ความแรงและความเร้าใจในแบบเดิมๆ อาจจะยังไม่เพียงพอ ทางแอสตัน มาร์ตินก็เลยนำเสนอ อีกทางเลือกของการขับเคลื่อนที่เพียบพร้อมด้วยความเร้าใจและความสวยสปอร์ตมาให้กับลูกค้า กับเวอร์ชันที่เรียกว่า Carbon Edition ที่ไม่ได้มีเพียงแค่การเสริมชุดสปอยเลอร์ที่ผลิตจากคาร์บอนไฟเบอร์ เข้าไปเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการเพิ่มสมรรถนะในส่วนอื่นๆ เข้าไปอีกด้วย
Carbon Edition เปิดตัวทำตลาดกับสปอร์ตรุ่น DB9 ซึ่งจะมาพร้อมกับ 2 โทนสีให้เลือกสัมผัส คือ Carbon Black หรือ Carbon White โดยจุดหลักคือ การเสริมสวยรอบคันด้วยชุดพาร์ต ที่ผลิตจากคาร์บอน ไฟเบอร์ บวกกับล้อแม็กลายใหม่ 10 ก้าน
เช่นเดียวกับภายในห้องโดยสารที่มีการตกแต่งด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตมาจากวัสดุประเภทนี้ และที่น่าสนใจ คือ แอสตัน มาร์ตินให้ดิสก์เบรกแบบคาร์บอนเซรามิกมาให้จากโรงงานเพื่อประสิทธิภาพในการสยบแรงม้า จากเครื่องยนต์วี12 6,000 ซีซี
สำหรับเครื่องยนต์บล็อกนี้ไม่ได้รับการเพิ่มเรี่ยวแรงจาก DB9 รุ่นปกติแต่อย่างใด มากับกำลังสูงสุด 510 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 63.1 กก.-ม. ซึ่งตอบสนองการขับเคลื่อนตามแบบฉบับความเร้าใจของสปอร์ต GT ส่วนระบบส่งกำลังจะมีขายเฉพาะแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะเท่านั้น
ราคาของ Carbon Edition จะแพงกว่ารุ่นธรรมดากว่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 30,000 กว่าบาท นั่นทำให้ค่าตัวขยับขึ้นมาที่ 200,000 เหรียญสหรัฐฯ มีทอน 5 เหรียญสหรัฐฯ หรืออยู่ที่ 199,995 บาท หรือ 5.99 ล้านบาท และจะเริ่มส่งมอบปลายปีนี้
Carbon Edition เปิดตัวทำตลาดกับสปอร์ตรุ่น DB9 ซึ่งจะมาพร้อมกับ 2 โทนสีให้เลือกสัมผัส คือ Carbon Black หรือ Carbon White โดยจุดหลักคือ การเสริมสวยรอบคันด้วยชุดพาร์ต ที่ผลิตจากคาร์บอน ไฟเบอร์ บวกกับล้อแม็กลายใหม่ 10 ก้าน
เช่นเดียวกับภายในห้องโดยสารที่มีการตกแต่งด้วยชิ้นส่วนที่ผลิตมาจากวัสดุประเภทนี้ และที่น่าสนใจ คือ แอสตัน มาร์ตินให้ดิสก์เบรกแบบคาร์บอนเซรามิกมาให้จากโรงงานเพื่อประสิทธิภาพในการสยบแรงม้า จากเครื่องยนต์วี12 6,000 ซีซี
สำหรับเครื่องยนต์บล็อกนี้ไม่ได้รับการเพิ่มเรี่ยวแรงจาก DB9 รุ่นปกติแต่อย่างใด มากับกำลังสูงสุด 510 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 63.1 กก.-ม. ซึ่งตอบสนองการขับเคลื่อนตามแบบฉบับความเร้าใจของสปอร์ต GT ส่วนระบบส่งกำลังจะมีขายเฉพาะแบบอัตโนมัติ 6 จังหวะเท่านั้น
ราคาของ Carbon Edition จะแพงกว่ารุ่นธรรมดากว่า 10,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 30,000 กว่าบาท นั่นทำให้ค่าตัวขยับขึ้นมาที่ 200,000 เหรียญสหรัฐฯ มีทอน 5 เหรียญสหรัฐฯ หรืออยู่ที่ 199,995 บาท หรือ 5.99 ล้านบาท และจะเริ่มส่งมอบปลายปีนี้