วันนี้ (5 ก.พ.) เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย จัดงานเปิดตัว “เทรลเบลเซอร์ ใหม่” โมเดลปี 2015 (MY 2015)ภายใต้แคมเปญ ‘Inspiration to Go Beyond’ หรือ ‘ชีวิต...ยังไปได้อีก’ ปรับออปชันให้ทันสมัย เพิ่มวัสดุดูดซับเสียงรบกวน พร้อมสีตัวถังใหม่ “เทา Satin Steel Gray” มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย ราคา 1.095 - 1.465 ล้านบาท
โดยเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ใหม่ มาพร้อมกับสีตัวถังใหม่อย่างสีเทา Satin Steel Gray ขณะที่ไฟท้ายใช้หลอดแอลอีดีในรุ่น LTZ และ LTZ1 พร้อมติดตั้งกล้องมองหลัง เมื่อเข้าเกียร์ถอย ซึ่งภาพด้านท้ายรถจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนสีบนคอนโซล พร้อมเส้นกะระยะที่แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ด้านท้ายรถ และภาพบนหน้าจอจะเปลี่ยนทิศทางไปตามการหมุนพวงมาลัย
สำหรับมิติโดยรวม เทรลเบลเซอร์ยังคงมีระยะฐานล้อที่กว้างกว่าคู่แข่ง ขณะที่พื้นที่ในห้องโดยสารมีความกว้างขวาง เบาะที่นั่งแถวสองและสามมีการจัดวางแบบที่นั่งโรงภาพยนตร์ ช่วยให้ผู้โดยสารมองเห็นทัศนวิสัยได้รอบด้าน และสามารถพับให้แบนราบได้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและยืดหยุ่นในการใช้งาน
เบาะที่นั่งแบบใหม่ของเทรลเบลเซอร์หุ้มด้วยหนังคุณภาพดี สะดุดตาด้วยสี Brown Stone เพิ่มความหรูหรา ด้วยวัสดุเสริมสีดำมันเงา Piano Black บนแผงแดชบอร์ด คอนโซลกลาง และพวงมาลัย นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถสัมผัสได้ถึงความเงียบในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียง ช่วยแยกเสียงรบกวนระหว่างห้องเครื่องยนต์และห้องโดยสาร
ส่วนระบบอินโฟเทนเมนท์เชฟโรเลต มายลิงค์ (MyLink) ยังถูกติดตั้งอยู่ใน เทรลเบลเซอร์ทุกรุ่น โดยรุ่นท็อป เทรลเบลเซอร์ LTZ1 มาพร้อมลำโพงหกตัว หน้าจอสีแบบทัชสกรีน และระบบนำทางผ่านดาวเทียมในตัว สามารถแสดงหน้าปกอัลบั้ม วีดีโอ ภาพ และเล่นดีวีดีได้ ขณะที่รุ่น LTZ มีวิทยุ BYOM ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน USB และ AUX ได้ เมื่อเชื่อมต่อแล้วจะมีการแสดงเมนู ได้แก่ เพลง, รูปภาพและวิดีโอ, โทรศัพท์, สมาร์ทโฟน และการติดตั้ง ขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนของเทรลเบลเซอร์ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงรายการส่วนตัวและใช้โทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี รวมถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้
ด้านเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ เจนเนอเรชั่นที่สอง โดยรุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า (147 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ขณะที่รุ่น 2.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (120 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ และ ธรรมดา 6 สปีด ทั้งสองเครื่องยนต์ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 และสามารถรองรับยูโร 5 และมาตรฐานไอเสียของสหรัฐอเมริกาได้
สำหรับความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแบบแพสซีฟ เทรลเบลเซอร์ใหม่ มาพร้อมเข็ดขัดนิรภัยคาดตักแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ช่วยลดแรงกระชากจากการรั้งของเข็มขัดนิรภัย ซึ่งจะทำงานร่วมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้า นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน
เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ใหม่ มี 4 รุ่นย่อย
-เทรลเบลเซอร์ 2.5 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์ธรรมดา รุ่น LT 1,095,000 บาท
-เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LT 1,129,000 บาท
-เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LTZ 1,289,000 บาท
-เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LTZ1 1,465,000 บาท
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
โดยเชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ ใหม่ มาพร้อมกับสีตัวถังใหม่อย่างสีเทา Satin Steel Gray ขณะที่ไฟท้ายใช้หลอดแอลอีดีในรุ่น LTZ และ LTZ1 พร้อมติดตั้งกล้องมองหลัง เมื่อเข้าเกียร์ถอย ซึ่งภาพด้านท้ายรถจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนสีบนคอนโซล พร้อมเส้นกะระยะที่แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ด้านท้ายรถ และภาพบนหน้าจอจะเปลี่ยนทิศทางไปตามการหมุนพวงมาลัย
สำหรับมิติโดยรวม เทรลเบลเซอร์ยังคงมีระยะฐานล้อที่กว้างกว่าคู่แข่ง ขณะที่พื้นที่ในห้องโดยสารมีความกว้างขวาง เบาะที่นั่งแถวสองและสามมีการจัดวางแบบที่นั่งโรงภาพยนตร์ ช่วยให้ผู้โดยสารมองเห็นทัศนวิสัยได้รอบด้าน และสามารถพับให้แบนราบได้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและยืดหยุ่นในการใช้งาน
เบาะที่นั่งแบบใหม่ของเทรลเบลเซอร์หุ้มด้วยหนังคุณภาพดี สะดุดตาด้วยสี Brown Stone เพิ่มความหรูหรา ด้วยวัสดุเสริมสีดำมันเงา Piano Black บนแผงแดชบอร์ด คอนโซลกลาง และพวงมาลัย นอกจากนี้ ผู้โดยสารยังสามารถสัมผัสได้ถึงความเงียบในห้องโดยสารที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียง ช่วยแยกเสียงรบกวนระหว่างห้องเครื่องยนต์และห้องโดยสาร
ส่วนระบบอินโฟเทนเมนท์เชฟโรเลต มายลิงค์ (MyLink) ยังถูกติดตั้งอยู่ใน เทรลเบลเซอร์ทุกรุ่น โดยรุ่นท็อป เทรลเบลเซอร์ LTZ1 มาพร้อมลำโพงหกตัว หน้าจอสีแบบทัชสกรีน และระบบนำทางผ่านดาวเทียมในตัว สามารถแสดงหน้าปกอัลบั้ม วีดีโอ ภาพ และเล่นดีวีดีได้ ขณะที่รุ่น LTZ มีวิทยุ BYOM ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน USB และ AUX ได้ เมื่อเชื่อมต่อแล้วจะมีการแสดงเมนู ได้แก่ เพลง, รูปภาพและวิดีโอ, โทรศัพท์, สมาร์ทโฟน และการติดตั้ง ขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนของเทรลเบลเซอร์ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงรายการส่วนตัวและใช้โทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรี รวมถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้
ด้านเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ เจนเนอเรชั่นที่สอง โดยรุ่น 2.8 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 200 แรงม้า (147 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ขณะที่รุ่น 2.5 ลิตรให้กำลังสูงสุด 163 แรงม้า (120 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 380 นิวตันเมตรที่ 2,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ และ ธรรมดา 6 สปีด ทั้งสองเครื่องยนต์ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4 และสามารถรองรับยูโร 5 และมาตรฐานไอเสียของสหรัฐอเมริกาได้
สำหรับความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแบบแพสซีฟ เทรลเบลเซอร์ใหม่ มาพร้อมเข็ดขัดนิรภัยคาดตักแบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติ ช่วยลดแรงกระชากจากการรั้งของเข็มขัดนิรภัย ซึ่งจะทำงานร่วมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้า นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเลกทรอนิก ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน
เชฟโรเลต เทรลเบลเซอร์ใหม่ มี 4 รุ่นย่อย
-เทรลเบลเซอร์ 2.5 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์ธรรมดา รุ่น LT 1,095,000 บาท
-เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LT 1,129,000 บาท
-เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสองล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LTZ 1,289,000 บาท
-เทรลเบลเซอร์ 2.8 ลิตร ขับเคลื่อนสี่ล้อ เกียร์อัตโนมัติ รุ่น LTZ1 1,465,000 บาท
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
