ข่าวต่างประเทศ - "ปอร์เช่" เผยยอดส่งมอบรถให้กับลูกค้าทั่วโลก 135,600 คัน หรือเทียบกับช่วง 9 เดือนแรกปีที่แล้วทะยาน 13% เฉพาะกันยายนพุ่งสูงถึง 22% ล่าสุดเผยโฉม “คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด” เทคโนโลยีแบบ Plug-in hybrid โมเดลที่ 3 ซึ่งกำลังมาแรงช่วยดันอีกรุ่น
ปอร์เช่ผู้ผลิตรถสปอร์ตที่มียอดส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วโลกสูงขึ้นเป็น 135,600 คันในปี 2014 ซึ่งถือได้ว่ามีจำนวนการส่งมอบรถให้กับลูกค้ามากขึ้นกว่า 9 เดือนแรกของปีที่แล้วถึง 13% เลยทีเดียว สำหรับรายงานประจำเดือนกันยายนนั้นได้แสดงให้เห็นว่า ปอร์เช่สามารถส่งมอบรถใหม่ให้กับลูกค้าได้ถึง 15,800 คัน ซึ่งถือว่าสูงขึ้น 22% หากเปรียบเทียบกับเดือนกันยายนปีที่แล้ว
“ในเดือนกันยายนพวกเรายังคงทำตามกลยุทธ์การเติบโตอย่างต่อเนื่อง” Bernhard Maier สมาชิกบอร์ดบริหารฝ่ายขายและการตลาดของปอร์เช่กล่าว “และด้วยคาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid) ที่จัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์ ปารีส มอเตอร์โชว์ ส่งผลให้ปอร์เช่มีรถสปอร์ตที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีแบบ Plug-in hybrid ถึง 3 รุ่นสำหรับตลาดรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม ที่จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและกลายมาเป็นผู้นำสำหรับนวัตกรรมในตลาดรถยนต์หรูอย่างแน่นอน”
สำหรับตลาดในประเทศจีน ปอร์เช่ ได้แสดงศักยภาพที่โดดเด่นด้วยยอดขายที่สูงขึ้นเป็น 32,600 ในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งถือได้ว่าเพิ่มขึ้นเป็น 19% หากเทียบกับช่วงเดือนมกราคม - เดือนกันยายนในปีที่ผ่านมา สำหรับตลาดในทวีปยุโรป มีจำนวนยอดส่งมอบสูงขึ้น 15% และสามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าไปแล้ว 43,300 คัน ส่วนตลาดรถหรูในประเทศเยอรมนีนั้นปอร์เช่มียอดส่งมอบไปแล้ว 17,800 คัน คิดเป็น 12%
สำหรับปี 2014 ปอร์เช่ได้มีรถรุ่นใหม่ๆ ต่างออกมาให้ลูกค้าได้เลือกสรรและคาเยนน์ยังคงเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมตลอดกาล โดยมียอดส่งมอบให้กับลูกค้าทั่วโลกมากกว่า 51,000 คัน ส่วนแกรน ทัวริสโม่อย่าง พานาเมร่า (Panamera) มียอดส่งมอบไปแล้ว 18,700 คัน สำหรับ 911 คาร์เรร่า (911 Carrera) รถสปอร์ตที่ได้รับการยอมรับว่าเป็น ไอคอนของปอร์เช่มียอดส่งมอบที่ 22,900 คัน
ปอร์เช่ รุ่น 911 คาร์เรร่า (911 Carrera): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 12.4 – 8.2 ลิตร/100 กิโลเมตร (8.1 – 12.2 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 289 – 191 กรัม/กิโลเมตร
ปอร์เช่ รุ่นบ็อกซเตอร์/เคย์แมน (Boxster/Cayman): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 9.0 – 7.9 ลิตร/100 กิโลเมตร (11.1 – 12.7 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 211 – 183 กรัม/กิโลเมตร
ปอร์เช่ รุ่น คาเยนน์ (Cayenne, 2015): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 11.5 – 6.6 ลิตร/100 กิโลเมตร (8.7 – 15.2 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 267–173 กรัม/กิโลเมตร
ปอร์เช่ รุ่น คาเยนน์ เอส อี-ไฮบริด (Cayenne S E-Hybrid): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 3.4 ลิตร/100 กิโลเมตร (29.4 กิโลเมตร/ลิตร), อัตราการบริโภคพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่: 20.8 กิโลวัตต์/100 กิโลเมตร (4.8 กิโลเมตร/กิโลวัตต์); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 79 กรัม/กิโลเมตร
ปอร์เช่ รุ่น คาเยนน์ (Cayenne, 2014): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 11.5 – 7.2 ลิตร/100 กิโลเมตร (8.7 – 13.9 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 270-189 กรัม/กิโลเมตร
ปอร์เช่ รุ่น พานาเมร่า (Panamera): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 10.7 – 6.4 ลิตร/100 กิโลเมตร (9.3 – 15.6 กิโลเมตร/ชั่วโมง); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 249–169 กรัม/กิโลเมตร
ปอร์เช่ รุ่น พานาเมร่า เอส อี-ไฮบริด (Panamera S E-Hybrid): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 3.1 ลิตร/100 กิโลเมตร (32.3 กิโลเมตร/ลิตร), อัตราการบริโภคพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 16.2 กิโลวัตต์/100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 71 กรัม/กิโลเมตร
ปอร์เช่ รุ่น มาคันน์ (Macan): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 9.2 – 6.1 ลิตร/100 กิโลเมตร (10.9 – 16.4 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 216 – 159 กรัม/กิโลเมตร
ปอร์เช่ รุ่น 918 สไปเดอร์ (918 Spyder): อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 3.1 – 3.0 ลิตร/100 กิโลเมตร (32.3 – 33.3 กิโลเมตร/ลิตร); อัตราการบริโภคพลังงานไฟฟ้าอยู่ที่ 12.7 กิโลวัตต์/100 กิโลเมตร; อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อยู่ที่ 72–70 กรัม/กิโลเมตร