ข่าวในประเทศ - “มาสด้า” ชูฐานผลิตในไทย ทุ่มลงทุน 3 โครงการระดับโลก รวมมูลค่าร่วม 2.7 หมื่นล้านบาท รับการเปิดไลน์ประกอบอีโคคาร์ เฟส2 จำนวน 9.7 พันล้านบาท เพื่อผลิตรถ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” เครื่องยนต์ดีเซลรายแรก และเพิ่มลงทุนใหม่ตั้งโรงงานผลิตเครื่องยนต์สกายแอคทีฟมูลค่าเกือบ 3 พันล้านบาท จากเมื่อต้นปีเพิ่งผุดโรงงานเกียร์อัตโนมัติ เพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออกทั่วโลก
นายยูจิ นากามิเน่ ผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า มาสด้าได้ให้ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย และพร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย โดยเฉพาะในเรื่องของรถประหยัดพลังงาน จึงได้ลงทุนเพิ่มในประเทศไทยเป็นมูลค่ากว่า 9.7 พันล้านบาท เพื่อขึ้นไลน์ประกอบ มาสด้า2 สกายแอคทีฟ รถยนต์นั่งประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ ระยะที่ 2 (Eco Car Phase2) โดยได้เริ่มเปิดสายการผลิตเมื่อวันที่ 6 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
“การลงทุนดังกล่าวเป็นในส่วนของโรงงานประกอบรถยนต์ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย หรือ AAT เพื่อผลิตอีโคคาร์ เฟส2 และมาสด้ายังมีเพิ่มการลงทุนใหม่ต่อเนื่อง ตั้งโรงงานผลิตเครื่องยนต์มูลค่า 2.9 พันล้านบาท และเมื่อรวมกับโครงการแรกตั้งโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ทำให้มาสด้ามีการลงทุนในไทยรวม 3 โครงการล่าสุด มูลค่าร่วม 2.7 หมื่นล้านบาท นั่นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญระดับโลกของศูนย์กลางการผลิตในไทย และมาสด้มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถรุ่นใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มชีวิตชาวไทยต่อไปไม่หยุดยั้ง”
ทั้งนี้ในส่วนของโครงการอีโคคาร์ เฟส2 เบื้องต้นจะผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า2 สกายแอคทีฟ เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งในโครงการอีโคคาร์ 2 และเป็นเการผลิตรถครื่องยนต์ดีเซลในรถเล็กรุ่นแรกในไทย เพื่อทำการส่งออกทั่วโลกและรองรับการจำหน่ายในไทยต้นปีหน้า โดยการลงทุนครั้งนี้ยังได้เพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์นั่งของมาสด้าในไทย จากปัจจุบันจำนวน 5 หมื่นคันต่อปี เพิ่มเป็น 1.2 แสนคันต่อปี ขณะที่โรงงานผลิตเครื่องยต์สกายแอคทีฟที่เป็นแห่งแรกนอกจากประเทศญี่ปุ่น จะเริ่มเปิดสายการผลิตภายในไตรมาส 4 ของปี 2558 เช่นเดียวกับโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ จะเริ่มเปิดสายการผลิตในเดือนมกราคมปีหน้าเช่นกัน
นายนากามิเน่เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์อีโคคาร์ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” เบื้องต้นจะเริ่มส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศออสเตรเลียในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยในไทยจะเผยโฉมสู่สาธารณชนที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2014 ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมปีหน้า ระยะแรกจะทำตลาดกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลก่อน ขณะที่เครื่องเบนซินกำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาภายในองค์กรอยู่
“มาสด้าต้องการนำเสนอรถยนต์ที่สมรรถนะดี แต่ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันมาสด้าต้องการเป็นผู้นำเสนอความแตกต่าง และเป็นผลิตภัณฑ์พรีเมียมในตลาดอีโคคาร์ หรือกลุ่มรถขนาดเล็ก จึงได้ตัดสินใจทำตลาดเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งจะเห็นว่าในญีปุ่นที่เพิ่งเปิดตัว มาสด้า เดมิโอ หรือมาสด้า2 ในไทย ปรากฎว่ามียอดจองเหนือคาดการณ์เป็นจำนวน 1.9 หมื่นคัน และในจำนวนนี้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 60% จึงเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าชายไทยอย่างดีเข่นเดียวกัน”
สำหรับมาสด้า2 เป็นโครงการอีโคคาร์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าเฟสแรก และรถยนต์นั่งซับคอมแพ็กต์ในทุกด้าน ทั้งการประหยัดพลังงานที่ไม่ต่ำกว่า 23 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยมลพิษน้อยลงตามมาตรฐานยูโร 5 หรือมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 100 กรัมต่อกิโลเมตร มีคุณสมบัติการป้องกันอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้าและด้านข้าง รวมถึงความปลอดภัยเชิงป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นไปตามกำหนดมาตรฐานของโครงการอีโคคาร์ เฟส2 ส่วนราคาจำหน่ายและรายละเอียดอื่นๆ จะเปิดเผยได้ในการแนะนำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า
นายยูจิ นากามิเน่ ผู้อำนวยการและเจ้าหน้าที่บริหารอาวุโส มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า มาสด้าได้ให้ความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย และพร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์ไทย โดยเฉพาะในเรื่องของรถประหยัดพลังงาน จึงได้ลงทุนเพิ่มในประเทศไทยเป็นมูลค่ากว่า 9.7 พันล้านบาท เพื่อขึ้นไลน์ประกอบ มาสด้า2 สกายแอคทีฟ รถยนต์นั่งประหยัดพลังงานมาตรฐานสากล หรืออีโคคาร์ ระยะที่ 2 (Eco Car Phase2) โดยได้เริ่มเปิดสายการผลิตเมื่อวันที่ 6 พ.ย.นี้เป็นต้นไป
“การลงทุนดังกล่าวเป็นในส่วนของโรงงานประกอบรถยนต์ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย หรือ AAT เพื่อผลิตอีโคคาร์ เฟส2 และมาสด้ายังมีเพิ่มการลงทุนใหม่ต่อเนื่อง ตั้งโรงงานผลิตเครื่องยนต์มูลค่า 2.9 พันล้านบาท และเมื่อรวมกับโครงการแรกตั้งโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มูลค่า 1.5 หมื่นล้านบาท ทำให้มาสด้ามีการลงทุนในไทยรวม 3 โครงการล่าสุด มูลค่าร่วม 2.7 หมื่นล้านบาท นั่นแสดงให้เห็นถึงความสำคัญระดับโลกของศูนย์กลางการผลิตในไทย และมาสด้มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอรถรุ่นใหม่ๆ เพื่อเติมเต็มชีวิตชาวไทยต่อไปไม่หยุดยั้ง”
ทั้งนี้ในส่วนของโครงการอีโคคาร์ เฟส2 เบื้องต้นจะผลิตรถยนต์นั่งมาสด้า2 สกายแอคทีฟ เครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งเป็นรถยนต์นั่งในโครงการอีโคคาร์ 2 และเป็นเการผลิตรถครื่องยนต์ดีเซลในรถเล็กรุ่นแรกในไทย เพื่อทำการส่งออกทั่วโลกและรองรับการจำหน่ายในไทยต้นปีหน้า โดยการลงทุนครั้งนี้ยังได้เพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์นั่งของมาสด้าในไทย จากปัจจุบันจำนวน 5 หมื่นคันต่อปี เพิ่มเป็น 1.2 แสนคันต่อปี ขณะที่โรงงานผลิตเครื่องยต์สกายแอคทีฟที่เป็นแห่งแรกนอกจากประเทศญี่ปุ่น จะเริ่มเปิดสายการผลิตภายในไตรมาส 4 ของปี 2558 เช่นเดียวกับโรงงานผลิตเกียร์อัตโนมัติสกายแอคทีฟ จะเริ่มเปิดสายการผลิตในเดือนมกราคมปีหน้าเช่นกัน
นายนากามิเน่เปิดเผยว่า การผลิตรถยนต์อีโคคาร์ “มาสด้า2 สกายแอคทีฟ” เบื้องต้นจะเริ่มส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศออสเตรเลียในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยในไทยจะเผยโฉมสู่สาธารณชนที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป 2014 ปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคมปีหน้า ระยะแรกจะทำตลาดกับรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลก่อน ขณะที่เครื่องเบนซินกำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาภายในองค์กรอยู่
“มาสด้าต้องการนำเสนอรถยนต์ที่สมรรถนะดี แต่ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันมาสด้าต้องการเป็นผู้นำเสนอความแตกต่าง และเป็นผลิตภัณฑ์พรีเมียมในตลาดอีโคคาร์ หรือกลุ่มรถขนาดเล็ก จึงได้ตัดสินใจทำตลาดเครื่องยนต์ดีเซล ซึ่งจะเห็นว่าในญีปุ่นที่เพิ่งเปิดตัว มาสด้า เดมิโอ หรือมาสด้า2 ในไทย ปรากฎว่ามียอดจองเหนือคาดการณ์เป็นจำนวน 1.9 หมื่นคัน และในจำนวนนี้เป็นเครื่องยนต์ดีเซล 60% จึงเชื่อมั่นว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าชายไทยอย่างดีเข่นเดียวกัน”
สำหรับมาสด้า2 เป็นโครงการอีโคคาร์ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นกว่าเฟสแรก และรถยนต์นั่งซับคอมแพ็กต์ในทุกด้าน ทั้งการประหยัดพลังงานที่ไม่ต่ำกว่า 23 กิโลเมตรต่อลิตร ปล่อยมลพิษน้อยลงตามมาตรฐานยูโร 5 หรือมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 100 กรัมต่อกิโลเมตร มีคุณสมบัติการป้องกันอุบัติเหตุจากการชนด้านหน้าและด้านข้าง รวมถึงความปลอดภัยเชิงป้องกันอุบัติเหตุ ซึ่งเป็นไปตามกำหนดมาตรฐานของโครงการอีโคคาร์ เฟส2 ส่วนราคาจำหน่ายและรายละเอียดอื่นๆ จะเปิดเผยได้ในการแนะนำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการในต้นปีหน้า