ภายใต้ภาพรวมตลาดรถยนต์ไทยที่กำลังอยู่ในสภาวะซบเซา แต่หากโฟกัสไปบางตลาดอย่างกลุ่มรถหรูหรา กลับมียอดขายขยายตัวดีทีเดียวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งผู้บริโภคกลุ่มนี้คือบรรดาเศรษฐีกระเป๋าหนัก และย่อมเป็นลูกค้ากลุ่มเดียวกับรถสปอร์ต ทำให้ตลาดนี้มีความเคลื่อนไหวคึกคักไม่แพ้รถหรูหรา โดยมีการแนะนำรถใหม่สู่ตลาดต่อเนื่อง และในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ก็เช่นกัน รวมถึงงานแสดงรถสปอร์ต-ซูเปอร์คาร์ที่มีจัดให้ถอยรถกันกันหลายเวทีด้วย...
ในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา รถสปอร์ตที่สร้างความฮือฮาเห็นจะเป็น “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีที” ซึ่งที่นำเข้ามาเปิดตัววางขายในไทย ที่งานบางกอกฯ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 เป็นรุ่นเอเอ็มจี จีที เอส (AMG GT S) กับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 510 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 สปีด ไล่ความเร็วจากจุดหยุดนิ่งขึ้นไปถึง 100 กม./ชม. ใช้เวลาแค่ 3.8 วินาที เคาะราคาที่ 14.9 ล้านบาท
แต่ทีเด็ดของค่ายตราดาวยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เพราะเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เตรียมทัพรถใหม่บุกตลาดไทยปีนี้รวมถึง 15 รุ่น และในนั้นที่เป็นรถสปอร์ตนอกจากเอเอ็มจี จีที เอส ยังมีสปอร์ตคูเป้หรูตามออกมาเอาใจเศรษฐีไทยเท้าหนักอีกรุ่น “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส คูเป้” (Mercedes-Benz S-Class Coupe) มีกำหนดเผยโฉมในไทยอย่างเป็นทางการ 11 มิถุนายนที่จะถึงนี้
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส คูเป้ แม้จะเป็นรถสปอร์ตแต่มีความใหญ่โตทีเดียว เพราะใช้พื้นฐานร่วมกับรุ่นซีดาน คาดจะประเดิมตลาดกับรุ่นเอส500 คูเป้ เครื่องยนต์ วี8 ไบเทอร์โบ 4,663 ซีซี 455 แรงม้า ซึ่งมีรูปลักษณ์หน้าตาโฉบเฉี่ยวทันสมัย ตามแนวทางการออกแบบของค่ายตราดาว ที่จะเห็นในรถรุ่นใหม่ๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยเฉพาะเรื่องของกระจังและไฟหน้า ยิ่งสิ่งที่โดดเด่นของเอส-คลาส คูเป้ เมื่อมองจากภายนอกแล้วเจอทันที ย่อมเป็นชุดไฟหน้า LED พร้อมระบบไฟ Daytime ที่ใช้คริสตัลจาก “ชวารอฟสกี” ไม่น้อยกว่า 47 เม็ด
นี่จึงนับว่าหรูหราโดดเด่นเป็นสง่าไม่น้อยหน้ารุ่นซีดานของเอส-คลาส รวมถึงความหรูหราและทันสมัยของห้องโดยสาร กระหึ่มด้วยชุดเครื่องเสียงเซอราวด์ Burmester และระบบเสียง 3 มิติ Burmester High-End 3D และเช่นเดียวกับเทคโนโลยีทันสมัยที่ติดตั้งมา อย่างระบบ HUD-Head-up Display ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้าฝั่งผู้ขับ เช่น ความเร็วรถ, การจำกัดความเร็ว, ระบบนำทางผ่านดาวเทียม และข้อความต่างๆ ของระบบช่วยเหลือการขับ ตลอดจนระบบความปลอดภัยมาเต็ม อย่าง Intelligent Drive และระบบ PRE-SAFE ซึ่งแยกเป็นระบบย่อยมากมายจัดเต็ม
แน่นอนในฐานะของการเป็นรถสปอร์ตคูเป้ ช่วงล่างของเอส-คลาส คูเป้ จึงติดตั้งระบบกันสะเทือนเฉพาะกับฟังก์ชั่น MAGIC BODY CONTROL และมาพร้อมกับระบบ Curve Tilting Function ลดอาการโคลงของตัวรถขณะเข้าโค้ง ทำงานร่วมกับระบบช่วยการทรงตัว เช่น Active Body Control (ABC) ฟังก์ชั่น ROAD SURFACE SCAN และระบบ Active Body Control ปรับความหนืดของช๊อคฯ เป็นต้น
ออดี้เป็นอีกค่ายที่จะส่งรถสปอร์ตรุ่นใหม่ มาเสริมในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ หลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพิ่งเปิดตัว “ออดี้ ทีที” (Audi TT) เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ 4 สูบ 2.0 ลิตร ไดเรกอินเจกชัน เทอร์โบ 230 แรงม้าสู่ตลาดไทยไป โดยในรุ่นที่จะมาใหม่เป็นตัวแรง “ทีทีเอส” (TTS) ที่เพิ่มกำลังเป็น 310 แรงม้า นั่นทำให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.7 วินาที ขณะที่ระบบส่งกำลังใช้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคาขายประมาณ 5 ล้านบาทต้นๆ ส่วนเกียร์ S Tronic เป็นออปชันที่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งออดี้จะแถมระบบควบคุมการออกตัว launch control มาให้ได้ขับสนุกมากขึ้น
ส่วนค่ายใบพัดสีฟ้าบีเอ็มดับเบิลยู แม้ไฮไลต์ในปีนี้จะเป็นรุ่นไฮเอนด์ “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์7” โฉมใหม่ และในส่วนของรถสปอร์ตจะไม่มีโฉมใหม่แนะนำสู่ตลาดช่วงนี้ แต่น่าจะมีการนำเข้ารถสปอร์ต “ซีรีส์6” ในรุ่นปรับโฉมตามต่างประเทศมาบุกตลาดไทยช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยได้มีการปรับความโฉบเฉี่ยวกันชนหน้าใหม่ รวมถึงเพิ่มลูกเล่นอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น
แต่หากใครที่ชื่นชอบรถสปอร์ตแบบกะทัดรัด และสร้างชื่อเสียงจนเป็นตำนานอีกรุ่นในกลุ่มรถสปอร์ตโรดสเตอร์ คงต้องเตรียมเฮกับการเปิดตัวของ “มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5” (Mazda MX-5) โฉมใหม่ หรือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งได้พัฒนารูปลักษณ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “โคโดะ ดีไซน์” (KODO Design) เช่นเดียวกับรถรุ่นอื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟเปิดตัวก่อนหน้านี้
เอ็มเอ็กซ์-5 ใหม่ ยังคงคอนเซ็ปต์ของความเป็นสปอร์ตที่มีขนาดกะทัดรัด และมีน้ำหนักเบา ขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยการที่พัฒนาตัวรถให้มีน้ำหนักเพียง 1,000 กิโลกรัมเท่านั้น หรือเบากว่ารุ่นเดิมร่วมๆ 100 กิโลกรัม ส่วนความยาวสั้นลง 105 มิลลิเมตรอยู่ที่ 3,915 มิลลิเมตร เตี้ยลง 20 มิลลิเมตร อยู่ที่ 1,235 มิลลิเมตร และกว้างขึ้น 10 มิลลิเมตรเป็น 1,730 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อมีความยาว 2,315 มิลลิเมตร
สำหรับขุมพลังของเอ็มเอ็กซ์5 ใหม่ ในต่างประเทศติดตั้งขุมพลังมีให้เลือก 2 ขนาด เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร 160 แรงม้า และอีกรุ่น 1.5 ลิตร 131 แรงม้า โดยในไทยจะนำมาทำตลาดเป็นรุ่น SKYACTIV-G 2.0 ซึ่งเป็นบล็อกใหญ่น่าจะถูกในแฟนๆ ชาวไทยมากกว่า กำหนดทำตลาดในไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม หากใครที่สนใจชมรถสปอร์ตแบบหลายยี่ห้อในเวทีเดียวกัน ช่วงนี้ยังมี Emquartier The Ultimate SuperCar Showcase งานจัดแสดงซูเปอร์คาร์หลากหลายแบรนด์ชั้นนำของโลก จำนวน 19 คัน มูลค่ารวมกว่า 550 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น AstonMartin, Bentley, Ferrari, Lamborghini, Ferrari,McLaren, Maserati และ Porsche โดยงานจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. - 9 มิ.ย.นี้ ที่ Quartier Hall ศูนย์ประชุมและการจัดแสดงนิทรรศการแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ และยังมีงานใหญ่อย่าง BANGKOK IMPORTED CAR & USED CAR SHOW 2015 ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้อีกงาน
ในช่วงครึ่งแรกของปีที่ผ่านมา รถสปอร์ตที่สร้างความฮือฮาเห็นจะเป็น “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีที” ซึ่งที่นำเข้ามาเปิดตัววางขายในไทย ที่งานบางกอกฯ อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2015 เป็นรุ่นเอเอ็มจี จีที เอส (AMG GT S) กับขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน V8 ขนาด 4.0 ลิตร เทอร์โบคู่ 510 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ดูอัลคลัทช์ 7 สปีด ไล่ความเร็วจากจุดหยุดนิ่งขึ้นไปถึง 100 กม./ชม. ใช้เวลาแค่ 3.8 วินาที เคาะราคาที่ 14.9 ล้านบาท
แต่ทีเด็ดของค่ายตราดาวยังไม่หมดเพียงแค่นี้ เพราะเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เตรียมทัพรถใหม่บุกตลาดไทยปีนี้รวมถึง 15 รุ่น และในนั้นที่เป็นรถสปอร์ตนอกจากเอเอ็มจี จีที เอส ยังมีสปอร์ตคูเป้หรูตามออกมาเอาใจเศรษฐีไทยเท้าหนักอีกรุ่น “เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส คูเป้” (Mercedes-Benz S-Class Coupe) มีกำหนดเผยโฉมในไทยอย่างเป็นทางการ 11 มิถุนายนที่จะถึงนี้
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาส คูเป้ แม้จะเป็นรถสปอร์ตแต่มีความใหญ่โตทีเดียว เพราะใช้พื้นฐานร่วมกับรุ่นซีดาน คาดจะประเดิมตลาดกับรุ่นเอส500 คูเป้ เครื่องยนต์ วี8 ไบเทอร์โบ 4,663 ซีซี 455 แรงม้า ซึ่งมีรูปลักษณ์หน้าตาโฉบเฉี่ยวทันสมัย ตามแนวทางการออกแบบของค่ายตราดาว ที่จะเห็นในรถรุ่นใหม่ๆ ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ โดยเฉพาะเรื่องของกระจังและไฟหน้า ยิ่งสิ่งที่โดดเด่นของเอส-คลาส คูเป้ เมื่อมองจากภายนอกแล้วเจอทันที ย่อมเป็นชุดไฟหน้า LED พร้อมระบบไฟ Daytime ที่ใช้คริสตัลจาก “ชวารอฟสกี” ไม่น้อยกว่า 47 เม็ด
นี่จึงนับว่าหรูหราโดดเด่นเป็นสง่าไม่น้อยหน้ารุ่นซีดานของเอส-คลาส รวมถึงความหรูหราและทันสมัยของห้องโดยสาร กระหึ่มด้วยชุดเครื่องเสียงเซอราวด์ Burmester และระบบเสียง 3 มิติ Burmester High-End 3D และเช่นเดียวกับเทคโนโลยีทันสมัยที่ติดตั้งมา อย่างระบบ HUD-Head-up Display ฉายข้อมูลสำคัญขึ้นบนกระจกหน้าฝั่งผู้ขับ เช่น ความเร็วรถ, การจำกัดความเร็ว, ระบบนำทางผ่านดาวเทียม และข้อความต่างๆ ของระบบช่วยเหลือการขับ ตลอดจนระบบความปลอดภัยมาเต็ม อย่าง Intelligent Drive และระบบ PRE-SAFE ซึ่งแยกเป็นระบบย่อยมากมายจัดเต็ม
แน่นอนในฐานะของการเป็นรถสปอร์ตคูเป้ ช่วงล่างของเอส-คลาส คูเป้ จึงติดตั้งระบบกันสะเทือนเฉพาะกับฟังก์ชั่น MAGIC BODY CONTROL และมาพร้อมกับระบบ Curve Tilting Function ลดอาการโคลงของตัวรถขณะเข้าโค้ง ทำงานร่วมกับระบบช่วยการทรงตัว เช่น Active Body Control (ABC) ฟังก์ชั่น ROAD SURFACE SCAN และระบบ Active Body Control ปรับความหนืดของช๊อคฯ เป็นต้น
ออดี้เป็นอีกค่ายที่จะส่งรถสปอร์ตรุ่นใหม่ มาเสริมในช่วงไตรมาสสามของปีนี้ หลังจากเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เพิ่งเปิดตัว “ออดี้ ทีที” (Audi TT) เครื่องยนต์เบนซิน TFSI แบบ 4 สูบ 2.0 ลิตร ไดเรกอินเจกชัน เทอร์โบ 230 แรงม้าสู่ตลาดไทยไป โดยในรุ่นที่จะมาใหม่เป็นตัวแรง “ทีทีเอส” (TTS) ที่เพิ่มกำลังเป็น 310 แรงม้า นั่นทำให้อัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.7 วินาที ขณะที่ระบบส่งกำลังใช้เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคาขายประมาณ 5 ล้านบาทต้นๆ ส่วนเกียร์ S Tronic เป็นออปชันที่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งออดี้จะแถมระบบควบคุมการออกตัว launch control มาให้ได้ขับสนุกมากขึ้น
ส่วนค่ายใบพัดสีฟ้าบีเอ็มดับเบิลยู แม้ไฮไลต์ในปีนี้จะเป็นรุ่นไฮเอนด์ “บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์7” โฉมใหม่ และในส่วนของรถสปอร์ตจะไม่มีโฉมใหม่แนะนำสู่ตลาดช่วงนี้ แต่น่าจะมีการนำเข้ารถสปอร์ต “ซีรีส์6” ในรุ่นปรับโฉมตามต่างประเทศมาบุกตลาดไทยช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยได้มีการปรับความโฉบเฉี่ยวกันชนหน้าใหม่ รวมถึงเพิ่มลูกเล่นอุปกรณ์ต่างๆ มากขึ้น
แต่หากใครที่ชื่นชอบรถสปอร์ตแบบกะทัดรัด และสร้างชื่อเสียงจนเป็นตำนานอีกรุ่นในกลุ่มรถสปอร์ตโรดสเตอร์ คงต้องเตรียมเฮกับการเปิดตัวของ “มาสด้า เอ็มเอ็กซ์-5” (Mazda MX-5) โฉมใหม่ หรือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ซึ่งได้พัฒนารูปลักษณ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “โคโดะ ดีไซน์” (KODO Design) เช่นเดียวกับรถรุ่นอื่นๆ ที่ใช้เทคโนโลยีสกายแอคทีฟเปิดตัวก่อนหน้านี้
เอ็มเอ็กซ์-5 ใหม่ ยังคงคอนเซ็ปต์ของความเป็นสปอร์ตที่มีขนาดกะทัดรัด และมีน้ำหนักเบา ขับเคลื่อนล้อหลัง ด้วยการที่พัฒนาตัวรถให้มีน้ำหนักเพียง 1,000 กิโลกรัมเท่านั้น หรือเบากว่ารุ่นเดิมร่วมๆ 100 กิโลกรัม ส่วนความยาวสั้นลง 105 มิลลิเมตรอยู่ที่ 3,915 มิลลิเมตร เตี้ยลง 20 มิลลิเมตร อยู่ที่ 1,235 มิลลิเมตร และกว้างขึ้น 10 มิลลิเมตรเป็น 1,730 มิลลิเมตร ส่วนระยะฐานล้อมีความยาว 2,315 มิลลิเมตร
สำหรับขุมพลังของเอ็มเอ็กซ์5 ใหม่ ในต่างประเทศติดตั้งขุมพลังมีให้เลือก 2 ขนาด เครื่องยนต์เบนซิน SKYACTIV-G ขนาด 2.0 ลิตร 160 แรงม้า และอีกรุ่น 1.5 ลิตร 131 แรงม้า โดยในไทยจะนำมาทำตลาดเป็นรุ่น SKYACTIV-G 2.0 ซึ่งเป็นบล็อกใหญ่น่าจะถูกในแฟนๆ ชาวไทยมากกว่า กำหนดทำตลาดในไทยช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้แน่นอน
อย่างไรก็ตาม หากใครที่สนใจชมรถสปอร์ตแบบหลายยี่ห้อในเวทีเดียวกัน ช่วงนี้ยังมี Emquartier The Ultimate SuperCar Showcase งานจัดแสดงซูเปอร์คาร์หลากหลายแบรนด์ชั้นนำของโลก จำนวน 19 คัน มูลค่ารวมกว่า 550 ล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น AstonMartin, Bentley, Ferrari, Lamborghini, Ferrari,McLaren, Maserati และ Porsche โดยงานจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 29 พ.ค. - 9 มิ.ย.นี้ ที่ Quartier Hall ศูนย์ประชุมและการจัดแสดงนิทรรศการแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ และยังมีงานใหญ่อย่าง BANGKOK IMPORTED CAR & USED CAR SHOW 2015 ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้อีกงาน
