ข่าวในประเทศ - “เมอร์เซเดส-เบนซ์” ประกาศคำมั่นลงทุนเพิ่มไลน์ผลิตรถรุ่นใหม่ในไทยเร็วๆ นี้ หวังจับตลาดกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่มาแรง พร้อมเปิดตัว “ชมพู่-อารยา” ดาราชื่อดังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรก มั่นใจดันยอดขายพุ่ง เผยการเปลี่ยนแปลงการเมือง-รัฐบาลใหม่ ไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุน ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจและปัจจัยหนุน
นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มรถยนต์หรูหรายังคงมีอัตราการขยายตัวดีต่อเนื่อง แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ทั่วไปจะชะลอตัวลงอย่างมาก เพราะรถกลุ่มนี้ไม่มีผลกระทบจากโครงการรถคันแรก และสถานการณ์การเมืองแต่อย่างใด โดยคาดว่าตลอดทั้งปีตลาดรถหรูน่าจะเติบโตประมาณ 5-10% หรืออยู่ที่ 2.1 หมื่นคันต่อปี
“ในส่วนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ผ่าน 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.) สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 5,200 คัน หรือเติบโต 18% เป็นผลมาจากการที่มีสินค้าหลากหลายถึง 15 รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งถือว่ามากสุดในประวัติศาสตร์การทำตลาดรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ในไทย โดยเฉพาะการมีรถกลุ่มที่รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มีส่วนช่วยขยายตลาดและผลักดันยอดขายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างมาก จึงคาดว่าถึงสิ้นปีน่าจะมียอดขายมากกว่าการเติบโตของตลาดรถหรูแน่นอน”
โดยปัจจุบันรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เข้ามารองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือรถหรูหรากลุ่มเอ็นจีซีซี (NGCC : New Generation Compact Car) มีนำเข้ามาทำตลาดหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส, ซีแอลเอ-คลาส และล่าสุดเพิ่งเปิดตัวคอมแพ็กต์เอสยูวี “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ-คลาส” ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าในไทยอย่างดี จนมีจำนวนค้างส่งมอบรถนานหลายเดือนพอสมควร เช่นเดียวกับรถรุ่นอื่นๆ ในกลุ่มเอ็นจีซีซี ทำให้ปัจจุบันรถกลุ่มนี้มีสัดส่วนการขาย 1 ใน 3 ของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั้งหมด แม้จะเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูปจากประเทศเยอรมนีก็ตาม และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่อง เพียงแต่ยังไม่ชัดเจนว่าที่สุดจะเป็นจำนวนเท่าไหร่
“เพื่อตอบรับกระแสความต้องการของคนรุ่นใหม่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย กำลังศึกษาแผนการประกอบรถกลุ่มเอ็นจีซีซีในไทย จากปัจจุบันที่มีประกอบรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส, อี-คลาส, เอส-คลาส และเอ็มแอล-คลาส เพียงแต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียด ถึงจำนวนเงินลงทุน หรือระยะเวลาที่ชัดเจนได้ แต่เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้คำมั่นได้ว่า จะมีการลงทุนประกอบรถรุ่นใหม่ในเร็วๆ นี้แน่นอน” นายเกรเว่กล่าวและว่า
ส่วนเรื่องของสถานการณ์ทางการเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ในไทย จากประสบการณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ปัญหาเหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบมากนัก โดยปัจจัยที่มีผลในการตัดสินใจลงทุนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อยู่ที่ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ กฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ว่าเอื้อต่อการลงทุนหรือไม่มากกว่า
นายมาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์ของเมอร์เดส-เบนซ์ในประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ จะเน้นการรุกตลาดกลุ่มรถใหม่ ผ่านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง หรือการทำตลาดในโลกออนไลน์อย่างโซเชียล เน็ตเวิร์คมากขึ้น เนื่องจากสื่อช่องทางนี้สามารถสร้างความรู้สึกใกล้ชิด ไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
“ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวนักแสดงชื่อดัง ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย เพราะเป็นดาราเซเลบริตี้สาวผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ประกอบกับบุคลิคเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถหลากหลาย และชมพู่ได้เลือกรถยนต์รุ่นจีแอลเอ-คลาสมาเป็นพาหนะคู่ใจ ซึ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่แบบเธอได้อย่างลงตัว”
นายไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กลุ่มรถยนต์หรูหรายังคงมีอัตราการขยายตัวดีต่อเนื่อง แม้ภาพรวมตลาดรถยนต์ทั่วไปจะชะลอตัวลงอย่างมาก เพราะรถกลุ่มนี้ไม่มีผลกระทบจากโครงการรถคันแรก และสถานการณ์การเมืองแต่อย่างใด โดยคาดว่าตลอดทั้งปีตลาดรถหรูน่าจะเติบโตประมาณ 5-10% หรืออยู่ที่ 2.1 หมื่นคันต่อปี
“ในส่วนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ผ่าน 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค.) สามารถทำยอดขายได้มากกว่า 5,200 คัน หรือเติบโต 18% เป็นผลมาจากการที่มีสินค้าหลากหลายถึง 15 รุ่น เพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้าทุกกลุ่ม ซึ่งถือว่ามากสุดในประวัติศาสตร์การทำตลาดรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ในไทย โดยเฉพาะการมีรถกลุ่มที่รองรับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ มีส่วนช่วยขยายตลาดและผลักดันยอดขายเมอร์เซเดส-เบนซ์อย่างมาก จึงคาดว่าถึงสิ้นปีน่าจะมียอดขายมากกว่าการเติบโตของตลาดรถหรูแน่นอน”
โดยปัจจุบันรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่เข้ามารองรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือรถหรูหรากลุ่มเอ็นจีซีซี (NGCC : New Generation Compact Car) มีนำเข้ามาทำตลาดหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส, ซีแอลเอ-คลาส และล่าสุดเพิ่งเปิดตัวคอมแพ็กต์เอสยูวี “เมอร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ-คลาส” ไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าในไทยอย่างดี จนมีจำนวนค้างส่งมอบรถนานหลายเดือนพอสมควร เช่นเดียวกับรถรุ่นอื่นๆ ในกลุ่มเอ็นจีซีซี ทำให้ปัจจุบันรถกลุ่มนี้มีสัดส่วนการขาย 1 ใน 3 ของรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั้งหมด แม้จะเป็นรถนำเข้าสำเร็จรูปจากประเทศเยอรมนีก็ตาม และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่อง เพียงแต่ยังไม่ชัดเจนว่าที่สุดจะเป็นจำนวนเท่าไหร่
“เพื่อตอบรับกระแสความต้องการของคนรุ่นใหม่ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย กำลังศึกษาแผนการประกอบรถกลุ่มเอ็นจีซีซีในไทย จากปัจจุบันที่มีประกอบรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ ซี-คลาส, อี-คลาส, เอส-คลาส และเอ็มแอล-คลาส เพียงแต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียด ถึงจำนวนเงินลงทุน หรือระยะเวลาที่ชัดเจนได้ แต่เมอร์เซเดส-เบนซ์ให้คำมั่นได้ว่า จะมีการลงทุนประกอบรถรุ่นใหม่ในเร็วๆ นี้แน่นอน” นายเกรเว่กล่าวและว่า
ส่วนเรื่องของสถานการณ์ทางการเมือง หรือการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลใหม่ในไทย จากประสบการณ์ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย ปัญหาเหล่านี้ไม่ส่งผลกระทบมากนัก โดยปัจจัยที่มีผลในการตัดสินใจลงทุนของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อยู่ที่ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย และปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ กฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ว่าเอื้อต่อการลงทุนหรือไม่มากกว่า
นายมาร์ทิน ชูลซ์ รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า กลยุทธ์ของเมอร์เดส-เบนซ์ในประเทศไทยในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ จะเน้นการรุกตลาดกลุ่มรถใหม่ ผ่านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง หรือการทำตลาดในโลกออนไลน์อย่างโซเชียล เน็ตเวิร์คมากขึ้น เนื่องจากสื่อช่องทางนี้สามารถสร้างความรู้สึกใกล้ชิด ไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
“ล่าสุดบริษัทฯ ได้เปิดตัวนักแสดงชื่อดัง ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนแรกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ในประเทศไทย เพราะเป็นดาราเซเลบริตี้สาวผู้ทรงอิทธิพลบนโลกออนไลน์ ประกอบกับบุคลิคเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถหลากหลาย และชมพู่ได้เลือกรถยนต์รุ่นจีแอลเอ-คลาสมาเป็นพาหนะคู่ใจ ซึ่งตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายของคนรุ่นใหม่แบบเธอได้อย่างลงตัว”
