ศึกโมโตครอสโลกที่ประเทศไทยได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันเป็นครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่บริเวณนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง3 อ.ศรีราชา จ. ชลบุรี เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาถือเป็นหนึ่งในสนามเก็บคะแนนสะสมรวม 18 สนามทั่วโลกซึ่งบรรยากาศการแข่งขันของบรรดานักบิดระดับโลกที่แห่แหนเข้าร่วมการแข่งขันมากมายสร้างความเร้าใจได้ตลอดโดยเฉพาะแทร็กการแข่งขันที่มีองค์ประกอบครบถ้วนตามกฏของสมาพันธ์รถจักรยานยนต์นานาชาติหรือเอฟไอเอ็มที่ออกแบบให้มีความยากลำบากและท้าทายโดยเฉพาะเนินลูกระนาด, เนินเทเบิลท็อป หรือเนินกระโดดสูงที่บรรดาขุนพลนักบิดจากทั่วโลกกระโดดแต่ละครั้งสามารถจัมพ์ไปได้ไกลกว่า 60 เมตร ในสภาพแท็รกที่เต็มไปด้วยโคลนทรายและดินลูกรัง โดยนักแข่งต่างขับเคี่ยวกันสนุกกับสมรรถนะของเครื่องยนต์และคุณภาพของยางที่ทางทีมเป็นผู้เลือกใช้และในที่สุดเมื่อจบการแข่งขันผลของผู้ชนะในรุ่น MXGPคือ อันโตนิโอ ไคโรลี่แชมป์เก่า 7 สมัยจากอิตาลีที่2. คลีเม้นท์ เดแซลเล่ที่3. เจเรมี่ ฟาน ฮอเรบีคส่วนรุ่น MX2ที่1. เจฟฟรีย์ เฮอริงค์2. เกรน โคลเดนฮอฟฟ์3. แม็กซ์ แอนซ์ไทด์
หากกล่าวถึงการแข่งขันแต่ละสนามนอกเหนือจากเรื่องของรถแข่ง เครื่องยนต์ ช่วงล่างที่ต้องโมดิฟายหรือเซตมาอย่างดีแล้วเรื่องของยางแข่งก็มีส่วนสำคัญกับการแข่งขันในระดับโลกครั้งนี้ที่อย่างน้อยก็มีภาระที่จะต้องรับแรงกระแทกอย่างหนักในการรองรับน้ำหนักขณะจัมพ์ลงมาจากที่สูงและพร้อมที่จะตะกุยต่อไปเพื่อไม่ให้เสียเวลามากนัก
นาย เค ซาโตะ ประธานบริหาร บมจ. อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถจักรยานยนต์ ไออาร์ซี ที่เข้ามาสนับสนุนการแข่งขันโมโตครอสโลกครั้งนี้เล่าให้ฟังโดยมี นาย พงศ์พรรณ รัตนวิโรจน์ ผจก. อาวุโส แผนกการตลาด แปลให้ฟังว่า "สนามแข่งนี้เมื่อปีที่แล้วได้ถูกออกแบบใหม่หมดถือว่าสวยและงดงามที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในเมืองไทยโดยมี นายแจน โพสเตม่า อดีตแชมป์โมโตครอสโลกที่เป็นเพื่อนกับนาย ธงชัย วงษ์สวรรค์ ประธานสมาพันธ์กีฬาแข่งรถจักรยานยนต์แห่งประเทศไทยในฐานะผู้จัดของไทยช่วยกันออกแบบและสร้างขึ้นมาซึ่งถือว่าเป็นสนามที่ท้าทายอย่างยิ่ง หนึ่งปีที่ผ่านมา นายธงชัย ได้ดูแลสนามเป็นอย่างดี พร้อมใช้ในรายการชิงแชมป์ประเทศไทยทำให้สนามสมบูรณ์แบบกว่าปีที่แล้ว จากการประชุมร่วมกันของ 3 สมาพันธ์ฯแห่งเอเชีย คือธงชัย วงษ์สวรรค์, สเตฟาน แมคกี้ คาริไพซ์ อดีตประธานFIM ASIA (ประธานสมาพันธ์ฯ ของฟิลิปปินส์)และ นายเอ โคโตะ รองเลขาสมาพันธ์ฯ ของญี่ปุ่น FMJ ซึ่ง ที่ประชุมได้ลงมติว่า สนามโมโตครอสที่ศรีราชาแห่งนี้เป็นสนามที่ดีที่สุดอันดับ2ของโลก ด้วยเหตุผลที่ได้รับการยืนยันจากนักแข่งระดับโลกหลายท่าน โดยเฉพาะแชมป์โลก เจ็ดสมัยอย่างไคโรลี่ บอกว่า ด้วยสภาพของดินที่ร่วนซุย เป็นสนามแบบ MEDIUM TERAIN แบบแข็งปานกลางเวลารดน้ำไปบนแทร็กน้ำไม่ได้ซึมหายไปใต้ผิวดินยังคงอยู่ด้านล่าง เวลานักแข่งขี่มา ตัวยางหลังเดินคันเร่งเพื่อออกตัวจากโค้งทำได้ดีมาก เพราะความที่ดินทรายมีความละเอียดร่วนซุย ทำให้เพิ่มความเร็วในการออกตัวจากโค้งหรือขณะกระโดดส่วนตอนช่วงลงเนิน สนามก็รับน้ำหนักทั้งรถและคนได้โดยไม่เสียการทรงตัวเพราะทำให้ยางเกาะดินได้ดีเยี่ยม เวลาในการขับขี่ของนักแข่งก็ทำได้ดี อุบัติเหตุก็เกิดน้อย โดยเหตุผลดังกล่าวน่าจะเป็นองค์ประกอบสำคัญ ที่ทำให้ ทั้งสามสมาพันธ์ฯยืนยันเป็นเสียงเดียวกัน"
สำหรับเรื่องของการพัฒนายางโมโตครอส นั้น นาย ซาโตะ กล่าวว่า"สนามแข่งมีส่วนสำคัญมากในการพัฒนายาง ที่ใช้ในการแข่งขันที่ต้องเป็นโครงสร้างและข้อจำกัดของมันเองทางไออาร์ซีได้เล็งเห็นว่า เราจะใช้สนามนี้ในการพัฒนายางโมโตครอสรุ่นใหม่ๆ โดยครั้งนี้ได้จัดทีมวิศวกรจากประเทศญี่ปุ่นแผนกวิจัยและพัฒนาฯจากไออาร์ซี ลงพื้นที่เพื่อสำรวจอย่างจริงจัง ก่อนทำแผนพัฒนายางรุ่นใหม่ และทดสอบจริงในสนามแห่งนี้ต่อไป ถือเป็นโอกาสที่ดีมาก ที่เมืองไทย มีสนามแบบนี้อยู่ โดยไม่ต้องลงทุนไปทดสอบถึงต่างประเทศพร้อมให้ความรู้และอธิบายเพิ่มเติมว่า
ยางโมโตครอสที่ใช้ในการแข่งขันนั้นต้องแยกตามสภาพสนามแข่งที่ผู้จัดการทีมแข่งของแต่ละทีมต้องเป็นผู้พิจารณาแต่หลักๆ ก็ประกอบด้วย 1. ยาง HARD TERRAIN จะใช้กับสนามแข่งที่มีทางวิ่งค่อนข้างแข็ง ส่วนยางที่เหมาะสมของยางไออาร์ซี ก็คือรุ่น IX-05H ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ มีรายการชิงแชมป์ในประเทศไทยร่วมด้วยโดยในรุ่น FAMILY+SCOOTER OPEN นักแข่งในสังกัดไออาร์ซีคือสุภัทรชัย เบอร์132 ทีม KSPORTฯสามารถ คว้าแชมป์ในรุ่นนี้มาครองได้ 2. MEDIUM-SOFT TERRAIN จะใช้กับสนามแข่งที่มีทางวิ่งแข็งปานกลางถึงนิ่ม โดยยางไออาร์ซีที่เหมาะสมคือ รุ่น IX-07S 3. SOFT TERRAIN สนามแข่งที่มีทางวิ่งเกือบนิ่ม ก็สามารถใช้ยางไออาร์ซี รุ่น IX-07S ซึ่งเหมาะสมกับสภาพสนามหลังฤดูฝนแบบนิ่ม เช่นกัน 4. MUD TERRAIN สนามที่เป็นโคลน ยางที่เหมาะสมของไออาร์ซีคือ รุ่น M1A & M5B เป็นยางที่นักแข่งเลือกใช้สำหรับสนามโคลนไปจนถึงทรายโดยรุ่น M5B ยังเหมาะสำหรับการแข่งขันแบบขึ้นเขา เนื่องจากประสิทธิภาพการยึดเกาะดีเยี่ยม "
