ข่าวในประเทศ-ค่ายสองล้อหรู “บีเอ็มดับเบิลยู” เพิ่มการประกอบมอเตอร์ไซค์ 3 รุ่น นำโดย F 700 GS, R 1200 GS และR 1200 GS Adventure พร้อมเคาะราคาจำหน่ายลดลงจากรุ่นนำเข้ากว่าแสนบาท เล็งขยายการทำตลาดและส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในอนาคต
แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า การขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดบิ๊กไบค์รวมถึงความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจขยายศักยภาพการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในตลาดประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยโรงงานโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป จังหวัดระยอง จะเริ่มสายการประกอบมอเตอร์ไซค์เพิ่มขึ้นอีก 3 รุ่นได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS, บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS และบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure
“เมื่อรวมกับสายการประกอบบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS และบีเอ็มดับเบิลยู F 800 R ส่งผลให้โรงงานของเราสามารถผลิตยนตรกรรมพรีเมียมสองล้อได้มากถึง 5 รุ่น และครอบคลุมตระกูล GS ยอดนิยม 4 รุ่นด้วยกัน การขยายศักยภาพการผลิตในครั้งนี้ ยังเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู เพื่อส่งออกไปยังตลาดประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ในอนาคตอันใกล้อีกด้วย”
สำหรับโมเดลประกอบในไทยเพิ่ม 3 รุ่น นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบ 4 วาล์ว ขนาด 798 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 75 แรงม้า (55 กิโลวัตต์) ที่ 7,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 77 นิวตันเมตรที่ 5,300 รอบต่อนาที มาพร้อมกับหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ แคทตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ และเกียร์ 6 สปีด ราคา 445,000 บาท
ตามด้วย บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS มาพร้อมกับระบบไฟหน้าแบบ LED พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานในเวลากลางวัน (Daytime running light) และสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้ง “Rain”, “Road”, “Dynamic”, “Enduro”, และ “Enduro Pro” พร้อมติดตั้งระบบ Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) หรือ การปรับค่าสปริงหรือความหนืดของโช๊คด้วยระบบไฟฟ้า สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาวะการขับขี่
ขุมพลังขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์แบบบ๊อกเซอร์ ขนาด 1,170 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ต่อ 7,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 125 นิวตันเมตร ต่อ 6,500 รอบต่อนาที โดยสามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 200 กม./ชม. โดยมีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 24.4 กม./ลิตร ราคา 950,000 บาท (รุ่นนำเข้า ราคา 1,2000,000 บาท)
โมเดลสุดท้าย บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure ยึดหลักการใช้งานอเนกประสงค์และขุมพลังขับเคลื่อนเช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS แต่เพิ่มออฟชันในการใช้งานที่สมบุกสมบันมากขึ้น ได้แก่ ถังน้ำมันเพิ่มปริมาตรความจุเป็น 30 ลิตร, สปริงรองรับแรงกระแทกมีความยาวเพิ่มขึ้น 0.8 นิ้ว ทั้งบริเวณล้อหน้าและล้อหลัง เมื่อเทียบกับบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS, บาร์ป้องกันเครื่องยนต์อันทรงพลังและถังน้ำมัน ราคา 1,050,000 บาท
นอกจากนี้ยังเปิดตัวโมเดลใหม่ที่ขยายการทำตลาดในไทย ได้แก่ The new F 800 R(ประกอบไทย) ราคา 450,000 บาท และ S 1000 XR ราคา 1,150,000 บาท
แจกบัตร "มอเตอร์โชว์ "คนละ 2ใบ มารับได้ที่ บ้านพระอาทิตย์ เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 8.30-18.00น. ติดต่อรับได้ที่โอเปอเรเตอร์ เบอร์ 02-6294488
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
แมทธิอัส พฟาลซ์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย เปิดเผยว่า การขยายตัวอย่างรวดเร็วของตลาดบิ๊กไบค์รวมถึงความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจขยายศักยภาพการประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งจะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ในตลาดประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยโรงงานโรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป จังหวัดระยอง จะเริ่มสายการประกอบมอเตอร์ไซค์เพิ่มขึ้นอีก 3 รุ่นได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS, บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS และบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure
“เมื่อรวมกับสายการประกอบบีเอ็มดับเบิลยู F 800 GS และบีเอ็มดับเบิลยู F 800 R ส่งผลให้โรงงานของเราสามารถผลิตยนตรกรรมพรีเมียมสองล้อได้มากถึง 5 รุ่น และครอบคลุมตระกูล GS ยอดนิยม 4 รุ่นด้วยกัน การขยายศักยภาพการผลิตในครั้งนี้ ยังเป็นก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การประกอบมอเตอร์ไซค์บีเอ็มดับเบิลยู เพื่อส่งออกไปยังตลาดประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ในอนาคตอันใกล้อีกด้วย”
สำหรับโมเดลประกอบในไทยเพิ่ม 3 รุ่น นำโดยบีเอ็มดับเบิลยู F 700 GS ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 2 สูบ 4 วาล์ว ขนาด 798 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 75 แรงม้า (55 กิโลวัตต์) ที่ 7,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 77 นิวตันเมตรที่ 5,300 รอบต่อนาที มาพร้อมกับหัวฉีดอิเล็กทรอนิกส์ แคทตาไลติกคอนเวอร์เตอร์ และเกียร์ 6 สปีด ราคา 445,000 บาท
ตามด้วย บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS มาพร้อมกับระบบไฟหน้าแบบ LED พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานในเวลากลางวัน (Daytime running light) และสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ทั้ง “Rain”, “Road”, “Dynamic”, “Enduro”, และ “Enduro Pro” พร้อมติดตั้งระบบ Dynamic ESA (Electronic Suspension Adjustment) หรือ การปรับค่าสปริงหรือความหนืดของโช๊คด้วยระบบไฟฟ้า สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกสภาวะการขับขี่
ขุมพลังขับเคลื่อนใช้เครื่องยนต์แบบบ๊อกเซอร์ ขนาด 1,170 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ต่อ 7,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 125 นิวตันเมตร ต่อ 6,500 รอบต่อนาที โดยสามารถเร่งความเร็วสูงสุดได้มากกว่า 200 กม./ชม. โดยมีอัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่ 24.4 กม./ลิตร ราคา 950,000 บาท (รุ่นนำเข้า ราคา 1,2000,000 บาท)
โมเดลสุดท้าย บีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS Adventure ยึดหลักการใช้งานอเนกประสงค์และขุมพลังขับเคลื่อนเช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS แต่เพิ่มออฟชันในการใช้งานที่สมบุกสมบันมากขึ้น ได้แก่ ถังน้ำมันเพิ่มปริมาตรความจุเป็น 30 ลิตร, สปริงรองรับแรงกระแทกมีความยาวเพิ่มขึ้น 0.8 นิ้ว ทั้งบริเวณล้อหน้าและล้อหลัง เมื่อเทียบกับบีเอ็มดับเบิลยู R 1200 GS, บาร์ป้องกันเครื่องยนต์อันทรงพลังและถังน้ำมัน ราคา 1,050,000 บาท
นอกจากนี้ยังเปิดตัวโมเดลใหม่ที่ขยายการทำตลาดในไทย ได้แก่ The new F 800 R(ประกอบไทย) ราคา 450,000 บาท และ S 1000 XR ราคา 1,150,000 บาท
แจกบัตร "มอเตอร์โชว์ "คนละ 2ใบ มารับได้ที่ บ้านพระอาทิตย์ เวลาทำการ จันทร์-ศุกร์ 8.30-18.00น. ติดต่อรับได้ที่โอเปอเรเตอร์ เบอร์ 02-6294488
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring