ที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของนิสสันกับรถประเภทเอสยูวีในเมืองไทย อาจจะไม่เด่นชัดจับใจเหมือนพวกเก๋งเล็กและปิกอัพ แต่หลังการทำตลาด “จู๊ค” ซึ่งถือเป็นเซกเมนต์ใหม่ ต่อเนื่องมาถึง “เอ็กซ์เทรล ใหม่” (เปิดตัว 19 พ.ย.)ดูเหมือนจะเพิ่มความแข็งแกร่งและเติมเต็มช่องว่างการตลาดให้นิสสันได้อย่างน่าสนใจ
หากมองลงไปที่ยอดขายก็ถือว่าประสบความเร็จ(ตามแผน) อย่าง“จู๊ค” ขายได้เดือนละประมาณ 1,000 คัน ส่วน“เอ็กซ์เทรล” ตั้งเป้าไว้ 8,000 คันในระยะเวลา 1 ปี ล่าสุดเห็นว่ามียอดจองเข้ามากว่า 1,300 คันหลังการเปิดตัวไม่ถึงหนึ่งเดือน
ทั้งนี้ “เอ็กซ์เทรล ใหม่” ยังเป็นเอสยูวีรุ่นที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ส่วนเมืองไทยดูแนวโน้มก็มีดีสู้กับคู่แข่งอย่าง ฮอนด้า ซีอาร์-วี,มาสด้า ซีเอ็กซ์-5, เชฟโรเลต แคปติวา ได้สบาย ที่สำคัญนิสสันยังขึ้นไลน์ผลิตที่ประเทศไทย แทนที่จะเลือกนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย
…ได้ความมั่นใจกับการประกอบในไทย เพื่อคนไทยเท่านั้นครับ ซึ่งนิสสันยังไม่มีแผนผลิตเพื่อส่งออก
สำหรับการทำตลาดในไทยแบ่งขายเป็น 4 รุ่นย่อย กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 2.0S ขับเคลื่อนสองล้อ ราคา 1.172 ล้านบาท 2.0E ขับเคลื่อนสองล้อ 1.246 ล้านบาท และ 2.0V ขับเคลื่อนสี่ล้อ 1.325 ล้านบาท ส่วนเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร มีรุ่นย่อยเดียวคือ 2.5V ขับเคลื่อนสี่ล้อ 1.551 ล้านบาท
วันนี้(15 ธ.ค.) นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จัดทริปทดสอบ“เอ็กซ์เทรล ใหม่” โดยใช้เส้นทางกรุงเทพ-เขาใหญ่ ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ซึ่งผู้เขียนได้รุ่นท็อป 2.5V ขับเคลื่อนสี่ล้อ เป็นพาหนะ
รุ่นนี้ต้องบอกว่าออปชันมาเต็มครับ อย่าง ไฟหน้าใช้หลอด LED ควบคุมลำแสงด้วยโปรเจคเตอร์เลนส์และซันรูฟแบบพาโนรามิค ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control ระบบนำทาง และหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
ส่วนออปชันที่รุ่นนี้มีและใส่ให้มาเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อยก็จัดหนักไม่แพ้กัน อย่างไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights (หลอดLED) ระบบกุญแจอัจฉริยะ พร้อมปุ่มสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ เบาะหนัง ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารหลัง และความปลอดภัยเต็มขั้น ไล่ตั้งแต่ กล้องมองหลัง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) ระบบป้องกันการล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบเบรกป้องกันการล้อล็อค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) เช่นเดียวกับระบบ Advanced Chassis Control อันประกอบไปด้วย
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HSA – Hill Start Assist)
-ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ ในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (AEB- Active Engine Brake)
-ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (ARC – Active Ride Control)
-ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (ATC – Active Trace Control)
-ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น ระบบจะช่วยส่งแรงเบรกไปยังล้อที่เกิดการลื่นไหล เพื่อให้ผู้ขับขี่ควบคุมทิศทางรถได้ทันท่วงที (ABLS – Active Brake Limited Slip)
…ย้ำว่าระบบพวกนี้ นิสสัน ใส่มาเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อยนะครับ
ส่วนเครื่องยนต์เบนซินรหัส QR25DE ขนาด 2.5 ลิตร (บล็อกเดียวกับเทียน่า) ให้กำลังสูงสุด 171แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ X-TRONIC CVT พร้อม ระบบ manual mode 7 สปีด (รุ่น 2.0 ลิตร ไดเรกอินเจกชัน บล็อกใหม่จะว่าในโอกาสต่อไป)
ขุมพลังชุดนี้จี๊ดจ๊าดใช้ได้ครับ ทั้งเร่งแซงหรืออัดทางไกลยาวๆตัวรถก็พุ่งฉลุย ส่วนเกียร์ไม่ลากรอบยืดยาวเหมือน CVT ในอดีต และมีจังหวะชิฟท์อัพให้แบบฉลาดรู้ทัน หรือถ้าหากต้องการเพิ่มความเร็วกะทันหัน ก็คิกดาวน์ช่วยส่งแรงลงสู่ล้อได้แบบทันใจ
รถคันโตยาว 4.64 เมตร น้ำหนักกว่า 1.6 ตัน ขับจริงไร้อาการอุ้ยอ้าย ขณะที่ตัวรถยกสูงให้ทัศนวิสัยด้านหน้าดีมองเห็นไกล คาดการณ์ล่วงหน้าได้ยาวๆ ส่วนพวงมาลัยแบบแรคแอนพิเนียน ผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อาจจะเบามือไปนิดแต่ควบคุมสบาย ขับความเร็วเกิน 120 กม./ชม. ยังถือได้นิ่งมือ
ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ประกบล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว ยาง 225/60 R18 ภาพรวมของการรองรับค่อนข้างนุ่ม แต่ยังทรงตัวดี อาการโยกโยนน้อย เวลาเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนบนความเร็วสูง
เรี่ยวแรงจากเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร นั้นหายห่วง (ไปห่วงเรื่องเติมน้ำมันเถอะ) ส่วนการควบคุมและช่วงล่างอาจจะไม่คม หรือกระชับที่สุดในคลาส แต่ผู้เขียนว่าบุคลิกรถแบบนี้ ค่อนข้างตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ที่เน้นนุ่มขับสบาย และยังให้ความมั่นใจในการขับขี่สูง
นอกจากนี้เอ็กซ์เทรลยังได้ความอเนกประสงค์จากเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งในคลาสเอสยูวีแท้ๆ (ไม่รวมพวกพีพีวี) มีเพียงเชฟโรเลต แคปติวา ที่เป็นแบบนี้
อย่างไรก็ตาม เบาะแถวสามหากจะนั่งจริงๆคงเหมาะกับเด็กน้อยหรือคนตัวเล็กๆ แต่กระนั้นสามารถขยับขยายเพิ่มพื้นที่ได้เล็กน้อยจากการเลื่อนเบาะแถวสองไปด้านหน้าอีกนิด อารมณ์แบบแบ่งๆกันไป หรือถ้าไม่ใช้ เบาะนั่งแถวสาม ก็พับเรียบให้ดูสวยงามพร้อมวางสัมภาระด้านหลังได้ (พับราบแล้วจะเหลือพื้นที่ระดับหนึ่ง เพราะยังมียางอะไหล่วางนอนอยู่ด้านล่าง)
ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มีปุ่มควบคุมวางฝังอยู่บริเวณคอนโซลกลางใช้งานง่ายครับ สามารถเลือกให้ขับแบบ 2 ล้อหน้า(ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า 100%) ขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (ขับสองล้อหน้าเป็นหลัก และแบ่งกำลังมาล้อหลังตามสภาพถนนและการขับขี่ แต่ไม่เกิน50%) และขับเคลื่อน4 ล้อตลอดเวลา ใช้งานได้บนความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงจะแสดงผลผ่านหน้าจอ 3 มิติ ที่อยู่ตรงกลางระหว่างวัดรอบเครื่องยนต์ กับความเร็ว
ด้านอัตราบริโภคน้ำมันจากการชับช่วง 90 กิโลเมตรแรก ใช้ความเร็วเฉลี่ย 120 กม./ชม. หน้าจอยังแสดงตัวเลข 12 กม./ลิตรครับ
รวบรัดตัดความ…ละทิ้งความโบราณทรงกล่อง แล้วหันมาออกแบบให้เหมาะกับการขายเพื่อคนทั่วโลก (เดิมเน้นแต่ความชอบของคนญี่ปุ่น) รูปลักษณ์ลงตัวตั้งแต่หน้าจรดท้าย พร้อมออปชันเพียบ คุ้มค่าต่อราคาเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เด่นที่การเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร ช่วงล่างนุ่ม ทรงตัวดี แต่การควบคุมรวมๆอาจจะไม่กระชับเฉียบคมเมื่อเทียบกับบุคลิกของ “ซีเอ็กซ์-5” ส่วนเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรในรุ่นท็อปแรงดี ขับทางไกลไม่เครียด…ผู้เขียนเชื่อว่านี่คือเอสยูวีสำหรับคนรักครอบครัว ยิ่งใครได้ไปลองขับ สัมผัสนั่ง เชื่อว่าจะตกหลุมรักแน่ๆ
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring
หากมองลงไปที่ยอดขายก็ถือว่าประสบความเร็จ(ตามแผน) อย่าง“จู๊ค” ขายได้เดือนละประมาณ 1,000 คัน ส่วน“เอ็กซ์เทรล” ตั้งเป้าไว้ 8,000 คันในระยะเวลา 1 ปี ล่าสุดเห็นว่ามียอดจองเข้ามากว่า 1,300 คันหลังการเปิดตัวไม่ถึงหนึ่งเดือน
ทั้งนี้ “เอ็กซ์เทรล ใหม่” ยังเป็นเอสยูวีรุ่นที่ขายดีที่สุดในญี่ปุ่น ส่วนเมืองไทยดูแนวโน้มก็มีดีสู้กับคู่แข่งอย่าง ฮอนด้า ซีอาร์-วี,มาสด้า ซีเอ็กซ์-5, เชฟโรเลต แคปติวา ได้สบาย ที่สำคัญนิสสันยังขึ้นไลน์ผลิตที่ประเทศไทย แทนที่จะเลือกนำเข้ามาจากอินโดนีเซีย
…ได้ความมั่นใจกับการประกอบในไทย เพื่อคนไทยเท่านั้นครับ ซึ่งนิสสันยังไม่มีแผนผลิตเพื่อส่งออก
สำหรับการทำตลาดในไทยแบ่งขายเป็น 4 รุ่นย่อย กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร 2.0S ขับเคลื่อนสองล้อ ราคา 1.172 ล้านบาท 2.0E ขับเคลื่อนสองล้อ 1.246 ล้านบาท และ 2.0V ขับเคลื่อนสี่ล้อ 1.325 ล้านบาท ส่วนเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร มีรุ่นย่อยเดียวคือ 2.5V ขับเคลื่อนสี่ล้อ 1.551 ล้านบาท
วันนี้(15 ธ.ค.) นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จัดทริปทดสอบ“เอ็กซ์เทรล ใหม่” โดยใช้เส้นทางกรุงเทพ-เขาใหญ่ ระยะทางกว่า 200 กิโลเมตร ซึ่งผู้เขียนได้รุ่นท็อป 2.5V ขับเคลื่อนสี่ล้อ เป็นพาหนะ
รุ่นนี้ต้องบอกว่าออปชันมาเต็มครับ อย่าง ไฟหน้าใช้หลอด LED ควบคุมลำแสงด้วยโปรเจคเตอร์เลนส์และซันรูฟแบบพาโนรามิค ประตูท้ายเปิด-ปิดอัตโนมัติ ล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว ถุงลมนิรภัยด้านข้าง และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control ระบบนำทาง และหน้าจอระบบสัมผัสขนาด 7 นิ้ว
ส่วนออปชันที่รุ่นนี้มีและใส่ให้มาเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อยก็จัดหนักไม่แพ้กัน อย่างไฟส่องสว่างเวลากลางวัน Daytime Running Lights (หลอดLED) ระบบกุญแจอัจฉริยะ พร้อมปุ่มสตาร์ท-ดับเครื่องยนต์ เบาะหนัง ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารหลัง และความปลอดภัยเต็มขั้น ไล่ตั้งแต่ กล้องมองหลัง ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ระบบช่วยควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (VDC) ระบบป้องกันการล้อหมุนฟรี (TCS) ระบบเบรกป้องกันการล้อล็อค (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) และระบบเสริมแรงเบรก (BA) เช่นเดียวกับระบบ Advanced Chassis Control อันประกอบไปด้วย
- ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HSA – Hill Start Assist)
-ระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติ ในขณะที่ผู้ขับขี่ถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (AEB- Active Engine Brake)
-ระบบช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (ARC – Active Ride Control)
-ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (ATC – Active Trace Control)
-ระบบป้องกันการลื่นไถลขณะถนนลื่น ระบบจะช่วยส่งแรงเบรกไปยังล้อที่เกิดการลื่นไหล เพื่อให้ผู้ขับขี่ควบคุมทิศทางรถได้ทันท่วงที (ABLS – Active Brake Limited Slip)
…ย้ำว่าระบบพวกนี้ นิสสัน ใส่มาเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อยนะครับ
ส่วนเครื่องยนต์เบนซินรหัส QR25DE ขนาด 2.5 ลิตร (บล็อกเดียวกับเทียน่า) ให้กำลังสูงสุด 171แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 233 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ X-TRONIC CVT พร้อม ระบบ manual mode 7 สปีด (รุ่น 2.0 ลิตร ไดเรกอินเจกชัน บล็อกใหม่จะว่าในโอกาสต่อไป)
ขุมพลังชุดนี้จี๊ดจ๊าดใช้ได้ครับ ทั้งเร่งแซงหรืออัดทางไกลยาวๆตัวรถก็พุ่งฉลุย ส่วนเกียร์ไม่ลากรอบยืดยาวเหมือน CVT ในอดีต และมีจังหวะชิฟท์อัพให้แบบฉลาดรู้ทัน หรือถ้าหากต้องการเพิ่มความเร็วกะทันหัน ก็คิกดาวน์ช่วยส่งแรงลงสู่ล้อได้แบบทันใจ
รถคันโตยาว 4.64 เมตร น้ำหนักกว่า 1.6 ตัน ขับจริงไร้อาการอุ้ยอ้าย ขณะที่ตัวรถยกสูงให้ทัศนวิสัยด้านหน้าดีมองเห็นไกล คาดการณ์ล่วงหน้าได้ยาวๆ ส่วนพวงมาลัยแบบแรคแอนพิเนียน ผ่อนแรงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อาจจะเบามือไปนิดแต่ควบคุมสบาย ขับความเร็วเกิน 120 กม./ชม. ยังถือได้นิ่งมือ
ช่วงล่างด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นมัลติลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ประกบล้ออัลลอยด์ขนาด 18 นิ้ว ยาง 225/60 R18 ภาพรวมของการรองรับค่อนข้างนุ่ม แต่ยังทรงตัวดี อาการโยกโยนน้อย เวลาเข้าโค้งหรือเปลี่ยนเลนบนความเร็วสูง
เรี่ยวแรงจากเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร นั้นหายห่วง (ไปห่วงเรื่องเติมน้ำมันเถอะ) ส่วนการควบคุมและช่วงล่างอาจจะไม่คม หรือกระชับที่สุดในคลาส แต่ผู้เขียนว่าบุคลิกรถแบบนี้ ค่อนข้างตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ที่เน้นนุ่มขับสบาย และยังให้ความมั่นใจในการขับขี่สูง
นอกจากนี้เอ็กซ์เทรลยังได้ความอเนกประสงค์จากเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง ซึ่งในคลาสเอสยูวีแท้ๆ (ไม่รวมพวกพีพีวี) มีเพียงเชฟโรเลต แคปติวา ที่เป็นแบบนี้
อย่างไรก็ตาม เบาะแถวสามหากจะนั่งจริงๆคงเหมาะกับเด็กน้อยหรือคนตัวเล็กๆ แต่กระนั้นสามารถขยับขยายเพิ่มพื้นที่ได้เล็กน้อยจากการเลื่อนเบาะแถวสองไปด้านหน้าอีกนิด อารมณ์แบบแบ่งๆกันไป หรือถ้าไม่ใช้ เบาะนั่งแถวสาม ก็พับเรียบให้ดูสวยงามพร้อมวางสัมภาระด้านหลังได้ (พับราบแล้วจะเหลือพื้นที่ระดับหนึ่ง เพราะยังมียางอะไหล่วางนอนอยู่ด้านล่าง)
ส่วนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ มีปุ่มควบคุมวางฝังอยู่บริเวณคอนโซลกลางใช้งานง่ายครับ สามารถเลือกให้ขับแบบ 2 ล้อหน้า(ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า 100%) ขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ (ขับสองล้อหน้าเป็นหลัก และแบ่งกำลังมาล้อหลังตามสภาพถนนและการขับขี่ แต่ไม่เกิน50%) และขับเคลื่อน4 ล้อตลอดเวลา ใช้งานได้บนความเร็วไม่เกิน 40 กม./ชม. ซึ่งทั้งหมดทั้งปวงจะแสดงผลผ่านหน้าจอ 3 มิติ ที่อยู่ตรงกลางระหว่างวัดรอบเครื่องยนต์ กับความเร็ว
ด้านอัตราบริโภคน้ำมันจากการชับช่วง 90 กิโลเมตรแรก ใช้ความเร็วเฉลี่ย 120 กม./ชม. หน้าจอยังแสดงตัวเลข 12 กม./ลิตรครับ
รวบรัดตัดความ…ละทิ้งความโบราณทรงกล่อง แล้วหันมาออกแบบให้เหมาะกับการขายเพื่อคนทั่วโลก (เดิมเน้นแต่ความชอบของคนญี่ปุ่น) รูปลักษณ์ลงตัวตั้งแต่หน้าจรดท้าย พร้อมออปชันเพียบ คุ้มค่าต่อราคาเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เด่นที่การเก็บเสียงภายในห้องโดยสาร ช่วงล่างนุ่ม ทรงตัวดี แต่การควบคุมรวมๆอาจจะไม่กระชับเฉียบคมเมื่อเทียบกับบุคลิกของ “ซีเอ็กซ์-5” ส่วนเครื่องยนต์ 2.5 ลิตรในรุ่นท็อปแรงดี ขับทางไกลไม่เครียด…ผู้เขียนเชื่อว่านี่คือเอสยูวีสำหรับคนรักครอบครัว ยิ่งใครได้ไปลองขับ สัมผัสนั่ง เชื่อว่าจะตกหลุมรักแน่ๆ
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวในวงการยานยนต์ได้ที่หน้าแฟนเพจ ASTVผู้จัดการ Motoring