ข่าวต่างประเทศ- คอนติเนนทอล ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำของโลก โชว์การเชื่อมต่อยานยนต์เข้ากับระบบคลาวด์ ในงานConsumer Electronics Show 2015 ที่จัดขึ้นในลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา ต้นปีที่ผ่านมา ภายใต้ธีม “The Power of Intelligent Mobility” โชว์ 4 สุดยอดนวัตกรรมใหม่ด้านการควบคุม ความบันเทิง ข้อมูล และความปลอดภัย
“ในงาน CES 2015 เราแสดงให้เห็นว่าโลกออนไลน์ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ได้ช่วยให้ยานยนต์มีความน่าสนใจมากขึ้น รวมทั้งมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย นี่คือเหตุผลที่เรานำโซลูชั่นที่พร้อมให้บริการมาแสดงให้ลูกค้าได้เห็นในงานนี้” มร. เฮลมุต มัตส์ชี กรรมการบริหารและหัวหน้ากลุ่มธุรกิจอุปกรณ์ภายในยานยนต์ของคอนติเนนทอลกล่าว
eHorizonเซ็นเซอร์ระบบคลาวด์
ไฮไลท์นวัตกรรมของคอนติเนนทอลในปีนี้ คือElectronic Horizon หรือ eHorizonที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างIBM และบริษัทคลาวด์ HEREโดยคอนติเนนทอลได้เปลี่ยนแผนที่ดิจิทัลให้กลายเป็นตัวเซ็นเซอร์ ให้ข้อมูลอัพเดทอย่างต่อเนื่องและมีความแม่นยำสูง ที่ให้ประโยชน์ได้มากกว่าแค่การนำทางเพียงอย่างเดียว
“ด้วย eHorizon ใหม่ เราสามารถที่จะนำข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่น สภาพอากาศ สภาพการจราจร หรือการก่อสร้างระหว่างทางใส่ลงในแผนที่ดิจิทัล และเตรียมข้อมูลเหล่านี้ให้กับอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์” นาย มัตส์ชี กล่าว ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ จะถูกรวบรวมด้วยหลักการของการแบ่งปันข้อมูลให้แก่กันของผู้ขับขี่“ในความเป็นจริงแล้วeHorizon จะเปลี่ยนยานยนต์ให้กลายเป็นตัวเซ็นเซอร์เคลื่อนที่ ซึ่งจะทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลบนท้องถนนผ่านระบบคลาวด์ตลอดเวลานั่นเอง"
นอกจาก eHorizon แล้วยังมีไฮไลท์อื่นๆ ที่ใช้ประโยชน์จากคลาวด์ที่คอนติเนนทอลนำมาสาธิตในงานนี้ อาทิ การจัดการพลังงานผ่านอินเทอร์เน็ตสำหรับระบบไฮบริด 48 Volt Eco Driveของคอนติเนนทอล ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุดระหว่างการขับรถจุดสำคัญคือ ตัวควบคุมเครื่องส่งกำลังกลางที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตจะใช้ข้อมูลจากคลาวด์เพื่อยกระดับฟังก์ชั่นการทำงาน เช่น การขับเคลื่อน การเลื่อนของยานยนต์ หรือการนำพลังงานกลับมาใช้เทคโนโลยี eHorizonได้มีการขยายขอบข่ายการใช้งานมากขึ้น รวมไปถึงระบบควบคุมรถอัตโนมัติซึ่งจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อให้ยานพาหนะ “สามารถมองเห็นได้รอบด้าน”
เทเลเมติคส์เพิ่มประสิทธิภาพระบบSTARLINKในรถซูบารุ
จากจุดเริ่มต้นของบริการอินเทอร์เน็ตต่างๆ ที่เชื่อมโยงผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่เชื่อถือได้ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาเกือบ 2 ทศวรรษ คอนติเนนทอลได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการเชื่อมโยงรถยนต์เข้าสู่โลกออนไลน์โดยเริ่มจากตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกาในปีนี้โมดูลเทเลเมติกส์ผ่านLTE ของคอนติเนนทอลจะให้บริการเชื่อมต่อสำหรับเทคโนโลยี“STARLINK”ในรถยนต์ซูบารุ อันประกอบไปด้วยระบบการกู้คืนรถยนต์เมื่อรถยนต์เกิดสูญหาย(Stolen Vehicle Recovery), ระบบการแจ้งเตือนอุบัติเหตุอัตโนมัติ (Automatic Collision Notification) ระบบรีโมทรถยนต์ เช่น การควบคุมระบบล็อคและปลดล็อคผ่านโทรศัพท์มือถือและรายงานสมรรถนะเครื่องยนต์ประจำเดือน(Monthly Vehicle Health Report)ซึ่งช่วยให้ลูกค้าติดตามสถานะการทำงานของระบบเครื่องยนต์ที่สำคัญต่างๆได้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ การพัฒนาระบบเชื่อมต่อในรถยนต์ของคอนติเนนทอลอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญแก่ผู้ขับขี่ทั่วโลก และเทคโนโลยีของคอนติเนนทอลสามารถตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี
กุญแจอัจฉริยะ Smart Watchเทคโนโลยีเปิดปิดประตูรถแบบใหม่
สำหรับคอนติเนนทอล การเชื่อมต่อเริ่มได้จากด้านนอกของรถยนต์ “เราจะช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่พวกเขาคุ้นเคยในการควบคุมฟังก์ชั่นในรถยนต์ ตัวอย่างเช่น ในงาน CES คอนติเนนทอลได้แสดงให้เห็นว่าสมาร์ทวอทช์ที่อยู่บนข้อมือของผู้ขับสามารถใช้เป็นกุญแจรีโมทรถได้” นาย มัตส์ชี กล่าว
สมาร์ทวอทช์เปรียบเสมือนเป็นกุญแจรถ ที่ใช้บลูทูธเชื่อมต่อกับกุญแจรีโมทระบบสองทิศทางของคอนติเนนทอล หรือรู้จักกันในนาม“คีย์เกตเวย์”ซึ่งจะทำการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์และสมาร์ทวอทช์ ในการโอนถ่ายข้อมูล (ยานพาหนะ ข้อมูลการตรวจสอบ และรายละเอียดของผู้ใช้) ไปยังรถยนต์เพื่อประมวลผล สมาร์ทวอทช์จะถูกใช้เป็นอุปกรณ์ในการดำเนินงาน โดยผู้ขับขี่จะสามารถเปิดหรือปิดรถยนต์ หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลอื่นได้ง่ายๆ ด้วยแอพลิเคชั่นบนหน้าจอแสดงผลของสมาร์ทวอทช์
โค้งมนและคมชัดด้วยหน้าจอสัมผัส OLED
หน้าจอสัมผัสกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโทรศัพท์มือถือ ที่พัฒนาจากโทรศัพท์มือถือแบบธรรมดาไปเป็นสมาร์ทโฟน ยานยนต์ก็ต้องการหน้าจอสัมผัส พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานที่ครบถ้วน และสามารถเชื่อมต่อเข้ากับยานยนต์ได้ คอนติเนนทอลจึงนำเสนอหน้าจอสัมผัสโค้งแบบ OLED ความคมชัดสูง สามารถแสดงข้อมูลได้ชัดเจน และระบบสัมผัสที่เอื้อต่อการสั่งงานอย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเทคโนโลยีใหม่นี้คือความโค้ง ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์มีอิสระในการออกแบบจอแสดงผล ตัวอย่างเช่น การออกแบบจอแสดงผลที่ติดตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของคอนโซลรถ หน้าจอระบบสัมผัสแบบ OLED ของคอนติเนนทอลทำขึ้นจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพิเศษและกระจกแบบแข็ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการแสดงผลเป็นไปในแบบที่ต้องการ และมีอายุการใช้งานได้นาน
เทคโนโลยีARตรวจเช็คและซ่อมแซมอย่างมีประสิทธิภาพ
บริการผ่านอินเทอร์เน็ตครอบคลุมไปถึงตลาดหลังการขาย และสามารถช่วยให้การตรวจสอบและซ่อมแซมยานยนต์ทำได้สะดวกขึ้นด้วยเหตุนี้ คอนติเนนทอลจึงนำเสนอโซลูชั่น ‘Connected Technician’โดยใช้เทคโนโลยี Augmented Realityแอพพลิเคชั่นจากแท็บเล็ตจะเชื่อมต่อเข้ากับรถผ่านอินเตอร์เฟสการสื่อสารแบบไร้สายและคอยแนะนำช่างเทคนิคทีละขั้นตอนตลอดกระบวนการตรวจสอบและซ่อมแซม โดยจะให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดในแต่ละขั้นตอนเช่น ลำดับการทำงาน ชิ้นส่วนที่มีความบกพร่อง หรือเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับงานนั้นๆ ทำให้ช่างสามารถใส่ใจเฉพาะกับยานยนต์ การบูรณาการเข้ากับระบบการจัดการของดีลเลอร์จะช่วยให้ช่างเทคนิคทำงานได้อย่างถูกต้อง และกระบวนการตรวจสอบทั้งหมดจะทำให้รู้ประเภทของรถยนต์ พบความผิดปกติ รวมถึงให้ข้อมูลทางเทคนิคทั้งหมดสำหรับรถยนต์ได้โดยอัตโนมัติโดยรวมแล้ว เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้การตรวจเช็คและซ่อมแซมยานยนต์ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และแม่นยำขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนเพื่อการให้บริการอีกด้วย ในงาน CES คอนติเนนทอลได้สาธิตการใช้งานเทคโนโลยี Augmented Realityด้วยเสียงพร้อมอุปกรณ์เสริมสำหรับใช้พูดคุยซึ่งจะช่วยให้ช่างเทคนิคทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เซ็นเซอร์สภาพแวดล้อมรอบตัวเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและเพิ่มความสะดวกสบาย
อุปกรณ์จับเซ็นเซอร์ต่างๆ อาทิ กล้อง เรดาร์ และตัวจับแสงและระยะ (ไลดาร์) เป็นเครื่องมืออัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ขับรถยนต์ขับได้อย่างสบายใจมากขึ้น อุปกรณ์เหล่านี้ทำงานโดยการตรวจวัดสิ่งแวดล้อมรอบยานยนต์ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้การขับขี่ซึ่งเป็นเป้าหมายของคอนติเนนทอลคือการขับขี่ปลอดอุบัติเหตุ เมื่อเป้าหมายคือความปลอดภัย การตรวจจับแค่ด้านหน้าและด้านหลังรถไม่เพียงพอ การตรวจจับรอบตัวรถคือสิ่งจำเป็น ซึ่งนี่คือก้าวต่อไปของการขับขี่ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ
ตัว Surround View ของคอนติเนนทอลสามารถตรวจจับได้ 360 องศารอบตัวรถ การผสมผสานกล้องหลังกับโซลูชั่น Advanced Driver Assistance Systems จะช่วยลดอัตราผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจากการถูกชนจากทางด้านหลังได้เป็นอย่างมาก ในปี 2557 สานักงานบริหารทางหลวง และความปลอดภัยทางการจราจรของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) ออกข้อบังคับว่า ภายในปี 2561 รถน้ำหนักเบาทุกคันต้องติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยในการมองเห็นทางด้านหลัง (กล้องสำรอง)ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเซ็นเซอร์เหล่านี้ยังสามารถเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการขับรถแบบอัตโนมัติ เซ็นเซอร์เหล่านี้ และการผสมผสานข้อมูลของตัวเซ็นเซอร์จะพัฒนาไปสู่ขั้นต่อๆ ไปของการขับรถแบบอัตโนมัติ
“ในงาน CES 2015 เราแสดงให้เห็นว่าโลกออนไลน์ที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ได้ช่วยให้ยานยนต์มีความน่าสนใจมากขึ้น รวมทั้งมีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย นี่คือเหตุผลที่เรานำโซลูชั่นที่พร้อมให้บริการมาแสดงให้ลูกค้าได้เห็นในงานนี้” มร. เฮลมุต มัตส์ชี กรรมการบริหารและหัวหน้ากลุ่มธุรกิจอุปกรณ์ภายในยานยนต์ของคอนติเนนทอลกล่าว
eHorizonเซ็นเซอร์ระบบคลาวด์
ไฮไลท์นวัตกรรมของคอนติเนนทอลในปีนี้ คือElectronic Horizon หรือ eHorizonที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือกับพันธมิตรอย่างIBM และบริษัทคลาวด์ HEREโดยคอนติเนนทอลได้เปลี่ยนแผนที่ดิจิทัลให้กลายเป็นตัวเซ็นเซอร์ ให้ข้อมูลอัพเดทอย่างต่อเนื่องและมีความแม่นยำสูง ที่ให้ประโยชน์ได้มากกว่าแค่การนำทางเพียงอย่างเดียว
“ด้วย eHorizon ใหม่ เราสามารถที่จะนำข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เช่น สภาพอากาศ สภาพการจราจร หรือการก่อสร้างระหว่างทางใส่ลงในแผนที่ดิจิทัล และเตรียมข้อมูลเหล่านี้ให้กับอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์” นาย มัตส์ชี กล่าว ข้อมูลจากแหล่งต่างๆ จะถูกรวบรวมด้วยหลักการของการแบ่งปันข้อมูลให้แก่กันของผู้ขับขี่“ในความเป็นจริงแล้วeHorizon จะเปลี่ยนยานยนต์ให้กลายเป็นตัวเซ็นเซอร์เคลื่อนที่ ซึ่งจะทำการแลกเปลี่ยนข้อมูลบนท้องถนนผ่านระบบคลาวด์ตลอดเวลานั่นเอง"
นอกจาก eHorizon แล้วยังมีไฮไลท์อื่นๆ ที่ใช้ประโยชน์จากคลาวด์ที่คอนติเนนทอลนำมาสาธิตในงานนี้ อาทิ การจัดการพลังงานผ่านอินเทอร์เน็ตสำหรับระบบไฮบริด 48 Volt Eco Driveของคอนติเนนทอล ซึ่งจะช่วยให้การทำงานของเครื่องยนต์มีประสิทธิภาพสูงสุดระหว่างการขับรถจุดสำคัญคือ ตัวควบคุมเครื่องส่งกำลังกลางที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตจะใช้ข้อมูลจากคลาวด์เพื่อยกระดับฟังก์ชั่นการทำงาน เช่น การขับเคลื่อน การเลื่อนของยานยนต์ หรือการนำพลังงานกลับมาใช้เทคโนโลยี eHorizonได้มีการขยายขอบข่ายการใช้งานมากขึ้น รวมไปถึงระบบควบคุมรถอัตโนมัติซึ่งจำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อให้ยานพาหนะ “สามารถมองเห็นได้รอบด้าน”
เทเลเมติคส์เพิ่มประสิทธิภาพระบบSTARLINKในรถซูบารุ
จากจุดเริ่มต้นของบริการอินเทอร์เน็ตต่างๆ ที่เชื่อมโยงผ่านเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่เชื่อถือได้ ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาเกือบ 2 ทศวรรษ คอนติเนนทอลได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญในการเชื่อมโยงรถยนต์เข้าสู่โลกออนไลน์โดยเริ่มจากตลาดรถยนต์สหรัฐอเมริกาในปีนี้โมดูลเทเลเมติกส์ผ่านLTE ของคอนติเนนทอลจะให้บริการเชื่อมต่อสำหรับเทคโนโลยี“STARLINK”ในรถยนต์ซูบารุ อันประกอบไปด้วยระบบการกู้คืนรถยนต์เมื่อรถยนต์เกิดสูญหาย(Stolen Vehicle Recovery), ระบบการแจ้งเตือนอุบัติเหตุอัตโนมัติ (Automatic Collision Notification) ระบบรีโมทรถยนต์ เช่น การควบคุมระบบล็อคและปลดล็อคผ่านโทรศัพท์มือถือและรายงานสมรรถนะเครื่องยนต์ประจำเดือน(Monthly Vehicle Health Report)ซึ่งช่วยให้ลูกค้าติดตามสถานะการทำงานของระบบเครื่องยนต์ที่สำคัญต่างๆได้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ การพัฒนาระบบเชื่อมต่อในรถยนต์ของคอนติเนนทอลอย่างต่อเนื่องแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญแก่ผู้ขับขี่ทั่วโลก และเทคโนโลยีของคอนติเนนทอลสามารถตอบสนองความต้องการได้เป็นอย่างดี
กุญแจอัจฉริยะ Smart Watchเทคโนโลยีเปิดปิดประตูรถแบบใหม่
สำหรับคอนติเนนทอล การเชื่อมต่อเริ่มได้จากด้านนอกของรถยนต์ “เราจะช่วยให้ผู้ขับขี่ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่พวกเขาคุ้นเคยในการควบคุมฟังก์ชั่นในรถยนต์ ตัวอย่างเช่น ในงาน CES คอนติเนนทอลได้แสดงให้เห็นว่าสมาร์ทวอทช์ที่อยู่บนข้อมือของผู้ขับสามารถใช้เป็นกุญแจรีโมทรถได้” นาย มัตส์ชี กล่าว
สมาร์ทวอทช์เปรียบเสมือนเป็นกุญแจรถ ที่ใช้บลูทูธเชื่อมต่อกับกุญแจรีโมทระบบสองทิศทางของคอนติเนนทอล หรือรู้จักกันในนาม“คีย์เกตเวย์”ซึ่งจะทำการเชื่อมต่อระหว่างรถยนต์และสมาร์ทวอทช์ ในการโอนถ่ายข้อมูล (ยานพาหนะ ข้อมูลการตรวจสอบ และรายละเอียดของผู้ใช้) ไปยังรถยนต์เพื่อประมวลผล สมาร์ทวอทช์จะถูกใช้เป็นอุปกรณ์ในการดำเนินงาน โดยผู้ขับขี่จะสามารถเปิดหรือปิดรถยนต์ หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลอื่นได้ง่ายๆ ด้วยแอพลิเคชั่นบนหน้าจอแสดงผลของสมาร์ทวอทช์
โค้งมนและคมชัดด้วยหน้าจอสัมผัส OLED
หน้าจอสัมผัสกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับโทรศัพท์มือถือ ที่พัฒนาจากโทรศัพท์มือถือแบบธรรมดาไปเป็นสมาร์ทโฟน ยานยนต์ก็ต้องการหน้าจอสัมผัส พร้อมฟังก์ชั่นการทำงานที่ครบถ้วน และสามารถเชื่อมต่อเข้ากับยานยนต์ได้ คอนติเนนทอลจึงนำเสนอหน้าจอสัมผัสโค้งแบบ OLED ความคมชัดสูง สามารถแสดงข้อมูลได้ชัดเจน และระบบสัมผัสที่เอื้อต่อการสั่งงานอย่างมีประสิทธิภาพ
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของเทคโนโลยีใหม่นี้คือความโค้ง ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์มีอิสระในการออกแบบจอแสดงผล ตัวอย่างเช่น การออกแบบจอแสดงผลที่ติดตั้งอยู่บริเวณตรงกลางของคอนโซลรถ หน้าจอระบบสัมผัสแบบ OLED ของคอนติเนนทอลทำขึ้นจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์แบบพิเศษและกระจกแบบแข็ง เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการแสดงผลเป็นไปในแบบที่ต้องการ และมีอายุการใช้งานได้นาน
เทคโนโลยีARตรวจเช็คและซ่อมแซมอย่างมีประสิทธิภาพ
บริการผ่านอินเทอร์เน็ตครอบคลุมไปถึงตลาดหลังการขาย และสามารถช่วยให้การตรวจสอบและซ่อมแซมยานยนต์ทำได้สะดวกขึ้นด้วยเหตุนี้ คอนติเนนทอลจึงนำเสนอโซลูชั่น ‘Connected Technician’โดยใช้เทคโนโลยี Augmented Realityแอพพลิเคชั่นจากแท็บเล็ตจะเชื่อมต่อเข้ากับรถผ่านอินเตอร์เฟสการสื่อสารแบบไร้สายและคอยแนะนำช่างเทคนิคทีละขั้นตอนตลอดกระบวนการตรวจสอบและซ่อมแซม โดยจะให้ข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดในแต่ละขั้นตอนเช่น ลำดับการทำงาน ชิ้นส่วนที่มีความบกพร่อง หรือเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับงานนั้นๆ ทำให้ช่างสามารถใส่ใจเฉพาะกับยานยนต์ การบูรณาการเข้ากับระบบการจัดการของดีลเลอร์จะช่วยให้ช่างเทคนิคทำงานได้อย่างถูกต้อง และกระบวนการตรวจสอบทั้งหมดจะทำให้รู้ประเภทของรถยนต์ พบความผิดปกติ รวมถึงให้ข้อมูลทางเทคนิคทั้งหมดสำหรับรถยนต์ได้โดยอัตโนมัติโดยรวมแล้ว เทคโนโลยีนี้จะช่วยให้การตรวจเช็คและซ่อมแซมยานยนต์ได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น และแม่นยำขึ้น และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการวางแผนเพื่อการให้บริการอีกด้วย ในงาน CES คอนติเนนทอลได้สาธิตการใช้งานเทคโนโลยี Augmented Realityด้วยเสียงพร้อมอุปกรณ์เสริมสำหรับใช้พูดคุยซึ่งจะช่วยให้ช่างเทคนิคทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เซ็นเซอร์สภาพแวดล้อมรอบตัวเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและเพิ่มความสะดวกสบาย
อุปกรณ์จับเซ็นเซอร์ต่างๆ อาทิ กล้อง เรดาร์ และตัวจับแสงและระยะ (ไลดาร์) เป็นเครื่องมืออัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ขับรถยนต์ขับได้อย่างสบายใจมากขึ้น อุปกรณ์เหล่านี้ทำงานโดยการตรวจวัดสิ่งแวดล้อมรอบยานยนต์ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้การขับขี่ซึ่งเป็นเป้าหมายของคอนติเนนทอลคือการขับขี่ปลอดอุบัติเหตุ เมื่อเป้าหมายคือความปลอดภัย การตรวจจับแค่ด้านหน้าและด้านหลังรถไม่เพียงพอ การตรวจจับรอบตัวรถคือสิ่งจำเป็น ซึ่งนี่คือก้าวต่อไปของการขับขี่ปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ
ตัว Surround View ของคอนติเนนทอลสามารถตรวจจับได้ 360 องศารอบตัวรถ การผสมผสานกล้องหลังกับโซลูชั่น Advanced Driver Assistance Systems จะช่วยลดอัตราผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บจากการถูกชนจากทางด้านหลังได้เป็นอย่างมาก ในปี 2557 สานักงานบริหารทางหลวง และความปลอดภัยทางการจราจรของสหรัฐอเมริกา (NHTSA) ออกข้อบังคับว่า ภายในปี 2561 รถน้ำหนักเบาทุกคันต้องติดตั้งเทคโนโลยีที่ช่วยในการมองเห็นทางด้านหลัง (กล้องสำรอง)ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเซ็นเซอร์เหล่านี้ยังสามารถเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการขับรถแบบอัตโนมัติ เซ็นเซอร์เหล่านี้ และการผสมผสานข้อมูลของตัวเซ็นเซอร์จะพัฒนาไปสู่ขั้นต่อๆ ไปของการขับรถแบบอัตโนมัติ
