ค่ายม้าลำพองเผยโฉมรถรุ่นใหม่ล่าสุด “เฟอร์รารี่ GTC4Lusso” ยนตรกรรมแบบสี่ที่นั่ง และเป็นครั้งแรกของแนวคิดรถยนต์แบบแกรนด์ทัวร์ พร้อมแนะนำระบบควบคุมการขับเคลื่อนจากล้อหลังเพิ่มเติมจากระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเป็นครั้งแรก
สุดยอดยนตรกรรมคันนี้ได้ถูกออกแบบมา เพื่อผู้ที่ต้องการสัมผัสสุนทรียะแห่งการขับขี่เฟอร์รารี่ในทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นระยะทางสั้นๆ หรือการเดินทางไกล ในสภาวะถนนบนภูเขาหิมะหรือถนนในเมือง ขับขี่คนเดียวหรือมีผู้โดยสารผู้โชคดีร่วมเดินทางไปด้วยได้อีกถึงสามท่าน สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการพลังขับเคลื่อนที่ไม่ธรรมดา แต่ยังต้องการความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ภาพลักษณ์ที่หรูหรา คล่องตัว และหรูหราในทุกรายละเอียด กล่าวคือ GTC4Lusso คันนี้จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือใคร เฉกเช่นรุ่น FF ก่อนหน้านี้ที่สร้างฐานลูกค้าของค่ายม้าลำพอง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ขับขี่กลุ่มใหม่ที่อายุน้อย และที่สำคัญคือมีการใช้งานรถยนต์มากขึ้นโดยเฉลี่ย 30% โดยดูจากตัวเลขไมล์
ชื่อ GTC4Lusso อ้างอิงรุ่นก่อนที่มีชื่อเสียง เช่น 330 GTC หรือรุ่นใกล้เคียงกันแบบสี่ที่นั่งอย่าง 330 GT ซึ่งเป็นหนึ่งในรถรุ่นโปรดของเอนโซ เฟอร์รารี่ และรุ่น 250 GT Berlinetta Lusso ที่เป็นต้นแบบการผสมผสานกันอย่างชาญฉลาดระหว่างความหรูหราสง่างาม และสมรรถนะสูง โดยตัวเลข 4 แสดงถึงรูปแบบสี่ที่นั่งอันแสนสะดวกสบายของรถคัน
เครื่องยนต์
ขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 12 สูบของ GTC4Lusso จะจ่ายพลังงานที่สม่ำเสมอ ผลิตกำลังแรงถึง 690 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที ทั้งอัตราส่วนน้ำหนักต่อพลังที่ 2.6 กิโลกรัมต่อแรงม้า และอัตราส่วนการบีบอัดที่ 13.5:1 สร้างสถิติใหม่ให้แก่ยนตรกรรมในประเภทเดียวกัน แรงบิดสูงสุด 697 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบต่อนาทีโดย 80 เปอร์เซนต์มาพร้อมในขณะเพียง 1,750 รอบต่อนาที เพื่อการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมแม้ในรอบเครื่องยนต์ต่ำ เสียงกระหึ่มอันทรงพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของเฟอร์รารี่สะท้อนบุคลิกของรถ สมรรถนะอันทรงพลัง หากแต่นุ่มนวลสำหรับการขับขี่ในเมือง
.
หลักพลศาสตร์
เฟอร์รารี่ GTV4Lusso เป็นสุดยอดรถอเนกประสงค์สำหรับทุกสภาวะถนนและการขับขี่ อันเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของเฟอร์รารี่ที่ผสานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและระบบควบคุมการขับเคลื่อนจากล้อหลังเป็นครั้งแรก ผลที่ได้คือระบบ 4RM-S หรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเชื่อมต่อกับพวงมาลัยควบคุม นอกจากนี้ ระบบควบคุมการทรงตัว หรือ Slip Side Control (4.0) อันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของค่ายม้าลำพอง ยังรวมระบบขับเคลื่อนแบบ differential ควบคุมโดยอิเล็กทรอนิกส์ (E-Diff) และทำงานร่วมกับช่วงล่างระบบซับแรงสั่นสะเทือนควบคุมโดยอิเลคทรอนิคส์ (SCM-E) ระบบควบคุมพลศาสตร์ของตัวรถอันซับซ้อนนี้ได้รับการผสมผสานกันอย่างกลมกลืนโดยซอฟท์แวร์อันเป็นกรรมสิทธ์ของเฟอร์รารี่ อันจะเอื้ออำนวยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมพลังจากเฟอร์รารี่ GTC4Lusso คันนี้ได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนเส้นทางที่ปกคลุมด้วยหิมะ หรือสภาพถนนที่เปียกหรือลาดเอียงก็ตาม
ผลที่ได้คือความรู้สึกมั่นใจของผู้ขับขี่และความปลอดภัยที่มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือกว่า ระบบควบคุมการสั่นสะเทือน SCM-E รุ่นใหม่นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมบนพื้นผิวถนนขรุขระ และแน่นอนเพื่อมอบความสะดวกสบายระหว่างการขับขี่สูงสุด
สมรรถนะระดับสูงของ GTC4Lusso ยังสืบเนื่องมาจากการพัฒนาระบบอากาศพลศาสตร์ใหม่ล่าสุด ไม่เพียงกระจังหน้าใหม่ที่ถูกพัฒนาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของช่องถ่ายเทอากาศจากห้องเครื่อง ช่องดักอากาศบนปีกที่ทำให้นึกถึงรถรุ่น 330 GT สปอยเลอร์หลังที่ติดตั้งกลมกลืนกับหลังคาอย่างแนบเนียน และระบบควบคุมกระแสลมใต้ท้องรถแบบสามทิศทางใหม่ล่าสุดเพื่อการทรงตัวที่ดีเยี่ยม นวัตกรรมที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดนี้ได้ผสมผสานกันและส่งผลให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงฉุดของอากาศต่ำกว่ารุ่น FF อย่างชัดเจน
รูปลักษณ์ภายนอก
GTC4Lusso ได้รับการออกแบบโดยเฟอร์รารี่โดยปรับแต่งเพิ่มเติมให้เป็นรถสปอร์ตอเนกประสงค์แบบสองประตู ถ่ายทอดแนวคิดเส้นสายที่อวดความสง่างาม เพรียวบางและคล่องตัว
จิตวิญญาณแห่งความเป็นรถสปอร์ตของยนตรกรรมคันนี้ได้ถูกเน้นย้ำโดยรูปลักษณ์ของเส้นสายด้านหลัง ที่ส่วนโค้งของหลังคาได้ลดระดับลงในขณะที่ยังคงรักษาพื้นที่และความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารสี่ท่าน เช่นเดียวกับช่องเก็บสัมภาระที่กว้างขวาง ไฟท้ายคู่อันเป็นสัญลักษณ์ของเฟอร์รารี่โดดเด่นที่ส่วนบั้นท้ายของตัวรถ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงเน้นย้ำความสง่างามแข็งแกร่งของตัวรถ แต่ยังทำงานร่วมกับท่อไอเสียเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายพลังงานของตัวรถจากหน้าจรดท้าย
การตกแต่งภายใน
รถคันนี้ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด เพื่อรังสรรค์ห้องโดยสารที่หรูหราแบบสปอร์ตอย่างไม่มีที่ติ ห้องโดยสารแบบคู่ได้รับการออกแบบเพื่อสร้างประสบการณ์อันสุนทรีย์ของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยที่นั่งตอนหลังติดตั้งหน้าจอแสดงผลส่วนตัวพร้อมหลากหลายฟังก์ชั่นการใช้งาน
การออกแบบอันล้ำสมัยของห้องโดยสารนี้ยังรวมถึงความงดงามของวัสดุที่เลือกสรรมาเป็นอย่างดี ผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มบรรยากาศขณะโดยสาร
เบาะโดยสารอันกว้างขวางทั้งสี่ที่นั่งได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด และสร้างบรรยากาศเช่นเดียวกับห้องพักผ่อนที่กว้างขวางและหรูหรา
นอกจากนี้ GTC4Lusso ยังเปิดตัวหน้าจออินโฟเทนเมนท์ใหม่ล่าสุดขนาด 10.25 นิ้ว ความคมชัดระดับสูง (HD) สั่งการด้วยเทคโนโลยีสัมผัส พวงมาลัยใหม่ถูกออกแบบให้กระชับด้วยขนาดของถุงลมนิรภัยที่เล็กลงและระบบควบคุมที่เหมาะกับการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่โฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ตยิ่งขึ้น
การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของยนตรกรรมล่าสุดสู่ทุกสายตาจะมีขึ้น ณ งานเจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ในเดือนมีนาคม แต่ภาพชุดพิเศษของ GTC4Lusso นี้สามารถชมได้แล้ววันนี้ที่ www.ferrari.com
สุดยอดยนตรกรรมคันนี้ได้ถูกออกแบบมา เพื่อผู้ที่ต้องการสัมผัสสุนทรียะแห่งการขับขี่เฟอร์รารี่ในทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นระยะทางสั้นๆ หรือการเดินทางไกล ในสภาวะถนนบนภูเขาหิมะหรือถนนในเมือง ขับขี่คนเดียวหรือมีผู้โดยสารผู้โชคดีร่วมเดินทางไปด้วยได้อีกถึงสามท่าน สำหรับผู้ขับขี่ที่ต้องการพลังขับเคลื่อนที่ไม่ธรรมดา แต่ยังต้องการความสะดวกสบายในห้องโดยสาร ภาพลักษณ์ที่หรูหรา คล่องตัว และหรูหราในทุกรายละเอียด กล่าวคือ GTC4Lusso คันนี้จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือใคร เฉกเช่นรุ่น FF ก่อนหน้านี้ที่สร้างฐานลูกค้าของค่ายม้าลำพอง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ขับขี่กลุ่มใหม่ที่อายุน้อย และที่สำคัญคือมีการใช้งานรถยนต์มากขึ้นโดยเฉลี่ย 30% โดยดูจากตัวเลขไมล์
ชื่อ GTC4Lusso อ้างอิงรุ่นก่อนที่มีชื่อเสียง เช่น 330 GTC หรือรุ่นใกล้เคียงกันแบบสี่ที่นั่งอย่าง 330 GT ซึ่งเป็นหนึ่งในรถรุ่นโปรดของเอนโซ เฟอร์รารี่ และรุ่น 250 GT Berlinetta Lusso ที่เป็นต้นแบบการผสมผสานกันอย่างชาญฉลาดระหว่างความหรูหราสง่างาม และสมรรถนะสูง โดยตัวเลข 4 แสดงถึงรูปแบบสี่ที่นั่งอันแสนสะดวกสบายของรถคัน
เครื่องยนต์
ขุมพลังเครื่องยนต์ขนาด 12 สูบของ GTC4Lusso จะจ่ายพลังงานที่สม่ำเสมอ ผลิตกำลังแรงถึง 690 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที ทั้งอัตราส่วนน้ำหนักต่อพลังที่ 2.6 กิโลกรัมต่อแรงม้า และอัตราส่วนการบีบอัดที่ 13.5:1 สร้างสถิติใหม่ให้แก่ยนตรกรรมในประเภทเดียวกัน แรงบิดสูงสุด 697 นิวตันเมตรที่ 5,750 รอบต่อนาทีโดย 80 เปอร์เซนต์มาพร้อมในขณะเพียง 1,750 รอบต่อนาที เพื่อการตอบสนองที่ยอดเยี่ยมแม้ในรอบเครื่องยนต์ต่ำ เสียงกระหึ่มอันทรงพลังอันเป็นเอกลักษณ์ของเฟอร์รารี่สะท้อนบุคลิกของรถ สมรรถนะอันทรงพลัง หากแต่นุ่มนวลสำหรับการขับขี่ในเมือง
.
หลักพลศาสตร์
เฟอร์รารี่ GTV4Lusso เป็นสุดยอดรถอเนกประสงค์สำหรับทุกสภาวะถนนและการขับขี่ อันเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของเฟอร์รารี่ที่ผสานระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและระบบควบคุมการขับเคลื่อนจากล้อหลังเป็นครั้งแรก ผลที่ได้คือระบบ 4RM-S หรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อเชื่อมต่อกับพวงมาลัยควบคุม นอกจากนี้ ระบบควบคุมการทรงตัว หรือ Slip Side Control (4.0) อันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะของค่ายม้าลำพอง ยังรวมระบบขับเคลื่อนแบบ differential ควบคุมโดยอิเล็กทรอนิกส์ (E-Diff) และทำงานร่วมกับช่วงล่างระบบซับแรงสั่นสะเทือนควบคุมโดยอิเลคทรอนิคส์ (SCM-E) ระบบควบคุมพลศาสตร์ของตัวรถอันซับซ้อนนี้ได้รับการผสมผสานกันอย่างกลมกลืนโดยซอฟท์แวร์อันเป็นกรรมสิทธ์ของเฟอร์รารี่ อันจะเอื้ออำนวยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมพลังจากเฟอร์รารี่ GTC4Lusso คันนี้ได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นการขับขี่บนเส้นทางที่ปกคลุมด้วยหิมะ หรือสภาพถนนที่เปียกหรือลาดเอียงก็ตาม
ผลที่ได้คือความรู้สึกมั่นใจของผู้ขับขี่และความปลอดภัยที่มาพร้อมสมรรถนะที่เหนือกว่า ระบบควบคุมการสั่นสะเทือน SCM-E รุ่นใหม่นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมบนพื้นผิวถนนขรุขระ และแน่นอนเพื่อมอบความสะดวกสบายระหว่างการขับขี่สูงสุด
สมรรถนะระดับสูงของ GTC4Lusso ยังสืบเนื่องมาจากการพัฒนาระบบอากาศพลศาสตร์ใหม่ล่าสุด ไม่เพียงกระจังหน้าใหม่ที่ถูกพัฒนาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของช่องถ่ายเทอากาศจากห้องเครื่อง ช่องดักอากาศบนปีกที่ทำให้นึกถึงรถรุ่น 330 GT สปอยเลอร์หลังที่ติดตั้งกลมกลืนกับหลังคาอย่างแนบเนียน และระบบควบคุมกระแสลมใต้ท้องรถแบบสามทิศทางใหม่ล่าสุดเพื่อการทรงตัวที่ดีเยี่ยม นวัตกรรมที่ออกแบบใหม่ทั้งหมดนี้ได้ผสมผสานกันและส่งผลให้ค่าสัมประสิทธิ์แรงฉุดของอากาศต่ำกว่ารุ่น FF อย่างชัดเจน
รูปลักษณ์ภายนอก
GTC4Lusso ได้รับการออกแบบโดยเฟอร์รารี่โดยปรับแต่งเพิ่มเติมให้เป็นรถสปอร์ตอเนกประสงค์แบบสองประตู ถ่ายทอดแนวคิดเส้นสายที่อวดความสง่างาม เพรียวบางและคล่องตัว
จิตวิญญาณแห่งความเป็นรถสปอร์ตของยนตรกรรมคันนี้ได้ถูกเน้นย้ำโดยรูปลักษณ์ของเส้นสายด้านหลัง ที่ส่วนโค้งของหลังคาได้ลดระดับลงในขณะที่ยังคงรักษาพื้นที่และความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารสี่ท่าน เช่นเดียวกับช่องเก็บสัมภาระที่กว้างขวาง ไฟท้ายคู่อันเป็นสัญลักษณ์ของเฟอร์รารี่โดดเด่นที่ส่วนบั้นท้ายของตัวรถ สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงเน้นย้ำความสง่างามแข็งแกร่งของตัวรถ แต่ยังทำงานร่วมกับท่อไอเสียเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายพลังงานของตัวรถจากหน้าจรดท้าย
การตกแต่งภายใน
รถคันนี้ได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด เพื่อรังสรรค์ห้องโดยสารที่หรูหราแบบสปอร์ตอย่างไม่มีที่ติ ห้องโดยสารแบบคู่ได้รับการออกแบบเพื่อสร้างประสบการณ์อันสุนทรีย์ของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยที่นั่งตอนหลังติดตั้งหน้าจอแสดงผลส่วนตัวพร้อมหลากหลายฟังก์ชั่นการใช้งาน
การออกแบบอันล้ำสมัยของห้องโดยสารนี้ยังรวมถึงความงดงามของวัสดุที่เลือกสรรมาเป็นอย่างดี ผสมผสานเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มบรรยากาศขณะโดยสาร
เบาะโดยสารอันกว้างขวางทั้งสี่ที่นั่งได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด และสร้างบรรยากาศเช่นเดียวกับห้องพักผ่อนที่กว้างขวางและหรูหรา
นอกจากนี้ GTC4Lusso ยังเปิดตัวหน้าจออินโฟเทนเมนท์ใหม่ล่าสุดขนาด 10.25 นิ้ว ความคมชัดระดับสูง (HD) สั่งการด้วยเทคโนโลยีสัมผัส พวงมาลัยใหม่ถูกออกแบบให้กระชับด้วยขนาดของถุงลมนิรภัยที่เล็กลงและระบบควบคุมที่เหมาะกับการใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสประสบการณ์ที่โฉบเฉี่ยวแบบสปอร์ตยิ่งขึ้น
การเปิดตัวอย่างเป็นทางการของยนตรกรรมล่าสุดสู่ทุกสายตาจะมีขึ้น ณ งานเจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ในเดือนมีนาคม แต่ภาพชุดพิเศษของ GTC4Lusso นี้สามารถชมได้แล้ววันนี้ที่ www.ferrari.com