ตัวเลขยอดจองรถใหม่ ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 อาจจะไม่หวือหวาอย่างที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น แต่ก็ช่วยผลักดันยอดขายเดือนมีนาคมทะยานขึ้นมาพอสมควร ส่งผลให้ยอดขายรถใหม่ในไทยช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 ไม่ถึงกับขี้เหร่นัก และหากพิจารณาในรายละเอียด แต่ละยี่ห้อ รายกลุ่มประเภท หรือเซกเมนท์รถ จะพบสิ่งที่สะท้อนบางอย่างน่าสนใจ ส่วนจะเป็นอะไรบ้าง? ไปเจาะลึกกันเลยดีกว่า...
มี.ค. ทะยานทะลุ 7 หมื่นคัน ดันโค้งแรกร่วงไม่ถึง 10%
ตลาดรถยนต์ในปี 2559 หลายค่ายประเมินว่าจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” คาดว่าจะร่วงเหลือแค่ 7.2 แสนคัน หรือลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 10% จากผลกระทบสภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนการเร่งกำลังซื้อล่วงหน้าในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการปรับภาษีสรรพสามิตรถใหม่ ในวันที่ 1 ม.ค. 2559 เป็นต้นไป
จากช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ แนวโน้มก็ดูจะเป็นเช่นนั้น เพราะยอดขายร่วงเหลือเพียงเดือนละกว่า 5 หมื่นคัน หรือติดลบมากกว่า 10% ยิ่งตัวเลขยอดจองรถใหม่ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 ที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้นอย่างมาก ทำให้สถานการณ์ตลาดรถยนต์นับว่าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง!
แต่เมื่อมีการเปิดเผยรายงานยอดการขายรถใหม่ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ หรือตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม พ.ศ.2559 จากกลุ่มรถญี่ปุ่นและอเมริกา (ไม่รวมรถยุโรป-เกาหลี และอื่นๆ แต่ไม่ส่งผลต่อตลาดมากนัก เพราะมียอดขายรวมกันประมาณ 3 หมื่นคัน/ปี) ภายใต้การรวบรวมของหอการค้าญี่ปุ่น(JCC) ตัวเลขกลับติดลบเพียง 8% หรือมียอดขายรถรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.82 แสนคัน
ปัจจัยสำคัญมาจากช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายรถใหม่ทะยานขึ้นมาที่กว่า 7.3 หมื่นคัน หรือลดลงจากช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้วเพียง 1.4% เป็นผลมาจากการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย และการเปิดตัวรถใหม่ ทั้งก่อนและในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 แม้จะไม่ร้อนแรงเหมือนที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ช่วยให้ยอดขายไตรมาสแรกของปีนี้ ไม่ติดลบถึง 10%
แน่นอนภาพรวมส่วนใหญ่ค่ายรถจะมียอดขายลดลง แต่ก็มีหลายค่ายเช่นกันที่ประสบความสำเร็จ สามารถผลักดันยอดขายเป็นเติบโตได้ ไม่ว่าจะเป็น อีซูซุ, มิตซูบิชิ, มาสด้า, ฟอร์ด และซูซูกิ ซึ่งจากการที่หลายค่ายรถมียอดขายเป็นบวก จึงทำให้ภาพรวมตลาดรถไม่ลดลงมากอย่างที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น (ยอดขายรถไตรมาสแรกแต่ละยี่ห้อ ดูจากตารางประกอบ)
อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดทะยานแรงในเดือนมีนาคม ปัจจัยหลักมาจากการกระตุ้นในช่วงงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 ดังนั้นจึงต้องดูสถานการณ์ในช่วงไตรมาสสองต่อเนื่อง จึงจะเริ่มเห็นทิศทางตลาดรถในปีนี้ชัดเจนมากขึ้น...
มาสด้ามาแรงเก๋งเล็ก-โตโยต้าอยู่ในช่วงปรับโมเดล
หากพิจารณาดูในรายละเอียดการขายของแต่ละยี่ห้อ (ดูตารางยอดขายรถ 3 อันดับแรกแต่ละเซกเมนท์ประกอบ) ปัจจัยที่ทำให้ยอดขายของบางค่ายเติบโต จะพบว่ามาจากความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ของผลิตภัณฑ์ในตลาด ส่วนค่ายรถที่มียอดลดลงก็มีสาเหตุทั้งจากความไม่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์ หรือบางโมเดลก็อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านปรับโฉมใหม่
ในกลุ่มรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง ปัจจุบันตลาดใหญ่สุดจะเป็นรถขนาดเล็กกลุ่มอีโคคาร์ และซับคอมแพ็กต์(บี-คาร์) ซึ่งมียอดขายลดลง 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่หากดูเป็นรายยี่ห้อยังมีบางรุ่นอย่าง “มาสด้า2” ที่ประสบความสำเร็จมียอดขายเติบโตอย่างมาก เป็นผลจากความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ จนทะยานขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของตลาดอีโคคาร์แบบซีดาน(รุ่น 4 ประตู) หรือการขยับจากอันดับ 3 มาอยู่เบอร์ 2 ของกลุ่มอีโคคาร์แบบแฮทช์แบ็ก (รุ่น 5 ประตู) ขณะที่กลุ่มคอมแพ็กต์คาร์ หรือซี-คาร์ รุ่นมาสด้า3 ยังสามารถครองตำแหน่งอันดับ 3 ได้เหนียวแน่น
สำหรับกลุ่มเก๋งเล็กนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า “โตโยต้า วีออส” ที่ครองตลาดซับคอมแพ็กต์มายาวนาน ต้องพลาดท่าเสียตำแหน่งให้กับ “ฮอนด้า ซิตี้” หากพิจารณาดูตัวเลขการขายที่รายงานกับกลุ่ม JCC จะพบเพียงเฉพาะเดือนมกราคมแค่ 65 คัน ทั้งที่รถรุ่นนี้เดิมจะมียอดขาย 3-4 พันคัน/เดือน ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากการอยู่ในช่วงปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ของโตโยต้า วีออส ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเช่นเดียวกับ “ฮอนด้า ซีวิค” ที่มีรายงานยอดขายเข้ามาเฉพาะเดือนมีนาคม หลังจากทำการเปิดตัวโฉมใหม่ของสู่ตลาดไทย
ดังนั้นคงต้องติดตามกัน หลังจากนี้ไป... “โตโยต้า วีออส” จะกลับมาทวงบัลลังก์คืนได้หรือไม่? และ “ฮอนด้า ซีวิค” จะใช้ความสดใหม่โค่นคู่แข่ง “โตโยต้า อัลติส” ได้สำเร็จหรือไม่เช่นกัน? สิ่งเหล่านี้จึงต้องจับตาดูอย่ากระพริบ!
ดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์/ฟอร์ดผงาด -ฮอนด้ายึดเอสยูวี
ปิกอัพเป็นกลุ่มที่น่าจะช่วยปลุกตลาดรถไทย เพราะช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ปิกอัพส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า, อีซูซุ, ฟอร์ด และมาสด้า ยังไม่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ทั้งแบบโมเดลเชนจ์ และไมเนอร์เชนจ์ แต่ปรากฏว่าปิดไตรมาสแรกตลาดปิกอัพกลับลดลง 4.3% หรือทำได้เพียงแค่ 8.12 หมื่นคันเท่านั้น
โดยค่ายที่มาแรงมีเพียง “อีซูซุ ดีแมคซ์ บลูเพาวเวอร์” ที่ส่งรุ่นสำคัญพลิกโฉมตลาดปิกอัพ ด้วยการวางเครื่องยนต์บลูเพาเวอร์ 1.9 ลิตร เทอร์โบ สู่ตลาดไทยครั้งแรกของโลกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และกวดยอดขายแรงต่อเนื่องในแต่ละเดือนนับจากเปิดตัว จนปิดยอดช่วงไตรมาสแรกปีนี้กว่า 3.2 หมื่นคัน ทะยานขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งแทน “โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่” ที่แป๊กเอาซะดื้อๆ ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดเมื่อกลางปีที่ผ่านมา หรือหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งยังขายโฉมเดิม “ไฮลักซ์ วีโก้” ยังมีตัวเลขน้อยกว่าซะอีก!
“ฟอร์ด เรนเจอร์” เป็นปิกอัพอีกรุ่นที่ประสบความสำเร็จ โดยได้มีการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และยังรักษาความแรงไว้ต่อเนื่อง จนปิดยอดไตรมาสแรกของปีนี้ 6.6 พันคัน หรือเติบโตถึง 31% ทะยานจากอันดับ 5 มาอยู่เบอร์ 3 ของตลาดปิกอัพไทย เช่นเดียวกับรถที่เกี่ยวเนื่องอย่างรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี “ฟอร์ด เอเวอเรสต์” ซึ่งในตลาดรถพีพีวี “ฟอร์จูนเนอร์” ช่วยกู้ศักดิ์ศรีให้กับโตโยต้าไว้ได้ ด้วยการครองบัลลังก์เจ้าตลาดเหนียวแน่น
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปคงต้องจับตาอย่ากระพริบ!... เพราะอีซูซุเพิ่งส่ง “มิว-เอ็กซ์” ใหม่ เครื่องยนต์บลูเพาเวอร์ลงสู่ตลาดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา งานนี้จะเป็นการดวลศึกที่แท้จริงเสียที ว่าใครจะเป็นของแท้ในตลาดรถพีพีวีไทย?!
ในส่วนของรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี จากการเปิดเกมรุกของค่ายฮอนด้าที่ส่งรถรุ่นใหม่ มาเจาะเซกเมนท์ย่อยๆ ของกลุ่มรถเอสยูวี จึงไม่แปลกที่ฮอนด้าจะกินรวบตลาดนี้ อาจจะสลับตำแหน่งกันบ้าง อย่างรถรุ่นใหม่ล่าสุด “ฮอนด้า บีอาร์-วี” ที่มายึดตำแหน่งแชมป์แทนรุ่นเอชอาร์-วี จะมีมาแทรกบ้างก็เพียง “นิสสัน เอ็กซ์-เทรล” ใหม่ ที่มาเบียดฮอนด้า ซีอาร์-วีลงไป หรือการมาชิงส่วนแบ่งตลาดของ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากนัก
นั่นคือรายงานยอดขายแบบเจาะลึกของ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” คงพอจะทำให้เห็นภาพของตลาดรถยนต์ไทย แต่นี่เป็นเพียงโค้งแรกของตลาดเท่านั้น จึงไม่ใช่บทสรุปของปีนี้ เพราะต้องดูกันยาวๆ อีก 3 ไตรมาสที่เหลือ หรืออย่างน้อยก็จบช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งน่าจะพอแสดงให้เห็นแนวโน้มชัดเจนมากขึ้น…
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
มี.ค. ทะยานทะลุ 7 หมื่นคัน ดันโค้งแรกร่วงไม่ถึง 10%
ตลาดรถยนต์ในปี 2559 หลายค่ายประเมินว่าจะชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่ “โตโยต้า” คาดว่าจะร่วงเหลือแค่ 7.2 แสนคัน หรือลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 10% จากผลกระทบสภาวะเศรษฐกิจ ตลอดจนการเร่งกำลังซื้อล่วงหน้าในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการปรับภาษีสรรพสามิตรถใหม่ ในวันที่ 1 ม.ค. 2559 เป็นต้นไป
จากช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ แนวโน้มก็ดูจะเป็นเช่นนั้น เพราะยอดขายร่วงเหลือเพียงเดือนละกว่า 5 หมื่นคัน หรือติดลบมากกว่า 10% ยิ่งตัวเลขยอดจองรถใหม่ในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 ที่ไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้นอย่างมาก ทำให้สถานการณ์ตลาดรถยนต์นับว่าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง!
แต่เมื่อมีการเปิดเผยรายงานยอดการขายรถใหม่ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ หรือตั้งแต่เดือนมกราคม-มีนาคม พ.ศ.2559 จากกลุ่มรถญี่ปุ่นและอเมริกา (ไม่รวมรถยุโรป-เกาหลี และอื่นๆ แต่ไม่ส่งผลต่อตลาดมากนัก เพราะมียอดขายรวมกันประมาณ 3 หมื่นคัน/ปี) ภายใต้การรวบรวมของหอการค้าญี่ปุ่น(JCC) ตัวเลขกลับติดลบเพียง 8% หรือมียอดขายรถรวมทั้งสิ้นประมาณ 1.82 แสนคัน
ปัจจัยสำคัญมาจากช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายรถใหม่ทะยานขึ้นมาที่กว่า 7.3 หมื่นคัน หรือลดลงจากช่วงเดือนเดียวกันของปีที่แล้วเพียง 1.4% เป็นผลมาจากการจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย และการเปิดตัวรถใหม่ ทั้งก่อนและในงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 แม้จะไม่ร้อนแรงเหมือนที่คาดการณ์ไว้ แต่ก็ช่วยให้ยอดขายไตรมาสแรกของปีนี้ ไม่ติดลบถึง 10%
แน่นอนภาพรวมส่วนใหญ่ค่ายรถจะมียอดขายลดลง แต่ก็มีหลายค่ายเช่นกันที่ประสบความสำเร็จ สามารถผลักดันยอดขายเป็นเติบโตได้ ไม่ว่าจะเป็น อีซูซุ, มิตซูบิชิ, มาสด้า, ฟอร์ด และซูซูกิ ซึ่งจากการที่หลายค่ายรถมียอดขายเป็นบวก จึงทำให้ภาพรวมตลาดรถไม่ลดลงมากอย่างที่ประเมินไว้ในเบื้องต้น (ยอดขายรถไตรมาสแรกแต่ละยี่ห้อ ดูจากตารางประกอบ)
อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดทะยานแรงในเดือนมีนาคม ปัจจัยหลักมาจากการกระตุ้นในช่วงงานบางกอกฯ มอเตอร์โชว์ 2016 ดังนั้นจึงต้องดูสถานการณ์ในช่วงไตรมาสสองต่อเนื่อง จึงจะเริ่มเห็นทิศทางตลาดรถในปีนี้ชัดเจนมากขึ้น...
มาสด้ามาแรงเก๋งเล็ก-โตโยต้าอยู่ในช่วงปรับโมเดล
หากพิจารณาดูในรายละเอียดการขายของแต่ละยี่ห้อ (ดูตารางยอดขายรถ 3 อันดับแรกแต่ละเซกเมนท์ประกอบ) ปัจจัยที่ทำให้ยอดขายของบางค่ายเติบโต จะพบว่ามาจากความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ และการเพิ่มทางเลือกใหม่ๆ ของผลิตภัณฑ์ในตลาด ส่วนค่ายรถที่มียอดลดลงก็มีสาเหตุทั้งจากความไม่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์ หรือบางโมเดลก็อยู่ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านปรับโฉมใหม่
ในกลุ่มรถยนต์นั่ง หรือเก๋ง ปัจจุบันตลาดใหญ่สุดจะเป็นรถขนาดเล็กกลุ่มอีโคคาร์ และซับคอมแพ็กต์(บี-คาร์) ซึ่งมียอดขายลดลง 28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่หากดูเป็นรายยี่ห้อยังมีบางรุ่นอย่าง “มาสด้า2” ที่ประสบความสำเร็จมียอดขายเติบโตอย่างมาก เป็นผลจากความแข็งแกร่งของผลิตภัณฑ์ภายใต้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟ จนทะยานขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งของตลาดอีโคคาร์แบบซีดาน(รุ่น 4 ประตู) หรือการขยับจากอันดับ 3 มาอยู่เบอร์ 2 ของกลุ่มอีโคคาร์แบบแฮทช์แบ็ก (รุ่น 5 ประตู) ขณะที่กลุ่มคอมแพ็กต์คาร์ หรือซี-คาร์ รุ่นมาสด้า3 ยังสามารถครองตำแหน่งอันดับ 3 ได้เหนียวแน่น
สำหรับกลุ่มเก๋งเล็กนี้เป็นที่น่าสังเกตว่า “โตโยต้า วีออส” ที่ครองตลาดซับคอมแพ็กต์มายาวนาน ต้องพลาดท่าเสียตำแหน่งให้กับ “ฮอนด้า ซิตี้” หากพิจารณาดูตัวเลขการขายที่รายงานกับกลุ่ม JCC จะพบเพียงเฉพาะเดือนมกราคมแค่ 65 คัน ทั้งที่รถรุ่นนี้เดิมจะมียอดขาย 3-4 พันคัน/เดือน ซึ่งนั่นเป็นผลมาจากการอยู่ในช่วงปรับโฉม หรือไมเนอร์เชนจ์ของโตโยต้า วีออส ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และเช่นเดียวกับ “ฮอนด้า ซีวิค” ที่มีรายงานยอดขายเข้ามาเฉพาะเดือนมีนาคม หลังจากทำการเปิดตัวโฉมใหม่ของสู่ตลาดไทย
ดังนั้นคงต้องติดตามกัน หลังจากนี้ไป... “โตโยต้า วีออส” จะกลับมาทวงบัลลังก์คืนได้หรือไม่? และ “ฮอนด้า ซีวิค” จะใช้ความสดใหม่โค่นคู่แข่ง “โตโยต้า อัลติส” ได้สำเร็จหรือไม่เช่นกัน? สิ่งเหล่านี้จึงต้องจับตาดูอย่ากระพริบ!
ดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์/ฟอร์ดผงาด -ฮอนด้ายึดเอสยูวี
ปิกอัพเป็นกลุ่มที่น่าจะช่วยปลุกตลาดรถไทย เพราะช่วงไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ปิกอัพส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นโตโยต้า, อีซูซุ, ฟอร์ด และมาสด้า ยังไม่มีการเปิดตัวรุ่นใหม่ทั้งแบบโมเดลเชนจ์ และไมเนอร์เชนจ์ แต่ปรากฏว่าปิดไตรมาสแรกตลาดปิกอัพกลับลดลง 4.3% หรือทำได้เพียงแค่ 8.12 หมื่นคันเท่านั้น
โดยค่ายที่มาแรงมีเพียง “อีซูซุ ดีแมคซ์ บลูเพาวเวอร์” ที่ส่งรุ่นสำคัญพลิกโฉมตลาดปิกอัพ ด้วยการวางเครื่องยนต์บลูเพาเวอร์ 1.9 ลิตร เทอร์โบ สู่ตลาดไทยครั้งแรกของโลกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และกวดยอดขายแรงต่อเนื่องในแต่ละเดือนนับจากเปิดตัว จนปิดยอดช่วงไตรมาสแรกปีนี้กว่า 3.2 หมื่นคัน ทะยานขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งแทน “โตโยต้า ไฮลักซ์ รีโว่” ที่แป๊กเอาซะดื้อๆ ทั้งที่เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดเมื่อกลางปีที่ผ่านมา หรือหากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งยังขายโฉมเดิม “ไฮลักซ์ วีโก้” ยังมีตัวเลขน้อยกว่าซะอีก!
“ฟอร์ด เรนเจอร์” เป็นปิกอัพอีกรุ่นที่ประสบความสำเร็จ โดยได้มีการเปิดตัวรุ่นปรับโฉมเมื่อกลางปีที่ผ่านมา และยังรักษาความแรงไว้ต่อเนื่อง จนปิดยอดไตรมาสแรกของปีนี้ 6.6 พันคัน หรือเติบโตถึง 31% ทะยานจากอันดับ 5 มาอยู่เบอร์ 3 ของตลาดปิกอัพไทย เช่นเดียวกับรถที่เกี่ยวเนื่องอย่างรถอเนกประสงค์แบบพีพีวี “ฟอร์ด เอเวอเรสต์” ซึ่งในตลาดรถพีพีวี “ฟอร์จูนเนอร์” ช่วยกู้ศักดิ์ศรีให้กับโตโยต้าไว้ได้ ด้วยการครองบัลลังก์เจ้าตลาดเหนียวแน่น
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปคงต้องจับตาอย่ากระพริบ!... เพราะอีซูซุเพิ่งส่ง “มิว-เอ็กซ์” ใหม่ เครื่องยนต์บลูเพาเวอร์ลงสู่ตลาดในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา งานนี้จะเป็นการดวลศึกที่แท้จริงเสียที ว่าใครจะเป็นของแท้ในตลาดรถพีพีวีไทย?!
ในส่วนของรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี จากการเปิดเกมรุกของค่ายฮอนด้าที่ส่งรถรุ่นใหม่ มาเจาะเซกเมนท์ย่อยๆ ของกลุ่มรถเอสยูวี จึงไม่แปลกที่ฮอนด้าจะกินรวบตลาดนี้ อาจจะสลับตำแหน่งกันบ้าง อย่างรถรุ่นใหม่ล่าสุด “ฮอนด้า บีอาร์-วี” ที่มายึดตำแหน่งแชมป์แทนรุ่นเอชอาร์-วี จะมีมาแทรกบ้างก็เพียง “นิสสัน เอ็กซ์-เทรล” ใหม่ ที่มาเบียดฮอนด้า ซีอาร์-วีลงไป หรือการมาชิงส่วนแบ่งตลาดของ “มาสด้า ซีเอ็กซ์-3” แต่ก็ไม่ได้ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากนัก
นั่นคือรายงานยอดขายแบบเจาะลึกของ “ผู้จัดการมอเตอริ่ง” คงพอจะทำให้เห็นภาพของตลาดรถยนต์ไทย แต่นี่เป็นเพียงโค้งแรกของตลาดเท่านั้น จึงไม่ใช่บทสรุปของปีนี้ เพราะต้องดูกันยาวๆ อีก 3 ไตรมาสที่เหลือ หรืออย่างน้อยก็จบช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งน่าจะพอแสดงให้เห็นแนวโน้มชัดเจนมากขึ้น…
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ MGR Motoring
