แม้ว่าจะอีกนานกว่าที่ MX-5 ใหม่จะเปิดตัวในปี 2015 (ซึ่งน่าจะค่อนไปทางปลายปี) แต่คาดว่ามาสด้าคงจะไม่มีอะไรออกมาเซอร์ไพรส์อีกแล้วสำหรับโรดสเตอร์รุ่นนี้ และเวอร์ชันฉลอง 25 ปีของสายพันธุ์ MX-5 น่าจะเป็นรุ่นย่อยพิเศษรุ่นสุดท้ายแล้ว
MX-5 หรือโรดสเตอร์ในตลาดญี่ปุ่น หรือ Miata ในตลาดสหรัฐอเมริกา เป็นรถสปอร์ตเปิดประทุน ขนาดเบารุ่นเล็กที่สร้างชื่อให้กับมาสด้านับจากเปิดตัวในปี 1989 โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วโลก มาอย่างต่อเนื่องจนถึงรุ่นปัจจุบันที่เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 และมียอดขายรวม 3 รุ่นมากกว่า 940,000 คัน จนกลายได้่รับการบันทึกใน Guinness World Record ว่าเป็นรถสปอร์ตแบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งมียอดขายดีที่สุด
สำหรับรุ่นพิเศษนี้ได้รับการผลิตและแต่งเติมจากเจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเปิดตัวออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 2008 ในรหัส NC มีขายทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปจากรุ่นธรรมดามีทั้ง สีตัวถังพิเศษที่ผลิตเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ หรือ Soul Red Metallic ส่วนรุ่นหลังคาแข็งพับได้ หรือ PRHT หลังคาแข็งจะเป็นสีดำ และเสริมด้วยสเกิร์ตสีดำตัดกับตัวถังรอบคัน และล้อแม็กลายใหม่ 17 นิ้วประกบยาง 205/45R17
ส่วนในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยเบาะนั่งสีครีม และมีการปักโลโก้ ฉลอง 25 ปีเอาไว้ที่หมอนรองศีรษะ นอกจากนั้นยังมีการแปะโลโก้เอาไว้ตามจุดต่างๆ เช่น กาบบันได และเพลทที่แปะเอาไว้ซุ้มล้อหน้า พร้อมกับ ระบุคันที่ผลิตของรุ่นย่อยนี้ ส่วนเครื่องยนต์ที่ทำตลาดเป็นขุมพลังแบบ 4 สูบ 2,000 ซีซี ที่ไม่ได้โมดิฟายอะไร
มาสด้าเผยว่าจะทำตลาดทั้งตัวถังหลังคาอ่อน และรุ่นหลังคาแข็งพับเก็บได้ โดยราคาตั้งเอาไว้ที่ 23,970 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 767,000 บาท และ รุ่นหลังคาแข็งพับได้ หรือ PRHT ตั้งราคาเอาไว้ที่ 28,665 เหรียฐสหรัฐฯ หรือ 917,000 บาท มีแค่ 100 คันเท่านั้น ต้องรีบหน่อยสำหรับคนที่สนใจ
MX-5 หรือโรดสเตอร์ในตลาดญี่ปุ่น หรือ Miata ในตลาดสหรัฐอเมริกา เป็นรถสปอร์ตเปิดประทุน ขนาดเบารุ่นเล็กที่สร้างชื่อให้กับมาสด้านับจากเปิดตัวในปี 1989 โดยได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วโลก มาอย่างต่อเนื่องจนถึงรุ่นปัจจุบันที่เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 และมียอดขายรวม 3 รุ่นมากกว่า 940,000 คัน จนกลายได้่รับการบันทึกใน Guinness World Record ว่าเป็นรถสปอร์ตแบบ 2 ที่นั่ง ซึ่งมียอดขายดีที่สุด
สำหรับรุ่นพิเศษนี้ได้รับการผลิตและแต่งเติมจากเจนเนอเรชั่นที่ 3 ซึ่งเปิดตัวออกสู่ตลาดมาตั้งแต่ปี 2008 ในรหัส NC มีขายทั้งรุ่นเกียร์ธรรมดา และอัตโนมัติ โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปจากรุ่นธรรมดามีทั้ง สีตัวถังพิเศษที่ผลิตเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ หรือ Soul Red Metallic ส่วนรุ่นหลังคาแข็งพับได้ หรือ PRHT หลังคาแข็งจะเป็นสีดำ และเสริมด้วยสเกิร์ตสีดำตัดกับตัวถังรอบคัน และล้อแม็กลายใหม่ 17 นิ้วประกบยาง 205/45R17
ส่วนในห้องโดยสารโดดเด่นด้วยเบาะนั่งสีครีม และมีการปักโลโก้ ฉลอง 25 ปีเอาไว้ที่หมอนรองศีรษะ นอกจากนั้นยังมีการแปะโลโก้เอาไว้ตามจุดต่างๆ เช่น กาบบันได และเพลทที่แปะเอาไว้ซุ้มล้อหน้า พร้อมกับ ระบุคันที่ผลิตของรุ่นย่อยนี้ ส่วนเครื่องยนต์ที่ทำตลาดเป็นขุมพลังแบบ 4 สูบ 2,000 ซีซี ที่ไม่ได้โมดิฟายอะไร
มาสด้าเผยว่าจะทำตลาดทั้งตัวถังหลังคาอ่อน และรุ่นหลังคาแข็งพับเก็บได้ โดยราคาตั้งเอาไว้ที่ 23,970 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 767,000 บาท และ รุ่นหลังคาแข็งพับได้ หรือ PRHT ตั้งราคาเอาไว้ที่ 28,665 เหรียฐสหรัฐฯ หรือ 917,000 บาท มีแค่ 100 คันเท่านั้น ต้องรีบหน่อยสำหรับคนที่สนใจ