เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย เปิดตัวโคโลราโด ไฮ คันทรี่ ยกระดับความหรูหราให้รถกระบะพันธุ์แกร่ง สำหรับตลาดในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดราคารุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ 969,000 บาท และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ 1,029,000 บาท
ชื่อ “ไฮ คันทรี่” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถกระบะขนาดใหญ่ รุ่นท็อปไลน์ของเชฟโรเลตที่จัดจำหน่ายในอเมริกาเหนือ และรถกระบะขนาดกลางรุ่นท็อปไลน์ของเชฟโรเลตที่จัดจำหน่ายในบราซิล โดยไฮ คันทรี่ โดดเด่นด้วยบุคลิกแบบรถอเมริกันพันธุ์แท้ ที่ได้รับการออกแบบสำหรับตลาดระดับบน เพื่อมอบไลฟ์สไตล์การขับขี่ในเมืองใหญ่ และยังคงมีสมรรถนะสูงเพื่อรองรับการใช้งานอย่างสมบุกสมบันนอกเมือง
“ลูกค้าจำนวนมากต้องการคุณสมบัติที่เหนือกว่า สำหรับรถกระบะนอกเหนือไปจากสมรรถนะการวิ่งบนท้องถนนและการลุยเส้นทางออฟโรด รวมไปถึงกำลังในการบรรทุก ซึ่งเพียบพร้อมอยู่ในรถกระบะโคโลราโดทุกรุ่นแล้ว พวกเขายังต้องการความโดดเด่นที่เหนือกว่า ซึ่งไฮ คันทรี่ ไม่เพียงแต่เป็นรถกระบะที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมเท่านั้น หากยังตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบพร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์” มาร์คอส เพอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยกล่าว
ไฮ คันทรี่ เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นล่าสุดของเชฟโรเลตในการให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่สานต่อตำนานความสำเร็จ “รถกระบะพันธุ์แกร่ง” ของแบรนด์เชฟโรเลต จีเอ็มแนะนำรถกระบะเชฟโรเลตรุ่นแรกในอเมริกาเมื่อหลายทศวรรษที่ผ่านมาและยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมใหม่สำหรับตลาดรถกระบะอย่างต่อเนื่อง
เชฟโรเลตพัฒนารถกระบะ รุ่นไฮ คันทรี่ ด้วยการให้ความสำคัญสูงสุดกับกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ชีวิตในเมือง การตกแต่งรูปลักษณ์ภายนอกช่วยสร้างความแตกต่างให้ไฮ คันทรี่ มีความโดดเด่นเหนือกว่ารถกระบะรุ่นอื่นในประเทศไทย ด้วยโคมไฟหน้าสีเข้ม กระจังหน้าสีเทาอ่อนสลับดำ รวมถึงแผงกันชนเสริม และเสาหลังคากลางด้วยวัสดุพื้นผิวมันเงา พร้อมกันนี้ยังคงความสวยงามสะดุดตา ด้วยการติดตั้งราวหลังคาแนวขวาง โครงเหล็กแบบสปอร์ต ลายโครเมียมด้านข้างตัวรถ และกระจกมองข้าง ที่เปิดฝากระบะท้ายสีดำโครเมียม และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว ที่ยกระดับไฮ คันทรี่ ให้มีความสง่างามมากยิ่งขึ้นและเน้นย้ำความเป็นรถระดับพรีเมียมสำหรับคนเมืองอย่างชัดเจน
ภายในห้องโดยสารของไฮ คันทรี่ ยังได้รับการตกแต่งใหม่ให้มีความหรูหรามากยิ่งขึ้น ด้วยเบาะที่นั่งคนขับเป็นแบบปรับไฟฟ้าหกทิศทาง หุ้มด้วยหนังเกรดพรีเมียมสี Brown Stone ขณะที่บนแผงแดชบอร์ด คอนโซล และพวงมาลัย ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา
ไฮ คันทรี่ยังมาพร้อมระบบสมาร์ทมีเดียเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน เพลง ภาพถ่าย วีดีโอ และระบบนำทาง เมื่อเชื่อมต่อแล้วจะมีการแสดงผลที่เมนู ได้แก่ เพลง รูปภาพและวิดีโอ โทรศัพท์ สมาร์ทโฟน และการติดตั้งขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีน ผู้ใช้สามารถเข้าถึงรายการส่วนตัวและใช้โทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรีรวมถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ในช่วงเวลาที่การจราจรหนาแน่นในกรุงเทพฯ ไฮ คันทรี่ มาพร้อมกล้องมองหลังที่จะทำงานเมื่อเข้าเกียร์ถอยจอด ภาพด้านท้ายรถจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนสีบนคอนโซลพร้อมเส้นกะระยะที่แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ด้านท้ายรถโดยภาพบนหน้าจอจะเปลี่ยนทิศทางไปตามการหมุนของพวงมาลัย
"ไฮ คันทรี่ ได้รับการยกระดับความโดดเด่นที่มีเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเมือง ที่ต้องการห้องโดยสารที่สวยงาม ทันสมัย และอุปกรณ์เทคโนโลยีในระดับเดียวกับรถพรีเมียม รูปลักษณ์ภายนอกมีความแข็งแกร่งเหมาะกับการใช้งานหนักแต่ยังคงความสวยสะดุดตาสำหรับการออกเดทในค่ำคืนพิเศษกับคนรู้ใจ" คุณอุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าว
ขุมพลังขับเคลื่อนของไฮ คันทรี่ คือ เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ เจนเนอเรชั่นที่สอง ซึ่งทำให้ไฮ คันทรี่ เป็นรถกระบะที่ทรงพลังและมีแรงบิดสูงที่สุดในรถตลาดเดียวกัน เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ให้กำลัง 200 แรงม้า (147 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ไฮ คันทรี่ จึงมีกำลังเทียบเท่าหรือเหนือกว่ารถกระบะรุ่นอื่นๆ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่กว่า และเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์นี้ยังให้อัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจ และสมรรถนะที่สูงต่อเนื่อง รวมถึงกำลังในการลากจูงและการบรรทุกได้อย่างเต็มพิกัด
เครื่องยนต์นี้ควบคุมโดยซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นโดยจีเอ็ม เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำในช่วงที่ให้กำลังสูงสุด อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่ เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ดีเซล 2.8 ลิตร ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4
สำหรับความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแบบแพสซีฟ ไฮ คันทรี่ มาพร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเลคทรอนิคส์ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน
ไฮ คันทรี่ ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ประหยัดโดยกำหนดการเข้าตรวจเช็คสภาพรถอยู่ที่ทุก 15,000 กม. ซึ่งมีระยะเวลาการกำหนดเข้าตรวจเช็คสภาพนานกว่าคู่แข่งที่กำหนดการตรวจเช็คไว้ที่ทุก 10,000 กม.
เชฟโรเลตโคโลราโดไฮ คันทรี่ มี 2 รุ่นให้เลือก คือ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 969,000 บาท และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคา 1,029,000 บาท
เชฟโรเลต โคโลราโด เป็นผลิตภัณฑ์หลักของแบรนด์เชฟโรเลตในประเทศไทย ไฮ คันทรี่ ได้รับการออกแบบเพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาดของรถกระบะเชฟโรเลตโดยกระตุ้นการซื้อ ด้วยการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองลูกค้าที่กำลังมองหารถกระบะระดับพรีเมี่ยมและจะมีการเปิดตัวสู่ตลาดในเดือนมีนาคมนี้ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2558 สำหรับการปรับโฉมเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นย่อยอื่นๆ จะประกาศให้ทราบในภายหลัง
ชื่อ “ไฮ คันทรี่” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถกระบะขนาดใหญ่ รุ่นท็อปไลน์ของเชฟโรเลตที่จัดจำหน่ายในอเมริกาเหนือ และรถกระบะขนาดกลางรุ่นท็อปไลน์ของเชฟโรเลตที่จัดจำหน่ายในบราซิล โดยไฮ คันทรี่ โดดเด่นด้วยบุคลิกแบบรถอเมริกันพันธุ์แท้ ที่ได้รับการออกแบบสำหรับตลาดระดับบน เพื่อมอบไลฟ์สไตล์การขับขี่ในเมืองใหญ่ และยังคงมีสมรรถนะสูงเพื่อรองรับการใช้งานอย่างสมบุกสมบันนอกเมือง
“ลูกค้าจำนวนมากต้องการคุณสมบัติที่เหนือกว่า สำหรับรถกระบะนอกเหนือไปจากสมรรถนะการวิ่งบนท้องถนนและการลุยเส้นทางออฟโรด รวมไปถึงกำลังในการบรรทุก ซึ่งเพียบพร้อมอยู่ในรถกระบะโคโลราโดทุกรุ่นแล้ว พวกเขายังต้องการความโดดเด่นที่เหนือกว่า ซึ่งไฮ คันทรี่ ไม่เพียงแต่เป็นรถกระบะที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมเท่านั้น หากยังตอบสนองไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบพร้อมใช้งานในทุกสถานการณ์” มาร์คอส เพอร์ตี้ กรรมการผู้จัดการ เจนเนอรัล มอเตอร์ส ประเทศไทย และเชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทยกล่าว
ไฮ คันทรี่ เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นล่าสุดของเชฟโรเลตในการให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่สานต่อตำนานความสำเร็จ “รถกระบะพันธุ์แกร่ง” ของแบรนด์เชฟโรเลต จีเอ็มแนะนำรถกระบะเชฟโรเลตรุ่นแรกในอเมริกาเมื่อหลายทศวรรษที่ผ่านมาและยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมใหม่สำหรับตลาดรถกระบะอย่างต่อเนื่อง
เชฟโรเลตพัฒนารถกระบะ รุ่นไฮ คันทรี่ ด้วยการให้ความสำคัญสูงสุดกับกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ชีวิตในเมือง การตกแต่งรูปลักษณ์ภายนอกช่วยสร้างความแตกต่างให้ไฮ คันทรี่ มีความโดดเด่นเหนือกว่ารถกระบะรุ่นอื่นในประเทศไทย ด้วยโคมไฟหน้าสีเข้ม กระจังหน้าสีเทาอ่อนสลับดำ รวมถึงแผงกันชนเสริม และเสาหลังคากลางด้วยวัสดุพื้นผิวมันเงา พร้อมกันนี้ยังคงความสวยงามสะดุดตา ด้วยการติดตั้งราวหลังคาแนวขวาง โครงเหล็กแบบสปอร์ต ลายโครเมียมด้านข้างตัวรถ และกระจกมองข้าง ที่เปิดฝากระบะท้ายสีดำโครเมียม และล้ออัลลอยขนาดใหญ่ 18 นิ้ว ที่ยกระดับไฮ คันทรี่ ให้มีความสง่างามมากยิ่งขึ้นและเน้นย้ำความเป็นรถระดับพรีเมียมสำหรับคนเมืองอย่างชัดเจน
ภายในห้องโดยสารของไฮ คันทรี่ ยังได้รับการตกแต่งใหม่ให้มีความหรูหรามากยิ่งขึ้น ด้วยเบาะที่นั่งคนขับเป็นแบบปรับไฟฟ้าหกทิศทาง หุ้มด้วยหนังเกรดพรีเมียมสี Brown Stone ขณะที่บนแผงแดชบอร์ด คอนโซล และพวงมาลัย ตกแต่งด้วยวัสดุสีดำเงา
ไฮ คันทรี่ยังมาพร้อมระบบสมาร์ทมีเดียเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน เพลง ภาพถ่าย วีดีโอ และระบบนำทาง เมื่อเชื่อมต่อแล้วจะมีการแสดงผลที่เมนู ได้แก่ เพลง รูปภาพและวิดีโอ โทรศัพท์ สมาร์ทโฟน และการติดตั้งขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีน ผู้ใช้สามารถเข้าถึงรายการส่วนตัวและใช้โทรศัพท์แบบแฮนด์ฟรีรวมถึงฟังก์ชั่นอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย
เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่ในช่วงเวลาที่การจราจรหนาแน่นในกรุงเทพฯ ไฮ คันทรี่ มาพร้อมกล้องมองหลังที่จะทำงานเมื่อเข้าเกียร์ถอยจอด ภาพด้านท้ายรถจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอทัชสกรีนสีบนคอนโซลพร้อมเส้นกะระยะที่แสดงให้เห็นถึงพื้นที่ด้านท้ายรถโดยภาพบนหน้าจอจะเปลี่ยนทิศทางไปตามการหมุนของพวงมาลัย
"ไฮ คันทรี่ ได้รับการยกระดับความโดดเด่นที่มีเอกลักษณ์ เพื่อดึงดูดลูกค้าที่อาศัยอยู่ในเมือง ที่ต้องการห้องโดยสารที่สวยงาม ทันสมัย และอุปกรณ์เทคโนโลยีในระดับเดียวกับรถพรีเมียม รูปลักษณ์ภายนอกมีความแข็งแกร่งเหมาะกับการใช้งานหนักแต่ยังคงความสวยสะดุดตาสำหรับการออกเดทในค่ำคืนพิเศษกับคนรู้ใจ" คุณอุณา ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด เชฟโรเลต เซลส์ ประเทศไทย กล่าว
ขุมพลังขับเคลื่อนของไฮ คันทรี่ คือ เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ ดีเซล เทอร์โบ 4 สูบ เจนเนอเรชั่นที่สอง ซึ่งทำให้ไฮ คันทรี่ เป็นรถกระบะที่ทรงพลังและมีแรงบิดสูงที่สุดในรถตลาดเดียวกัน เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ให้กำลัง 200 แรงม้า (147 กิโลวัตต์) ที่ 3,600 รอบ/นาที แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบ/นาที ไฮ คันทรี่ จึงมีกำลังเทียบเท่าหรือเหนือกว่ารถกระบะรุ่นอื่นๆ ที่มีขนาดเครื่องยนต์ใหญ่กว่า และเครื่องยนต์ดูราแม็กซ์นี้ยังให้อัตราเร่งที่รวดเร็วทันใจ และสมรรถนะที่สูงต่อเนื่อง รวมถึงกำลังในการลากจูงและการบรรทุกได้อย่างเต็มพิกัด
เครื่องยนต์นี้ควบคุมโดยซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นโดยจีเอ็ม เพื่อการตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำในช่วงที่ให้กำลังสูงสุด อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันในทุกการขับขี่ เครื่องยนต์ดูราแม็กซ์ดีเซล 2.8 ลิตร ผ่านมาตรฐานไอเสียยูโร 4
สำหรับความปลอดภัยทั้งแบบแอคทีฟและแบบแพสซีฟ ไฮ คันทรี่ มาพร้อมถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล ระบบช่วยเพิ่มแรงดันน้ำมันเบรก ระบบรองรับการเบรกกะทันหัน ระบบกระจายแรงเบรกอิเลคทรอนิคส์ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน และระบบป้องกันการไหลของรถเมื่อขึ้นทางชัน
ไฮ คันทรี่ ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ประหยัดโดยกำหนดการเข้าตรวจเช็คสภาพรถอยู่ที่ทุก 15,000 กม. ซึ่งมีระยะเวลาการกำหนดเข้าตรวจเช็คสภาพนานกว่าคู่แข่งที่กำหนดการตรวจเช็คไว้ที่ทุก 10,000 กม.
เชฟโรเลตโคโลราโดไฮ คันทรี่ มี 2 รุ่นให้เลือก คือ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 969,000 บาท และรุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ ราคา 1,029,000 บาท
เชฟโรเลต โคโลราโด เป็นผลิตภัณฑ์หลักของแบรนด์เชฟโรเลตในประเทศไทย ไฮ คันทรี่ ได้รับการออกแบบเพื่อขยายส่วนแบ่งทางการตลาดของรถกระบะเชฟโรเลตโดยกระตุ้นการซื้อ ด้วยการเพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองลูกค้าที่กำลังมองหารถกระบะระดับพรีเมี่ยมและจะมีการเปิดตัวสู่ตลาดในเดือนมีนาคมนี้ ที่งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2558 สำหรับการปรับโฉมเชฟโรเลต โคโลราโด รุ่นย่อยอื่นๆ จะประกาศให้ทราบในภายหลัง