ทั้งยังน่าจะเหมาะกับกลุ่มลูกค้าของมิราจ ที่หลายคนเป็นนักขับมือใหม่
สำหรับระบบความปลอดภัยที่จัดให้เป็นมาตรฐานครบทุกรุ่น ไล่ตั้งแต่ ระบบเบรกป้องกันล้อล็อกABS ระบบกระจายแรงเบรก EBD ระบบเสริมแรงเบรก BA ระบบป้องกันการลื่นไถล TCL ระบบควบคุมการทรงตัว ASC ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HSA และถุงลมนิรภัยคู่หน้า
ส่วนเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.2 ลิตร DOHC MIVEC 12 วาล์ว แม้จะต้องปรับประสิทธิภาพให้ผ่านเงื่อนไขอีโคคาร์เฟสสอง ทว่ายังให้ประสิทธิผลเท่าเดิม ด้วยกำลังสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
โดยเทคนิคที่มิตซูบิชินำมาใช้เพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสีย และอัตราบริโภคน้ำมันอันเข้มข้นของอีโคคาร์เฟสสอง คือความพยายามลดแรงเสียดทานของการทำงานระหว่างชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ เช่น การปรับปรุงโซ่ไทม์มิ่ง ลูกสูบเคลือบสารพิเศษ รวมถึงควบคุมการทำงานของไดชาร์จ (Alternator)ให้ละเอียดมากขึ้น หรือตัดการทำงานทันทีเมื่อแบตเตอรีมีพลังไฟฟ้ามากพอ
…นั่นเป็นเทคนิคที่ มิตซูบิชิพอจะเปิดเผยได้ครับ
ส่วนสมรรถนะของขุมพลัง 3 สูบ 1.2 ลิตร 78 แรงม้า เมื่อผสานการทำงานกับเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง CVT ใช้งานจริงไม่ขี้เหร่ครับ การออกตัวทันใจ ไม่อืดอุ้ยอ้าย แต่ต้องย้ำว่าตอบสนองดีในพฤติกรรมการขับปกติ เพราะถ้าใครหวังความแซบซ่าดุดันในย่านความเร็วกลางๆ หรือวิ่งใช้ความเร็วเกิน 120 กม./ชม.ขึ้นไปแล้ว อาจจะไม่ใช่ทางของมิราจ
มิราจ โดดเด่นที่ความคล่องตัวสำหรับการขับขี่ในเมือง อัตราเร่ง สัมพันธ์กับระบบส่งกำลัง เพียงพอต่อการเร่งแซงในภาวะคับขัน ซึ่งเรียนรู้จังหวะการเดินคันเร่งสักนิดก็ขับสบาย ส่วนพวงมาลัยน้ำหนักเบามือแต่ไม่ถึงกับโหวงเหวง เหมาะสมกับการควบคุมรถยนต์คันเล็กๆแบบนี้
ด้านช่วงล่างอยู่ในระดับดีพอใช้ แต่ถ้าเทียบกับรุ่นใหญ่ตีตั๋วเด็กอย่าง ยาริส สวิฟท์ หรือ มาสด้า2 ต้องยอมรับว่าในภาพรวมของระบบกันสะเทือนและตัวถังของรถยนต์พวกนี้เนียนแน่นกว่า โดยสัมผัสความต่างได้ชัดเจนเมื่อขับความเร็วสูง กระนั้นก็ต้องไม่ลืมว่า มิราจ(ตัวท็อป)ใช้ยางแค่ 175/55 R15 เท่านั้น
ปิดท้ายด้วยอัตราบริโภคน้ำมัน กับตัวรถขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ถ้าเคลมตามกฎหมายมิตซูบิชิบอกว่าทำได้ 23 กม./ลิตร ส่วนการขับจริงของผู้เขียน จากสภาพรถติดในเมือง วิ่งออกมอเตอร์เวย์ใช้ความเร็วเฉลี่ย 100-120 กม./ชม. เห็นตัวเลขระดับ 16.2 กม./ลิตร
รวบรัดตัดความ...ซิตี้คาร์พันธุ์แท้ เน้นราคาเข้าถึงได้ง่าย(มีหลายรุ่นย่อย) แม้ภาษีสรรพสามิตลดลงเป็น 14% แต่หลายรุ่นราคาปรับขึ้นเพราะออปชันใหม่ที่ให้มาเพียบ ทั้งเพื่อความสวยงามทันสมัย พร้อมอำนวยความสะดวกและความปลอดภัย สมรรถนะเพียงพอต่อการใช้งาน วิ่งในเมืองคล่องแคล่วสมตัว พร้อมอัตราบริโภคน้ำมันที่เป็นมิตร เรียกว่าเป็นเจ้าของ“มิราจ”แล้ว สบายกระเป๋าแน่ๆทั้ง ขั้นตอนการซื้อและระหว่างการใช้งาน