เชฟโรเลตประกาศยืนยันแผนการผลิตรถพลังงานไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นใหม่บนพื้นฐานของรถต้นแบบ โบลต์ อีวี (Bolt EV) โดยจะมีการผลิตที่ศูนย์การผลิตโอเรียน (Orion Assembly) ของเจนเนอรัล มอเตอร์ส ใกล้เมืองดีทรอยท์ ด้วยเงินลงทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
อลัน เบทีย์ ประธานกรรมการ จีเอ็ม อเมริกาเหนือ ประกาศแผนการผลิตโบลต์ อีวี ในงานชิคาโก ออโต้โชว์ โดยโบลต์ อีวี รุ่นต้นแบบเพิ่งได้รับการเผยโฉมครั้งแรกที่งานนอร์ธ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้โชว์ ในเมืองดีทรอยท์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
“เสียงตอบรับจากลูกค้าที่มีต่อโบลต์ อีวี มีความแน่นอนและชัดเจนนั่นคือพวกเขาต้องการให้เราผลิตออกจำหน่ายจริง” เบทีย์กล่าว “เรามีการดำเนินการอย่างรวดเร็วเพราะว่าโบลต์มีศักยภาพในการพลิกโฉมตลาดรถพลังงานไฟฟ้าในปัจจุบัน”
โบลต์ อีวี จะมาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ แบบเดียวกับที่ใช้ในเชฟโรเลต โวลต์ และสปาร์ก อีวี โดยโบลต์ได้รับการพัฒนาให้เป็นรถพลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนระยะไกลรองรับการใช้งานทั้งใน 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา สามารถขับเคลื่อนได้ระยะทางกว่า 200 ไมล์ (ประมาณ 321 กม.) จากการคาดคะเนของจีเอ็ม โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ
รถต้นแบบที่มีสไตล์อันล้ำหน้ารุ่นนี้ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่ที่ผู้ขับสามารถเลือกได้ตามต้องการ อาทิ การเดินทางในชีวิตประจำวัน โบลต์ยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการชาร์จไฟกระแสสลับแบบเร่งด่วน
“เรามีความภาคภูมิใจที่เชฟโรเลตตัดสินใจผลิตรถโบลต์ อีวี ที่ศูนย์การผลิตโอเรียนในรัฐมิชิแกนแห่งนี้” ริค ซไนเดอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกนกล่าว “แน่นอนว่ามิชิแกนยังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก เชฟโรเลตได้ตอกย้ำให้เห็นถึงทักษะของพนักงานที่เพียบพร้อม บุคลากรที่มีความสามารถและมุ่งมั่นทำงานหนักในโลกของยานยนต์อันล้ำสมัย เชฟโรเลตมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ยานยนต์ของรัฐมิชิแกนของเรา และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในมิชิแกนอย่างโบลต์ อีวี จะแสดงถึงอนาคตที่สดใสเบื้องหน้า”
สำหรับกำหนดการผลิตและรายละเอียดเพิ่มเติมจะได้รับการเปิดเผยอีกครั้ง โดยศูนย์การผลิตโอเรียนของจีเอ็ม ซึ่งดำเนินการผลิตรถซับคอมแพ็กต์เชฟโรเลต โซนิค และรถคอมแพกต์สุดหรูบูอิค เวอราโน พร้อมด้วยศูนย์พอนทิแอค เมทัล เซ็นเตอร์ ได้รับเงินลงทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อรองรับการเปิดสายการผลิตรถพลังงานไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ ศูนย์การผลิตโอเรียนได้รับเงินลงทุน 160 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการปรับปรุงเครื่องมือและอุปกรณ์ ส่วนศูนย์พอนทิแอคได้รับเงิน 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการจัดหาเครื่องปั๊มขึ้นรูปใหม่
“ในฐานะที่เป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลกของจีเอ็ม ศูนย์การผลิตโอเรียนมีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงในการผลิตรถพลังงานไฟฟ้าที่พร้อมพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์” ดัก แฮนลี่ ผู้จัดการศูนย์การผลิตโอเรียนและพอนทิแอค เมทัล เซ็นเตอร์ กล่าว “ด้วยการเป็นพันธมิตรกับสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐ 5960 และ 653 (UAW Locals 5960 และ 653) เรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณภาพสูงสุดไว้ในตัวรถ”
ศูนย์การผลิตโอเรียนตั้งอยู่ห่างจากเมืองดีทรอยท์ไปทางเหนือประมาณ 30 ไมล์ (48 กม.) ใช้พลังงานจากแก๊สจากโรงฝังกลบสองแห่งซึ่งช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้มากกว่า 6,300 ตันต่อปี พร้อมกับมีแผงโซลาร์เซลส์พลังงานแสงอาทิตย์ 350 กิโลวัตต์ ซึ่งสร้างพลังงานเทียบเท่ากับการใช้ในบ้านเรือน 165 หลัง และเพียงพอสำหรับการส่งพลังงานกลับเพื่อใช้ในบ้านเรือนประมาณ 45 หลัง
“ถือเป็นช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นสำหรับสมาชิกของเราหลังจากต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการสูญเสียศูนย์การผลิตแห่งนี้ไปในช่วงวิกฤตยานยนต์” ซินดี้ เอสตราดา รองประธานสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐฯ และผู้อำนวยการกลุ่มสหภาพของจีเอ็มกล่าว “สมาชิกของเรายังมีความภาคภูมิใจที่ศูนย์การผลิตโอเรียนของพวกเขาได้รับเลือกให้ผลิตรถเชฟโรเลตอีกหนึ่งรุ่นที่มีความโดดเด่นและจะได้รับความนิยมอย่างแน่นอน”
ศูนย์การผลิตโอเรียนถือเป็นศูนย์การผลิตแห่งแรกของจีเอ็มทีได้รับมาตรฐานองค์กรพลเมืองสะอาด (Clean Corporate Citizen) จากรัฐมิชิแกน ขณะที่ศูนย์พอนทิแอคก็ได้รับมาตรฐานเอเนอร์จี้ สตาร์ ชาลเลนจ์สำหรับภาคอุตสาหกรรม (ENERGY STAR® Challenge for Industry) จากหน่วยงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาถึงสามครั้ง
อลัน เบทีย์ ประธานกรรมการ จีเอ็ม อเมริกาเหนือ ประกาศแผนการผลิตโบลต์ อีวี ในงานชิคาโก ออโต้โชว์ โดยโบลต์ อีวี รุ่นต้นแบบเพิ่งได้รับการเผยโฉมครั้งแรกที่งานนอร์ธ อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล ออโต้โชว์ ในเมืองดีทรอยท์เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
“เสียงตอบรับจากลูกค้าที่มีต่อโบลต์ อีวี มีความแน่นอนและชัดเจนนั่นคือพวกเขาต้องการให้เราผลิตออกจำหน่ายจริง” เบทีย์กล่าว “เรามีการดำเนินการอย่างรวดเร็วเพราะว่าโบลต์มีศักยภาพในการพลิกโฉมตลาดรถพลังงานไฟฟ้าในปัจจุบัน”
โบลต์ อีวี จะมาพร้อมเทคโนโลยีแบตเตอรี่ชั้นนำในอุตสาหกรรมยานยนต์ แบบเดียวกับที่ใช้ในเชฟโรเลต โวลต์ และสปาร์ก อีวี โดยโบลต์ได้รับการพัฒนาให้เป็นรถพลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนระยะไกลรองรับการใช้งานทั้งใน 50 รัฐของสหรัฐอเมริกา สามารถขับเคลื่อนได้ระยะทางกว่า 200 ไมล์ (ประมาณ 321 กม.) จากการคาดคะเนของจีเอ็ม โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ
รถต้นแบบที่มีสไตล์อันล้ำหน้ารุ่นนี้ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่ที่ผู้ขับสามารถเลือกได้ตามต้องการ อาทิ การเดินทางในชีวิตประจำวัน โบลต์ยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการชาร์จไฟกระแสสลับแบบเร่งด่วน
“เรามีความภาคภูมิใจที่เชฟโรเลตตัดสินใจผลิตรถโบลต์ อีวี ที่ศูนย์การผลิตโอเรียนในรัฐมิชิแกนแห่งนี้” ริค ซไนเดอร์ ผู้ว่าการรัฐมิชิแกนกล่าว “แน่นอนว่ามิชิแกนยังเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก เชฟโรเลตได้ตอกย้ำให้เห็นถึงทักษะของพนักงานที่เพียบพร้อม บุคลากรที่มีความสามารถและมุ่งมั่นทำงานหนักในโลกของยานยนต์อันล้ำสมัย เชฟโรเลตมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ยานยนต์ของรัฐมิชิแกนของเรา และผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในมิชิแกนอย่างโบลต์ อีวี จะแสดงถึงอนาคตที่สดใสเบื้องหน้า”
สำหรับกำหนดการผลิตและรายละเอียดเพิ่มเติมจะได้รับการเปิดเผยอีกครั้ง โดยศูนย์การผลิตโอเรียนของจีเอ็ม ซึ่งดำเนินการผลิตรถซับคอมแพ็กต์เชฟโรเลต โซนิค และรถคอมแพกต์สุดหรูบูอิค เวอราโน พร้อมด้วยศูนย์พอนทิแอค เมทัล เซ็นเตอร์ ได้รับเงินลงทุน 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อรองรับการเปิดสายการผลิตรถพลังงานไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ ศูนย์การผลิตโอเรียนได้รับเงินลงทุน 160 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการปรับปรุงเครื่องมือและอุปกรณ์ ส่วนศูนย์พอนทิแอคได้รับเงิน 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการจัดหาเครื่องปั๊มขึ้นรูปใหม่
“ในฐานะที่เป็นหนึ่งในศูนย์การผลิตที่มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในโลกของจีเอ็ม ศูนย์การผลิตโอเรียนมีความเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงในการผลิตรถพลังงานไฟฟ้าที่พร้อมพลิกโฉมอุตสาหกรรมยานยนต์” ดัก แฮนลี่ ผู้จัดการศูนย์การผลิตโอเรียนและพอนทิแอค เมทัล เซ็นเตอร์ กล่าว “ด้วยการเป็นพันธมิตรกับสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐ 5960 และ 653 (UAW Locals 5960 และ 653) เรามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างคุณภาพสูงสุดไว้ในตัวรถ”
ศูนย์การผลิตโอเรียนตั้งอยู่ห่างจากเมืองดีทรอยท์ไปทางเหนือประมาณ 30 ไมล์ (48 กม.) ใช้พลังงานจากแก๊สจากโรงฝังกลบสองแห่งซึ่งช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้มากกว่า 6,300 ตันต่อปี พร้อมกับมีแผงโซลาร์เซลส์พลังงานแสงอาทิตย์ 350 กิโลวัตต์ ซึ่งสร้างพลังงานเทียบเท่ากับการใช้ในบ้านเรือน 165 หลัง และเพียงพอสำหรับการส่งพลังงานกลับเพื่อใช้ในบ้านเรือนประมาณ 45 หลัง
“ถือเป็นช่วงเวลาอันน่าตื่นเต้นสำหรับสมาชิกของเราหลังจากต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการสูญเสียศูนย์การผลิตแห่งนี้ไปในช่วงวิกฤตยานยนต์” ซินดี้ เอสตราดา รองประธานสหภาพแรงงานยานยนต์สหรัฐฯ และผู้อำนวยการกลุ่มสหภาพของจีเอ็มกล่าว “สมาชิกของเรายังมีความภาคภูมิใจที่ศูนย์การผลิตโอเรียนของพวกเขาได้รับเลือกให้ผลิตรถเชฟโรเลตอีกหนึ่งรุ่นที่มีความโดดเด่นและจะได้รับความนิยมอย่างแน่นอน”
ศูนย์การผลิตโอเรียนถือเป็นศูนย์การผลิตแห่งแรกของจีเอ็มทีได้รับมาตรฐานองค์กรพลเมืองสะอาด (Clean Corporate Citizen) จากรัฐมิชิแกน ขณะที่ศูนย์พอนทิแอคก็ได้รับมาตรฐานเอเนอร์จี้ สตาร์ ชาลเลนจ์สำหรับภาคอุตสาหกรรม (ENERGY STAR® Challenge for Industry) จากหน่วยงานพิทักษ์สิ่งแวดล้อมของสหรัฐอเมริกาถึงสามครั้ง
