ข่าวต่างประเทศ- เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประกาศรายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญประจำไตรมาสที่สี่ปี 2257 อยู่ที่ 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2556
เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ประกาศรายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญประจำไตรมาสที่สี่ปี 2557 อยู่ที่ 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด ซึ่งรวมถึงการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษ 0.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด และรายการพิเศษระหว่างไตรมาส 0.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการหักรายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญที่เกี่ยวกับการลดจำนวนหุ้นบุริมสิทธิลำดับที่หนึ่งทั้งหมด (Series A)
รายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญของจีเอ็มในไตรมาสที่สี่ของปี 2556 อยู่ที่ 0.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด รวมถึงการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษ 0.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด รายได้ในไตรมาสที่สี่ของปี 2557 อยู่ที่ 39.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ 40.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สี่ของปี 2556
กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สี่ของปี 2557 เมื่อเทียบกับ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสสี่ของปี 2556
“ผลประกอบการของไตรมาสที่สี่อันแข็งแกร่งทำให้เรามีผลการดำเนินงานที่ดีมากในปี 2557 ถึงแม้เราและอุตสาหกรรมยานยนต์จะต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ” แมรี่ บาร์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็มกล่าว “ด้วยการให้ลูกค้าเป็นหัวใจในทุกการตัดสินใจของเรา เรารับมือกับความท้าทายโดยตรงและวางแผนกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าซึ่งจะนำบริษัทของเราให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคต”
สำหรับผลประกอบการตลอดปี 2557 จีเอ็มรายงานรายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญในปี 2557 อยู่ที่ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด ลดลงจาก 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 2.38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลดในปี 2556 ผลประกอบการของการปฏิบัติงานหลักปรับตัวดีขึ้นในปี 2557 แต่ถูกชดเชยจากการเรียกคืนรถและต้นทุนการปรับโครงสร้างรวมถึงการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษ
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ประกาศรายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญประจำไตรมาสที่สี่ปี 2557 อยู่ที่ 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.66 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด ซึ่งรวมถึงการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษ 0.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.53 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด และรายการพิเศษระหว่างไตรมาส 0.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการหักรายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญที่เกี่ยวกับการลดจำนวนหุ้นบุริมสิทธิลำดับที่หนึ่งทั้งหมด (Series A)
รายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญของจีเอ็มในไตรมาสที่สี่ของปี 2556 อยู่ที่ 0.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.57 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด รวมถึงการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษ 0.2 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 0.10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด รายได้ในไตรมาสที่สี่ของปี 2557 อยู่ที่ 39.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับ 40.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สี่ของปี 2556
กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสที่สี่ของปี 2557 เมื่อเทียบกับ 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสสี่ของปี 2556
“ผลประกอบการของไตรมาสที่สี่อันแข็งแกร่งทำให้เรามีผลการดำเนินงานที่ดีมากในปี 2557 ถึงแม้เราและอุตสาหกรรมยานยนต์จะต้องเผชิญกับความท้าทายต่างๆ” แมรี่ บาร์ร่า ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของจีเอ็มกล่าว “ด้วยการให้ลูกค้าเป็นหัวใจในทุกการตัดสินใจของเรา เรารับมือกับความท้าทายโดยตรงและวางแผนกลยุทธ์ที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าซึ่งจะนำบริษัทของเราให้ก้าวไกลต่อไปในอนาคต”
สำหรับผลประกอบการตลอดปี 2557 จีเอ็มรายงานรายได้สุทธิสำหรับผู้ถือหุ้นสามัญในปี 2557 อยู่ที่ 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 1.65 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลด ลดลงจาก 3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 2.38 เหรียญสหรัฐฯ ต่อหุ้นปรับลดในปี 2556 ผลประกอบการของการปฏิบัติงานหลักปรับตัวดีขึ้นในปี 2557 แต่ถูกชดเชยจากการเรียกคืนรถและต้นทุนการปรับโครงสร้างรวมถึงการขาดทุนสุทธิจากรายการพิเศษ
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring