“สวยและใหญ่มาก” นั่นคือความประทับใจแรกเมื่อได้สัมผัสกับ “ซูซูกิ เซียส” (Suzuki Ciaz) ซึ่งก็ตรงกับความคิดของบริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่เปิดตัวรถรุ่นนี้ออกมาภายใต้คอนเซ็ปต์ “รถยนต์ซีดานขนานแท้” โดยมีจุดเด่นในเรื่องความสวยแบบภูมิฐานและความใหญ่ ถึงขนาดที่กล้าออกมาเคลมว่ามีพื้นที่ห้องโดยสารใหญ่ที่สุดในตลาดระดับเดียวกัน เราลองมาดูกันดีกว่าว่า ที่ว่าสวยนั้น สวยแค่ไหน และใหญ่จริงหรือเปล่า
เรื่องความสวย ใครสวยกว่าใคร ยากที่จะฟันธงลงไป เพราะขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคน เซียสมาในสไตล์เรียบหรูดุจรถผู้บริหาร ส่วนแอททราจมาในแนวสปอร์ตวัยรุ่นจี๊ดจ๊าด แต่จุดที่แตกต่างกันเห็นๆ คือ ไฟหน้า ที่เซียสใช้ไฟหน้าแบบฮาโลเจนโปรเจคเตอร์ ส่วนแอททราจใช้แบบฮาโลเจนมัลติรีเฟล็กเตอร์ ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกภายใน สิ่งอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยนั้น ทั้งคู่พอๆ กัน
ขนาดและน้ำหนัก จากตารางจะเห็นว่าตัวถังภายนอกของเซียสยาวกว่าแอททราจอยู่ 24.5 เซนติเมตร หรือเกือบๆ 1 ฟุต ซึ่งถือว่ายาวมาก ส่งผลโดยตรงต่อห้องโดยสาร นั่นทำให้เวลาเราขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังแล้ว จะเหลือพื้นที่เอาไว้เหยียดแข้งเหยียดขาได้มากพอสมควร เข่าไม่ติดไม่ชนเบาะหน้าแต่อย่างใด ขณะที่ความกว้างของเซียสกว้างกว่าแอททราจอยู่ 6 เซนติเมตร หรือประมาณ 2 นิ้ว ผู้ใหญ่ 3 คนขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังเซียสเบบไหล่ชนไหล่ได้สบายๆ ไม่อึดอัด ยกเว้นความสูงของห้องโดยสารที่แอททราจสูงกว่าเซียสอยู่ประมาณ 3 เซนติเมตร แม้พื้นที่เหนือศีรษะของแอททราจจะมากกว่า แต่ถูกบีบด้วยความยาวและความกว้าง เมื่อเทียบกับของเซียสที่แม้จะมีพื้นที่บริเวณศีรษะน้อยกว่า แต่ถูกชดเชยด้วยพื้นที่ช่วงไหล่และช่วงขาที่กว้างและยาวกว่า ทำให้ในการใช้งานจริง เซียสจะนั่งสบายกว่าและรู้สึกอึดอัดน้อยกว่า
มาดูตัวเลขอื่นๆ กันบ้าง ตัวเลขระยะฐานล้อที่ยาวกว่า ช่วยให้เซียสนั่งสบายกว่าเมื่อเดินทางไกล ส่วนฐานล้อที่กว้างกว่าและระยะความสูงใต้ท้องรถที่น้อยกว่า จะช่วยในเรื่องการยึดเกาะถนนและความมั่นคงในขณะเข้าโค้ง
ในส่วนของเครื่องยนต์ จะเห็นว่าเซียสใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ขณะที่แอททราจใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ ข้อดีของเครื่องยนต์ 4 สูบก็คือ การทำงานที่นิ่งกว่าในขณะเดินเบา ทำให้เราไม่รู้สึกรำคาญเวลารถติด ในเรื่องสมรรถนะ ตัวเลขอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์บอกเราว่า ม้า 1 ตัวของเซียสแบกน้ำหนักน้อยกว่า นั่นทำให้เซียสแรงและเร็วกว่า ช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้ง่ายและมั่นใจกว่าในขณะเร่งแซง ส่วนเรื่องอัตราการกินน้ำมัน ตัวเลขที่เคลมมาจากโรงงาน เซียสทำได้ 20 กม./ลิตร ส่วนแอททราจทำได้ 22 กม./ลิตร
ในส่วนของช่วงล่าง ดูแล้วพอๆ กัน ไม่มีใครเด่นหรือด้อยกว่าใคร
ในภาพรวมจะเห็นว่าเซียสใหญ่กว่า นั่งสบายกว่า สมรรถนะดีกว่า เร่งแซงได้ง่ายกว่า การยึดเกาะถนนดีกว่า ขับเข้าโค้งมั่นใจได้มากกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอัตราการกินน้ำมันที่มากกว่าอยู่เล็กน้อย ส่วนเรื่องความสวย ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ดังนั้นใครที่กำลังมองหารถซีดานอีโคคาร์อยู่ละก็ ซูซูกิ เซียส เป็นตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่งที่จะต้องลองขับให้ได้ เชื่อว่า ซูซูกิ เซียส จะให้ความคุ้มค่าและความพึงพอใจสูงสุดแก่คุณได้อย่างแน่นอน
เรื่องความสวย ใครสวยกว่าใคร ยากที่จะฟันธงลงไป เพราะขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคน เซียสมาในสไตล์เรียบหรูดุจรถผู้บริหาร ส่วนแอททราจมาในแนวสปอร์ตวัยรุ่นจี๊ดจ๊าด แต่จุดที่แตกต่างกันเห็นๆ คือ ไฟหน้า ที่เซียสใช้ไฟหน้าแบบฮาโลเจนโปรเจคเตอร์ ส่วนแอททราจใช้แบบฮาโลเจนมัลติรีเฟล็กเตอร์ ส่วนเรื่องอื่นๆ เช่น อุปกรณ์มาตรฐานภายนอกภายใน สิ่งอำนวยความสะดวก และเทคโนโลยีความปลอดภัยนั้น ทั้งคู่พอๆ กัน
ขนาดและน้ำหนัก จากตารางจะเห็นว่าตัวถังภายนอกของเซียสยาวกว่าแอททราจอยู่ 24.5 เซนติเมตร หรือเกือบๆ 1 ฟุต ซึ่งถือว่ายาวมาก ส่งผลโดยตรงต่อห้องโดยสาร นั่นทำให้เวลาเราขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังแล้ว จะเหลือพื้นที่เอาไว้เหยียดแข้งเหยียดขาได้มากพอสมควร เข่าไม่ติดไม่ชนเบาะหน้าแต่อย่างใด ขณะที่ความกว้างของเซียสกว้างกว่าแอททราจอยู่ 6 เซนติเมตร หรือประมาณ 2 นิ้ว ผู้ใหญ่ 3 คนขึ้นไปนั่งที่เบาะหลังเซียสเบบไหล่ชนไหล่ได้สบายๆ ไม่อึดอัด ยกเว้นความสูงของห้องโดยสารที่แอททราจสูงกว่าเซียสอยู่ประมาณ 3 เซนติเมตร แม้พื้นที่เหนือศีรษะของแอททราจจะมากกว่า แต่ถูกบีบด้วยความยาวและความกว้าง เมื่อเทียบกับของเซียสที่แม้จะมีพื้นที่บริเวณศีรษะน้อยกว่า แต่ถูกชดเชยด้วยพื้นที่ช่วงไหล่และช่วงขาที่กว้างและยาวกว่า ทำให้ในการใช้งานจริง เซียสจะนั่งสบายกว่าและรู้สึกอึดอัดน้อยกว่า
มาดูตัวเลขอื่นๆ กันบ้าง ตัวเลขระยะฐานล้อที่ยาวกว่า ช่วยให้เซียสนั่งสบายกว่าเมื่อเดินทางไกล ส่วนฐานล้อที่กว้างกว่าและระยะความสูงใต้ท้องรถที่น้อยกว่า จะช่วยในเรื่องการยึดเกาะถนนและความมั่นคงในขณะเข้าโค้ง
ในส่วนของเครื่องยนต์ จะเห็นว่าเซียสใช้เครื่องยนต์แบบ 4 สูบ ขณะที่แอททราจใช้เครื่องยนต์ 3 สูบ ข้อดีของเครื่องยนต์ 4 สูบก็คือ การทำงานที่นิ่งกว่าในขณะเดินเบา ทำให้เราไม่รู้สึกรำคาญเวลารถติด ในเรื่องสมรรถนะ ตัวเลขอัตราส่วนน้ำหนักต่อกำลังเครื่องยนต์บอกเราว่า ม้า 1 ตัวของเซียสแบกน้ำหนักน้อยกว่า นั่นทำให้เซียสแรงและเร็วกว่า ช่วยให้การขับขี่เป็นไปได้ง่ายและมั่นใจกว่าในขณะเร่งแซง ส่วนเรื่องอัตราการกินน้ำมัน ตัวเลขที่เคลมมาจากโรงงาน เซียสทำได้ 20 กม./ลิตร ส่วนแอททราจทำได้ 22 กม./ลิตร
ในส่วนของช่วงล่าง ดูแล้วพอๆ กัน ไม่มีใครเด่นหรือด้อยกว่าใคร
ในภาพรวมจะเห็นว่าเซียสใหญ่กว่า นั่งสบายกว่า สมรรถนะดีกว่า เร่งแซงได้ง่ายกว่า การยึดเกาะถนนดีกว่า ขับเข้าโค้งมั่นใจได้มากกว่า แต่ก็ต้องแลกมาด้วยอัตราการกินน้ำมันที่มากกว่าอยู่เล็กน้อย ส่วนเรื่องความสวย ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน ดังนั้นใครที่กำลังมองหารถซีดานอีโคคาร์อยู่ละก็ ซูซูกิ เซียส เป็นตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาดอย่างยิ่งที่จะต้องลองขับให้ได้ เชื่อว่า ซูซูกิ เซียส จะให้ความคุ้มค่าและความพึงพอใจสูงสุดแก่คุณได้อย่างแน่นอน
(พื้นที่ประชาสัมพันธ์)
