xs
xsm
sm
md
lg

เทียบเอคโคสปอร์ต VS จู๊ค เอสยูวีเล็กเพื่อชีวิตคนเมือง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ปัจจุบันไลฟ์สไตล์ของผู้คน และโดยเฉพาะคนเมืองมีหลากหลายมากขึ้น ทำให้ความต้องการรถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี เพื่อตอบสนองชีวิตคนเมืองเกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งค่ายรถส่วนใหญ่ต่างก็เตรียมผลิตภัณฑ์ดังกล่าวแนะนำสู่ตลาด และหนึ่งในผู้สร้างกระแสเห็นจะเป็น “ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต” ที่เพิ่งเปิดตัวสู่ตลาดไทย แต่งานนี้ต้องเจอคู่แข่ง “นิสสัน จู๊ค” ที่ถูกส่งลงมาท้าชนตรงๆ และ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” ขอนำข้อมูลสเปกรถและราคามาเปรียบเทียบให้เห็นกันชัดๆ…

รถอเนกประสงค์แบบเอสยูวีขนาดเล็ก หรือซับคอมแพ็กต์เอสยูวี จะว่าไปในไทยมีรถที่มีลักษณะคล้ายๆ ทำตลาดมาก่อน นั่นคือ “ซูซูกิ เอสเอ็กซ์4” (Suzuki SX4) เพียงแต่ยังไม่เกิดกระแสมากนัก หรือแม้แต่รถรุ่นที่เปิดตัวล่าสุดในไทย “นิสสัน จู๊ค” (Nissan Juke) ซึ่งจริงๆ มีการแนะนำสู่หลายประเทศทั่วโลกมากว่า 2 ปีได้ และมีลูกค้าชาวไทยจำนวนหนึ่งเรียกร้องมาตลอดในช่วงที่ผ่านมา จนทางฟอร์ด มอเตอร์ ประกาศพัฒนารถรุ่นใหม่ “ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต” (Ford EcoSport) เมื่อเดือนมกราคมปี 2555 พร้อมกับสร้างภาพลักษณ์ของรถอเนกประสงค์เพื่อการขับขี่ในเมือง หรือ Urban SUV จึงเกิดกระแสรถประเภทนี้ขึ้นมา

แน่นอนด้วยแนวคิดการพัฒนารถรองรับคนเมือง ขนาดตัวถังและเครื่องยนต์จึงใกล้เคียงกับเก๋งซับคอมแพ็กต์ ทำให้ถูกจัดเป็นรถในกลุ่มซับคอมแพ็กต์เอสยูวี หรือบี-เอสยูวี โดยเห็นได้จากมิติตัวถังของ ฟอร์ด เอคโคสปอร์ต และนิสสัน จู๊ค แต่หากเทียบทั้งสองโมเดลในฐานะคู่แข่ง จะเห็นภาพรวมๆ ว่าเอคโค่สปอร์ใหญ่กว่า จากมิติตัวถังของความยาว และความสูง มีเพียงความกว้างที่เท่ากัน และใกล้เคียงในส่วนของระยะฐานล้อ(ดูตารางเปรียบเทียบประกอบ)

นั่นอาจจะมาจากแนวคิดการพัฒนาของแต่ล่ะค่าย ซึ่งเอคโค่สปอร์ตจะมาในรูปแบบของเอสยูวีสไตล์ดุดัน ขณะที่จู๊คมาในแบบสปอร์ตครอสโอเวอร์ แต่ด้วยลักษณะการใช้งานอเนกประสงค์เหมือนกัน จึงเรียกเป็นกลุ่มรถเอสยูวีตามความเข้าใจกันทั่วไป ดังนั้นด้วยรูปลักษณ์การออกแบบดังกล่าว ทีนี้อยู่ที่คนเมืองล่ะว่าจะต้องการรูปลักษณ์สไตล์ไหน?

ถึงอย่างนั้นด้วยการใส่ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/55R17 ทำให้นิสสัน จู๊ค พร้อมลุยกับความสูงใต้ท้องรถ 180 มม. ขณะที่เอคโค่สปอร์ตในรุ่นล่างๆ แม้จะติดตั้งล้อกระทะ 15 นิ้ว พร้อมกับยาง 195/65R15 และในรุ่นบนจะเป็นล้ออัลลอย 16 นิ้ว กับยางขนาด 205/60R16 แต่จากลักษณะการออกแบบรถ ทำให้เอคโค่สปอร์ตทุกรุ่นมีระยะต่ำสุดจากพื้น 200 มม. จึงลุยหลุมเล็ก หลุมใหญ่ หรือแอ่งน้ำ รวมถึงลุยน้ำลึกตามที่ฟอร์ดแจ้งมาได้ถึง 550 มม.


นิสสัน จู๊ค แม้จะประกอบที่อินโดนีเซีย แต่รุ่นทำตลาดในไทยได้มีการวางเครื่องยนต์เบนซินบล็อก HR16 ขนาด 1.6 ลิตร 116 แรงม้า ที่ติดตั้งอยู่ในเก๋งคอมแพ็กต์ นิสสัน ซิลฟี ขณะที่จู๊คในตลาดอินโดนีเซียเป็นบล็อก HR15DE ขนาด 1.5 ลิตร 114 แรงม้า ในส่วนของฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต ที่ประกอบในประเทศไทย วางเครื่องยนต์เบนซิน Duratec ขนาด 1.5 ลิตร 110 แรงม้า จะเห็นว่าจู๊คมีคอกที่ใหญ่จึงเลี้ยงม้าได้เยอะกว่า และมาตั้งแต่รอบต่ำ ตลอดจนแรงบิดที่สูงกว่า

อย่างไรก็ตาม ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต มีอัตราส่วนกำลังอัดเครื่องยนต์ 11 : 1 ผสานการทำงานกับระบบส่งกำลังเกียร์อัตโนมัติ PowerShift 6 สปีด พร้อมโหมดเปลี่ยนเกียร์แบบธรรมดา จึงน่าสร้างความสนุกสนานในการขับขี่ได้ไม่ด้อยกว่า หรือหากชอบแบบควบคุมเองยังมีรุ่นเกียร์ธรรมดา 5 สปีดให้เลือก ส่วนนิสสัน จู๊ค ที่มีอัตราส่วนกำลังอัด 9.8 : 1 และมาเพียงเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT ที่คงจะสัมผัสได้จากรถทุกรุ่นของนิสสันในไทยปัจจุบัน น่าจะตอบโจทย์คนชอบขับแบบไหลเนียนๆ ได้ดี ถึงอย่างนั้นจู๊คยังมีโหมดขับขี่ (I-Con) ไม่ว่าจะเป็นโหมดสปอร์ต(Sport) ปกติ(Normal) และประหยัดน้ำมัน (Eco) ให้เลือกขับขี่ตามต้องการด้วย

ส่วนการออกแบบภายในของฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต คล้ายๆ กับซับคอมแพ็กต์รุ่นเฟียสต้า ขณะที่นิสสัน จู๊ค มาในสไตล์สปอร์ตชัดเจน ซึ่งทั้งสองรุ่นต่างติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกและบันเทิงมาครบครัน อย่างปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ และระบบไฟหน้าเปิด-ปิดอัตโนมัติ โดยเอคโค่สปอร์ตจะโดดเด่นตามสไตล์ฟอร์ด กับระบบสั่งงานด้วยเสียง SYNC (มีเฉพาะ 2 รุ่นท็อป) ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อพูดคุยโทรศัพท์ หรือฟังเพลง พร้อมจอแสดงผลข้อมูลขนาดใหญ่ ขณะที่จู๊คไม่น้อยหน้ากับระบบ I-Connect ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียงเช่นกัน เชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย และเล่นอินเตอร์เน็ตผ่าน Wifi โดยสามารถตอบสนองทุกความบันเทิงบนหน้าจอสัมผัสแบบพกพาขนาด 7 นิ้ว (ให้ครบทุกรุ่น)

ด้านระบบความปลอดภัยของทั้งสองมาครบ ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า สัญญาณเตือนถอยหลัง ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) แต่เอคโค่สปอร์ตยังเพิ่มระบบป้องกันล้อหมุนฟรีและควบคุมการลื่นไถล(TCS) พร้อมระบบการทรงตัว(ESP) และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน(HLA) ซึ่งให้มาครบเกือบทุกรุ่นในฟอร์ด เอคโคสปอร์ต

นิสสัน จู๊ค ทำตลาดทั้งหมด 2 ทางเลือก กับรุ่น 1.6E ราคา 819,000 บาท และรุ่น 1.6V ราคา 858,000 บาท ขณะที่ฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต มีตัวเลือกทั้งหมด 4 รุ่นย่อย เริ่มจากรุ่น Ambiente MT ราคา 669,000 บาท รุ่น Ambiente AT ราคา 709,000 บาท รุ่น Trend AT ราคา 759,000 บาท และรุ่น Titanium AT ราคา 829,000 บาท โดยลูกค้า 2,500 ท่านแรกที่จองเอคโคสปอร์ต จะได้รับส่วนลด 30,000 บาท หรือเหลือเพียง 639,000 - 799,000 บาท

จากรุ่นและราคาของนิสสัน จู๊ค ในรุ่นท็อปจะแตกต่างจากรุ่นรอง เพียงอุปกรณ์ตกแต่งรอบคันอย่างสปอยเลอร์หลัง ปลายท่อไอเสีย คิ้วขอบประตูท้ายแบบโครเมียม เบาะหนัง สัญญาณเตือนระยะด้านหลังและกล้องมองหลัง ส่วนฟอร์ด เอคโค่สปอร์ต รุ่นท็อปอุปกรณ์ให้มาครบครัน และระบบความปลอดภัยเหนือกว่า ยังเคาะราคากึ่งกลางระหว่างจู๊คทั้งสองรุ่น และยิ่งรุ่นรองท็อปอุปกรณ์ค่อนข้างใกล้เคียงกับรุ่นท็อป จึงเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจในราคาเพียง 759,000 บาท

ทีนี้เหลือเพียงเรื่องรูปลักษณ์ที่เป็นความชอบของแต่ละบุคคล ภาพลักษณ์ของแบรนด์ ระบบบริการหลังการขาย เครื่องยนต์และสมรรถนะการขับขี่ ซึ่งขอย้ำตรงนี้ก่อนตัดสินใจซื้อให้ไปลองขับก่อนทั้งสองรุ่น และจากนั้นนำทั้งหมดมาพิจารณาให้รอบด้าน… ว่าจะเลือกถอยคันไหน?


กำลังโหลดความคิดเห็น