เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ผู้เขียนมีโอกาสไปลองขับ “นิสสัน เทียน่า ใหม่” ถึงสหรัฐอเมริกา ซึ่งครานั้นเป็นประสบการสั้นๆ กับ “เทียน่า เวอร์ชันจีน” (ส่งมาให้ทดสอบในงาน “นิสสัน 360” โดยเฉพาะ) ล่าสุด นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย จัดทริปทดสอบให้กับผู้สื่อข่าว บนเส้นทางที่สวยสดคดเคี้ยวในจังหวัดตรัง….
...น่าสนใจว่า รถธงคันนี้มีดีกว่าคู่แข่งอย่าง คัมรี่ และแอคคอร์ด หรือไม่?
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237401.JPEG)
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237402.JPEG)
นิสสันเปิดตัว “เทียน่า ใหม่” รหัส L33 (เปลี่ยนจากรหัส J) เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยแบ่งการทำตลาดเป็น 5 รุ่นย่อย สองทางเลือกเครื่องยนต์ คือ MR20DE ขนาด 2.0 ลิตร บล็อกเดิม กับ QR25DE ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ ซึ่งมาแทนรหัส VQ25DE แบบ 6 สูบเดิม
สำหรับ “เทียน่า ใหม่” ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 3 หลายท่านเห็นภาพทางอินเทอร์เน็ต หรือเห็นรูปแต่ไม่เห็นคันจริง อาจจะมองว่าคล้ายซิลฟี หรือคิดว่าไม่โดดเด่นแตกต่างจากรุ่นเก่า ซึ่งผู้เขียนก็เคยคิดทำนองนี้ครับ แต่เมื่อได้เห็นรถคันจริงพร้อมได้ลองขับสัมผัสนั่ง วิ่งตามๆ กันไปบนท้องถนน ต้องบอกว่าเทียน่า สวยเฉียบกว่าในรูป
แม้รูปลักษณ์การออกแบบจะคล้ายกับคอมแพกต์คาร์รุ่นน้อง แต่ถ้าพิจารณาในรายละเอียดแล้ว เทียน่ามีมิติที่ลึก และหรูหรากว่า ตัวถังจริงๆ ใหญ่พอสมควร และใหญ่กว่าเทียน่ารุ่นเดิมด้วยความยาว 4,875 มม. (เพิ่มจากรุ่นเดิม 25 มม.) กว้าง 1,830 มม. (เพิ่ม 35 มม.) สูง 1,490 มม.(เพิ่ม 5 มม.) ส่วนระยะฐานล้อเท่าเดิม 2,775 มม.
กระจังหน้าโครเมียมนูนเด่นแบบ 3 มิติ ไฟหน้าใช้ซีนอนพร้อมโปรเจกเตอร์เลนส์ ส่วนไฟเลี้ยวและไฟท้ายใช้หลอด LED ด้านบนมีหลังคาซันรูฟ (เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร) ขณะที่เสาเอ-พิลลาร์ลาดเอียง สอดคล้องกับเสาซี-พิลลาร์ ส่งให้รถดูปราดเปรียว ออกแบบลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งเทียน่า ใหม่ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง0.29 เท่านั้น (เท่ากับซิลฟี)
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237403.JPEG)
โดยนิสสันพยายามออกแบบให้ตัวถังลดแรงปะทะจากลม พร้อมเพิ่มวัสดุซับเสียงในหลายๆ จุด จนกล้าพูดว่าภายในห้องโดยสารของเทียน่า ใหม่ เงียบที่สุดในคลาสเดียวกัน และดีกว่าเทียน่าที่ทำตลาดในจีน หรืออัลติมาที่ขายในอเมริกาเสียอีก
นอกจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างวิศวกรรมแล้ว นิสสันยังเพิ่มออปชันอัจฉริยะ (ระบบไฟฟ้า) เพื่อเป็นจุดขายใหม่อีกหลายประการ ไล่ตั้งแต่ กล้องมองภาพรอบทิศทาง ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นวัตถุรอบตัวรถได้สะดวก ด้วยการฝังกล้องรวม 4 ตัวไว้บริเวณกระจังหน้า กระจกมองข้างซ้าย-ขวา และฝากระโปรงหลัง
ตลอดจนระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ITS อันประกอบด้วย ระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถในช่องทาง (Lane Departure Warning : LDW) ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนไหวในทิศทางที่ออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจขณะที่มีความเร็วสูงกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) แจ้งเตือนว่ามีวัตถุอยู่ในจุดอับสายตาทั้งด้านซ้ายและขวาของผู้ขับขี่ เมื่อต้องการเปลี่ยนช่องทางขณะที่มีความเร็วสูงกว่า 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง และระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบรถ (Moving Object Detection : MOD) แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบวัตถุเคลื่อนที่รอบคันรถ ซึ่งออปชันเหล่านี้มีให้ตั้งแต่รุ่น 2.0 XL ไปจนถึง 2.5XV Navi (รุ่นล่างสุด 2.0 XE ไม่มีเพียงรุ่นเดียว)
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237404.JPEG)
นิสสัน เทียน่า ยังดูคุ้มค่าด้วยการให้ระบบความปลอดภัยมาเป็นมาตรฐานครบทุกรุ่น ทั้งระบบช่วยควบคุมทิศทางขณะเลี้ยว (Active Trace Control: ATC) ช่วยให้เข้าโค้งได้เฉียบคม ป้องกันอาการหน้าดื้อโค้ง โดยระบบ ATC จะส่งแรงเบรกไปชะลอ 2 ล้อด้านในที่หักเลี้ยว เพื่อช่วยรักษาทิศทางของตัวรถให้เคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamics Control: VDC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System : TCS) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist : HSA) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) พร้อมถุงลม 6 จุด ถุงลมคู่หน้า (SRS Airbags) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และม่านถุงลมด้านข้าง (Curtain Airbags) และกล้องมองหลัง
…ย้ำว่าทั้งหมดนี้ติดมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่ราคา 1.27-1.62 ล้านบาทนะครับ
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237405.JPEG)
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237406.JPEG)
ในการทดสอบเทียน่า ใหม่ ที่จังหวัดตรัง ผู้เขียนได้ลองรุ่น 2.5XV ไม่มีเนวิเกเตอร์ ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร (แต่สลับขับกับผู้สื่อข่าวอีกหนึ่งท่าน) ซึ่งทีมงานนิสสันเขาก็ฉลาดเลือกเส้นทางครับ โดยหาถนนดีไม่มีขุรขระ ลาดยางเรียบๆ เพื่อย้ำให้รู้สึกถึงความเงียบภายในห้องโดยสาร
ถ้าเทียบเรื่องการเก็บเสียงรบกวน และความนิ่งเงียบภายในห้องโดยสาร ต้องยอมรับว่าเทียน่าทำการบ้านมาดีจริง ไม่แพ้คู่แข่งอย่าง คัมรี่ และแอคคอร์ด หรืออาจจะเหนือกว่านิดๆ ด้วยซ้ำ พวกเสียงลมปะทะ และเสียงรบกวนจากภายนอกเวลาขับผ่านชุมชนเล็ดลอดเข้ามาภายในห้องโดยสารน้อย หรือใช้ความเร็วสูงอาจจะมีเสียงเครื่องยนต์ และเสียงยางมิชลิน ไพรมาซี แอลซี ขนาด 215/55R17 ดังเข้ามานิดหน่อย แต่กระนั้นหากคุณเปิดเครื่องเสียง BOSE ที่มาพร้อมลำโพง 9 ตัว (มีในรุ่น 2.5XV แต่ถ้าเป็นรุ่นอื่นจะไม่ใช่ BOSE และมีลำโพงเพียง 6 ตัว) ขับเสียงได้ใส พร้อมเก็บเสียงเครื่องดนตรีแทบทุกตัวให้ได้ยินชัดๆ ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ในการเดินทาง ฟังแล้วแทบจะไม่สนใจเสียงรบกวนอื่นๆ ละครับ
ขณะที่ปุ่มควบคุมการทำงานต่างๆ ของตัวรถ จัดวางเป็นระเบียบและใช้งานง่าย พร้อมพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน ฝังปุ่มควบคุมเครื่องเสียง โทรศัพท์ ครูสคอนโทรล และเมนูแสดงผลต่างๆ ของรถ
ด้านเบาะนั่งคู่หน้า เหมือนจะบางลงแต่โครงสร้างก็พอเหมาะ รองรับสรีระได้กระชับ พร้อมปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง เสริมด้วยระบบดันหลัง (Lumbar Support) ขณะที่เบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง นั่งสบายระดับหนึ่ง ระยะห่างช่วงขากับเบาะหน้า (Leg room) เหลือเฟือ ส่วนระยะหัวกับเพดาน (Head room) อาจจะเหลือน้อยไปนิด
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237407.JPEG)
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237408.JPEG)
ลักษณะการนั่งด้านหลัง พร้อมออปชันอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง (มีแค่ช่องแอร์หลัง) ผู้เขียนว่าเทียน่ายังไม่ถึงกับโดนใจ หรือโดดเด่นไปจากคู่แข่งนัก ขณะที่การรองรับโดยรวมของช่วงล่างนุ่มนวลพอสมควร แต่ถ้าให้คะแนนในจุดนี้ ผู้เขียนชอบโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด ที่นั่งสบายมากที่สุด
ขณะเดียวกัน ด้วยการออกแบบใหม่ให้ตัวถัวลู่ลม เสาซี-พิลลาร์ลาดเอียง ทีมที่ดูแลโปรดักต์ของนิสสันบอกว่า ส่งผลให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีปริมาตร (ลิตร) ลดลงจากรุ่นเดิมเล็กน้อย แต่ยังบรรจุถุงกอล์ฟได้ถึง 4 ใบสบายๆ
ในส่วนของสมรรถนะจากเครื่องยนต์ QR25DE ขนาด 2.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Twin CVTC ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที (เดิม VQ 6 สูบ 2.5 ลิตร 182 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 234 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที น้ำหนักของเครื่องยนต์นั้นเบากว่าบล็อกเดิม 30 กิโลกรัม และนิสสันยังเคลมว่าประหยัดน้ำมันกว่าเดิม 27% หรือแจงตัวเลขว่ารุ่นใหม่มีอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 13.3 กม./ลิตร ขณะที่รุ่นเก่าเครื่องยนต์ วี6 ทำได้ 10.5 กม./ลิตร
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237409.JPEG)
นอกจากนี้ นิสสันยังพัฒนาระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นขยายความกว้างของอัตราทดเกียร์เพิ่มขึ้น 17% พร้อมออกแบบให้ลดแรงเสียดทานของระบบเกียร์ลง 40% รวมถึงลดขนาดของปั๊มน้ำมันเกียร์ และลดระดับน้ำมันเกียร์ในระบบ
การขับขี่จริง เครื่องยนต์ผสานการทำงานกับเกียร์ชุดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผ่านกำลังสู่ล้อคู่หน้าได้ต่อเนื่อง จังหวะออกตัวกระฉับกระเฉง น้ำหนักของคันเร่งกำลังดี กดไปนิดรอบเครื่องยนต์วาดขึ้นไป3,000-4,000 ส่งให้รถเคลื่อนตัวไปแบบนิ่มๆ บุคลิกของเทียน่าใหม่ ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ออกแนวขับเพลิน พละกำลังและความแรงจัดให้ตามแรงกดของเท้าขวา จังหวะเร่งแซง ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง วิ่งใช้ความเร็ว 120-140 กม./ชม. ยังควบคุมได้มั่นใจ
เรื่องของเกียร์แม้จะไม่มีแพดเดิลชิฟต์ หรือระบบเล่นเปลี่ยนเกียร์แบบเกียร์ธรรมดาได้ แต่นิสสันมีโหมดสปอร์ต และโหมด Ds ให้เลือกตามความชอบ อย่างโหมดสปอร์ต หรือ OD OFF ที่รู้จักกันดี มีปุ่มกดบริเวณหัวเกียร์ โดยโหมดนี้จะเลือกใช้เกียร์ต่ำกว่าปกติ (ในโหมดเกียร์ D) รอบเครื่องยนต์รออยู่แถว 3,000-4,000 รอบ เพื่อการตอบสนองที่ทันใจ ส่วนโหมด DS นั้นซับซ้อนขึ้นมาอีกนิด โดยผู้ขับจะต้องผลักคันเกียร์ลงมาให้สุด ซึ่งโหมดนี้จะท้าทายบุคลิกของเกียร์ CVT ครับ
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237410.JPEG)
โดยปกติเกียร์ CVT หรือเกียร์แบบสายพาน อัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หากเรากดคันเร่งแช่ (แม้จะแตะเบาๆ) แต่ถ้าไม่ผ่อนเบาคันเร่ง รอบก็จะดีดขึ้นไปเรื่อยละครับ ส่วนเกียร์ในโหมด Ds จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงบุคลิกดังกล่าว ซึ่งการเหยียบคันเร่งในลักษณะเดียวกัน เกียร์จะมีการชิฟต์เปลี่ยนเหมือนเกียร์อัตโนมัติทั่วไป (แบบเฟืองและทอร์คคอนเวอร์เตอร์) รอบจะไม่ลากไปยาวๆ ให้น่ารำคาญ ที่สำคัญยังช่วยให้การขับขี่สนุกสนาน ยกตัวอย่างในจังหวะเข้าโค้ง-ออกโค้ง กล่าวคือ กรณีขับมาเร็วๆ เตรียมเข้าโค้ง หากคนขับแตะเบรก ความเร็วลดลง แต่รอบเครื่องยนต์จะไม่ตกครับ และอาจจะค้างอยู่แถวๆ 3,000-4,000 รอบ เพื่อจังหวะเร่งส่ง (ออกโค้ง) จะทำได้รวดเร็วทันที
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงความสนุกขับมัน แต่เทียน่า ใหม่ ยังมีระบบ “อีโค” (Eco) ตามสมัยนิยม ด้วยการเลือกใช้ตำแหน่งเกียร์ และลดการตอบสนองของเครื่องยนต์ ตลอดจนควบคุมระบบแอร์ไม่ให้ทำงานหนัก หวังให้รถประหยัดน้ำมันสูงสุด
ด้านช่วงล่างและการควบคุมของเทียน่าใหม่ทำได้ยอดเยี่ยมครับ แม้ตัวรถจะยาวเกือบๆ 5 เมตร แต่ยังขับขี่คล่องแคล่ว อย่างพวงมาลัยนั้นเป็นแร็กแอนด์พิเนียน แบบ HEPS – Hydraulic Electric Power Steering System ซึ่งจะใช้ทั้งปั๊มไฮดรอลิก และมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยกันควบคุมผ่อนแรง
พวงมาลัยของเทียน่า ใหม่ ควบคุมมันมือ มั่นใจ จังหวะเลี้ยวหนึบหนับ พร้อมให้ความแม่นยำตามการสั่งงานซ้ายขวา ซึ่งผู้เขียนชอบมากกว่าพวงมาลัยไฟฟ้าของคัมรี่ และแอคคอร์ดครับ
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237411.JPEG)
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237412.JPEG)
สำหรับช่วงล่างหน้า แม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง พัฒนาใหม่ทั้งในส่วนของแขนโครงสร้าง และจุดยึดต่างๆ ในตำแหน่งผู้ขับ ช่วงล่างเกาะถนนแน่น การเข้าออกโค้งทำได้เนียนๆ แต่การนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลังจะรู้สึกสะเทือนกว่า ส่วนเบรกที่เป็นดิสก์ทั้งสี่ล้อ ทำหน้าที่ได้อย่างนุ่มนวล เซตน้ำหนักและระยะกดของแป้นเบรกสัมพันธ์กับจังหวะจับและระยะเบรกได้อย่างสุดยอด
ปิดท้ายด้วยอัตราบริโภคน้ำมันที่ผู้เขียนทำได้ในทริปนี้ โดยใช้ความเร็วหลากหลาย 100-140 กม./ชม. สลับจังหวะรถติด และการเร่งความเร็วแบบโหดๆ พร้อมลองเปลี่ยนโหมดเกียร์เป็นแบบสปอร์ต (OD OFF) และใช้ Ds บ่อยครั้ง (เพราะเป็นโหมดที่ขับสนุก) หน้าจอยังแสดงตัวเลข 9-10 กม./ลิตร
![](https://mpics.mgronline.com/pics/Images/556000014237413.JPEG)
รวบรัดตัดความ... “เทียน่า ใหม่” เป็นรถธงที่นิสสันภูมิใจ เพราะอะไรดีๆ มักถูกใส่มาในรถคันนี้ ออปชันอัจฉริยะและระบบความปลอดภัยพื้นฐานจัดเต็มมาตั้งแต่รุ่นล่าง นับว่าให้ความคุ้มค่าสูง ด้านสมรรถนะการขับขี่ดูหนุ่มขึ้น คล่องแคล่ว และสปอร์ตกว่ารุ่นเดิมที่บุคลิกเนิบเนียน (ส่วนหนึ่งคงเป็นการทำงานของเกียร์) ถ้าเทียบกับแอคคอร์ดที่เป็นรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ในภาพรวมผู้เขียนเอียงความชอบไปทางเทียน่า เว้นเสียแต่การนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง อาจจะยังไม่เนียนเหนือคู่แข่งอย่างคัมรี่ ไฮบริด และแอคคอร์ด
...ซื้อใช้ไปเหมือนจะเอาใจคนขับมากกว่าคนนั่งด้านหลัง
...น่าสนใจว่า รถธงคันนี้มีดีกว่าคู่แข่งอย่าง คัมรี่ และแอคคอร์ด หรือไม่?
นิสสันเปิดตัว “เทียน่า ใหม่” รหัส L33 (เปลี่ยนจากรหัส J) เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยแบ่งการทำตลาดเป็น 5 รุ่นย่อย สองทางเลือกเครื่องยนต์ คือ MR20DE ขนาด 2.0 ลิตร บล็อกเดิม กับ QR25DE ขนาด 2.5 ลิตร 4 สูบ ซึ่งมาแทนรหัส VQ25DE แบบ 6 สูบเดิม
สำหรับ “เทียน่า ใหม่” ซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่ 3 หลายท่านเห็นภาพทางอินเทอร์เน็ต หรือเห็นรูปแต่ไม่เห็นคันจริง อาจจะมองว่าคล้ายซิลฟี หรือคิดว่าไม่โดดเด่นแตกต่างจากรุ่นเก่า ซึ่งผู้เขียนก็เคยคิดทำนองนี้ครับ แต่เมื่อได้เห็นรถคันจริงพร้อมได้ลองขับสัมผัสนั่ง วิ่งตามๆ กันไปบนท้องถนน ต้องบอกว่าเทียน่า สวยเฉียบกว่าในรูป
แม้รูปลักษณ์การออกแบบจะคล้ายกับคอมแพกต์คาร์รุ่นน้อง แต่ถ้าพิจารณาในรายละเอียดแล้ว เทียน่ามีมิติที่ลึก และหรูหรากว่า ตัวถังจริงๆ ใหญ่พอสมควร และใหญ่กว่าเทียน่ารุ่นเดิมด้วยความยาว 4,875 มม. (เพิ่มจากรุ่นเดิม 25 มม.) กว้าง 1,830 มม. (เพิ่ม 35 มม.) สูง 1,490 มม.(เพิ่ม 5 มม.) ส่วนระยะฐานล้อเท่าเดิม 2,775 มม.
กระจังหน้าโครเมียมนูนเด่นแบบ 3 มิติ ไฟหน้าใช้ซีนอนพร้อมโปรเจกเตอร์เลนส์ ส่วนไฟเลี้ยวและไฟท้ายใช้หลอด LED ด้านบนมีหลังคาซันรูฟ (เฉพาะรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร) ขณะที่เสาเอ-พิลลาร์ลาดเอียง สอดคล้องกับเสาซี-พิลลาร์ ส่งให้รถดูปราดเปรียว ออกแบบลู่ลมตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งเทียน่า ใหม่ มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเพียง0.29 เท่านั้น (เท่ากับซิลฟี)
โดยนิสสันพยายามออกแบบให้ตัวถังลดแรงปะทะจากลม พร้อมเพิ่มวัสดุซับเสียงในหลายๆ จุด จนกล้าพูดว่าภายในห้องโดยสารของเทียน่า ใหม่ เงียบที่สุดในคลาสเดียวกัน และดีกว่าเทียน่าที่ทำตลาดในจีน หรืออัลติมาที่ขายในอเมริกาเสียอีก
นอกจากการเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้างวิศวกรรมแล้ว นิสสันยังเพิ่มออปชันอัจฉริยะ (ระบบไฟฟ้า) เพื่อเป็นจุดขายใหม่อีกหลายประการ ไล่ตั้งแต่ กล้องมองภาพรอบทิศทาง ช่วยให้ผู้ขับขี่มองเห็นวัตถุรอบตัวรถได้สะดวก ด้วยการฝังกล้องรวม 4 ตัวไว้บริเวณกระจังหน้า กระจกมองข้างซ้าย-ขวา และฝากระโปรงหลัง
ตลอดจนระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ ITS อันประกอบด้วย ระบบเตือนให้รักษาตำแหน่งรถในช่องทาง (Lane Departure Warning : LDW) ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนไหวในทิศทางที่ออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจขณะที่มีความเร็วสูงกว่า 70 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ระบบเตือนจุดอับสายตา (Blind Spot Warning: BSW) แจ้งเตือนว่ามีวัตถุอยู่ในจุดอับสายตาทั้งด้านซ้ายและขวาของผู้ขับขี่ เมื่อต้องการเปลี่ยนช่องทางขณะที่มีความเร็วสูงกว่า 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง และระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบรถ (Moving Object Detection : MOD) แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบวัตถุเคลื่อนที่รอบคันรถ ซึ่งออปชันเหล่านี้มีให้ตั้งแต่รุ่น 2.0 XL ไปจนถึง 2.5XV Navi (รุ่นล่างสุด 2.0 XE ไม่มีเพียงรุ่นเดียว)
นิสสัน เทียน่า ยังดูคุ้มค่าด้วยการให้ระบบความปลอดภัยมาเป็นมาตรฐานครบทุกรุ่น ทั้งระบบช่วยควบคุมทิศทางขณะเลี้ยว (Active Trace Control: ATC) ช่วยให้เข้าโค้งได้เฉียบคม ป้องกันอาการหน้าดื้อโค้ง โดยระบบ ATC จะส่งแรงเบรกไปชะลอ 2 ล้อด้านในที่หักเลี้ยว เพื่อช่วยรักษาทิศทางของตัวรถให้เคลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัวอัตโนมัติ (Vehicle Dynamics Control: VDC) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (Traction Control System : TCS) ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist : HSA) ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ระบบเสริมแรงเบรก (BA) พร้อมถุงลม 6 จุด ถุงลมคู่หน้า (SRS Airbags) ถุงลมด้านข้าง (Side Airbags) และม่านถุงลมด้านข้าง (Curtain Airbags) และกล้องมองหลัง
…ย้ำว่าทั้งหมดนี้ติดมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่ราคา 1.27-1.62 ล้านบาทนะครับ
ในการทดสอบเทียน่า ใหม่ ที่จังหวัดตรัง ผู้เขียนได้ลองรุ่น 2.5XV ไม่มีเนวิเกเตอร์ ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร (แต่สลับขับกับผู้สื่อข่าวอีกหนึ่งท่าน) ซึ่งทีมงานนิสสันเขาก็ฉลาดเลือกเส้นทางครับ โดยหาถนนดีไม่มีขุรขระ ลาดยางเรียบๆ เพื่อย้ำให้รู้สึกถึงความเงียบภายในห้องโดยสาร
ถ้าเทียบเรื่องการเก็บเสียงรบกวน และความนิ่งเงียบภายในห้องโดยสาร ต้องยอมรับว่าเทียน่าทำการบ้านมาดีจริง ไม่แพ้คู่แข่งอย่าง คัมรี่ และแอคคอร์ด หรืออาจจะเหนือกว่านิดๆ ด้วยซ้ำ พวกเสียงลมปะทะ และเสียงรบกวนจากภายนอกเวลาขับผ่านชุมชนเล็ดลอดเข้ามาภายในห้องโดยสารน้อย หรือใช้ความเร็วสูงอาจจะมีเสียงเครื่องยนต์ และเสียงยางมิชลิน ไพรมาซี แอลซี ขนาด 215/55R17 ดังเข้ามานิดหน่อย แต่กระนั้นหากคุณเปิดเครื่องเสียง BOSE ที่มาพร้อมลำโพง 9 ตัว (มีในรุ่น 2.5XV แต่ถ้าเป็นรุ่นอื่นจะไม่ใช่ BOSE และมีลำโพงเพียง 6 ตัว) ขับเสียงได้ใส พร้อมเก็บเสียงเครื่องดนตรีแทบทุกตัวให้ได้ยินชัดๆ ช่วยเพิ่มความสุนทรีย์ในการเดินทาง ฟังแล้วแทบจะไม่สนใจเสียงรบกวนอื่นๆ ละครับ
ขณะที่ปุ่มควบคุมการทำงานต่างๆ ของตัวรถ จัดวางเป็นระเบียบและใช้งานง่าย พร้อมพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน ฝังปุ่มควบคุมเครื่องเสียง โทรศัพท์ ครูสคอนโทรล และเมนูแสดงผลต่างๆ ของรถ
ด้านเบาะนั่งคู่หน้า เหมือนจะบางลงแต่โครงสร้างก็พอเหมาะ รองรับสรีระได้กระชับ พร้อมปรับระดับด้วยระบบไฟฟ้า 8 ทิศทาง เสริมด้วยระบบดันหลัง (Lumbar Support) ขณะที่เบาะนั่งสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง นั่งสบายระดับหนึ่ง ระยะห่างช่วงขากับเบาะหน้า (Leg room) เหลือเฟือ ส่วนระยะหัวกับเพดาน (Head room) อาจจะเหลือน้อยไปนิด
ลักษณะการนั่งด้านหลัง พร้อมออปชันอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง (มีแค่ช่องแอร์หลัง) ผู้เขียนว่าเทียน่ายังไม่ถึงกับโดนใจ หรือโดดเด่นไปจากคู่แข่งนัก ขณะที่การรองรับโดยรวมของช่วงล่างนุ่มนวลพอสมควร แต่ถ้าให้คะแนนในจุดนี้ ผู้เขียนชอบโตโยต้า คัมรี่ ไฮบริด ที่นั่งสบายมากที่สุด
ขณะเดียวกัน ด้วยการออกแบบใหม่ให้ตัวถัวลู่ลม เสาซี-พิลลาร์ลาดเอียง ทีมที่ดูแลโปรดักต์ของนิสสันบอกว่า ส่งผลให้พื้นที่เก็บสัมภาระด้านท้ายมีปริมาตร (ลิตร) ลดลงจากรุ่นเดิมเล็กน้อย แต่ยังบรรจุถุงกอล์ฟได้ถึง 4 ใบสบายๆ
ในส่วนของสมรรถนะจากเครื่องยนต์ QR25DE ขนาด 2.5 ลิตร DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว Twin CVTC ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที (เดิม VQ 6 สูบ 2.5 ลิตร 182 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 234 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที น้ำหนักของเครื่องยนต์นั้นเบากว่าบล็อกเดิม 30 กิโลกรัม และนิสสันยังเคลมว่าประหยัดน้ำมันกว่าเดิม 27% หรือแจงตัวเลขว่ารุ่นใหม่มีอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย 13.3 กม./ลิตร ขณะที่รุ่นเก่าเครื่องยนต์ วี6 ทำได้ 10.5 กม./ลิตร
นอกจากนี้ นิสสันยังพัฒนาระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ XTRONIC CVT ใหม่ ไม่ว่าจะเป็นขยายความกว้างของอัตราทดเกียร์เพิ่มขึ้น 17% พร้อมออกแบบให้ลดแรงเสียดทานของระบบเกียร์ลง 40% รวมถึงลดขนาดของปั๊มน้ำมันเกียร์ และลดระดับน้ำมันเกียร์ในระบบ
การขับขี่จริง เครื่องยนต์ผสานการทำงานกับเกียร์ชุดนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผ่านกำลังสู่ล้อคู่หน้าได้ต่อเนื่อง จังหวะออกตัวกระฉับกระเฉง น้ำหนักของคันเร่งกำลังดี กดไปนิดรอบเครื่องยนต์วาดขึ้นไป3,000-4,000 ส่งให้รถเคลื่อนตัวไปแบบนิ่มๆ บุคลิกของเทียน่าใหม่ ในรุ่นเครื่องยนต์ 2.5 ลิตร ออกแนวขับเพลิน พละกำลังและความแรงจัดให้ตามแรงกดของเท้าขวา จังหวะเร่งแซง ไม่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง วิ่งใช้ความเร็ว 120-140 กม./ชม. ยังควบคุมได้มั่นใจ
เรื่องของเกียร์แม้จะไม่มีแพดเดิลชิฟต์ หรือระบบเล่นเปลี่ยนเกียร์แบบเกียร์ธรรมดาได้ แต่นิสสันมีโหมดสปอร์ต และโหมด Ds ให้เลือกตามความชอบ อย่างโหมดสปอร์ต หรือ OD OFF ที่รู้จักกันดี มีปุ่มกดบริเวณหัวเกียร์ โดยโหมดนี้จะเลือกใช้เกียร์ต่ำกว่าปกติ (ในโหมดเกียร์ D) รอบเครื่องยนต์รออยู่แถว 3,000-4,000 รอบ เพื่อการตอบสนองที่ทันใจ ส่วนโหมด DS นั้นซับซ้อนขึ้นมาอีกนิด โดยผู้ขับจะต้องผลักคันเกียร์ลงมาให้สุด ซึ่งโหมดนี้จะท้าทายบุคลิกของเกียร์ CVT ครับ
โดยปกติเกียร์ CVT หรือเกียร์แบบสายพาน อัตราทดแปรผันต่อเนื่อง หากเรากดคันเร่งแช่ (แม้จะแตะเบาๆ) แต่ถ้าไม่ผ่อนเบาคันเร่ง รอบก็จะดีดขึ้นไปเรื่อยละครับ ส่วนเกียร์ในโหมด Ds จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงบุคลิกดังกล่าว ซึ่งการเหยียบคันเร่งในลักษณะเดียวกัน เกียร์จะมีการชิฟต์เปลี่ยนเหมือนเกียร์อัตโนมัติทั่วไป (แบบเฟืองและทอร์คคอนเวอร์เตอร์) รอบจะไม่ลากไปยาวๆ ให้น่ารำคาญ ที่สำคัญยังช่วยให้การขับขี่สนุกสนาน ยกตัวอย่างในจังหวะเข้าโค้ง-ออกโค้ง กล่าวคือ กรณีขับมาเร็วๆ เตรียมเข้าโค้ง หากคนขับแตะเบรก ความเร็วลดลง แต่รอบเครื่องยนต์จะไม่ตกครับ และอาจจะค้างอยู่แถวๆ 3,000-4,000 รอบ เพื่อจังหวะเร่งส่ง (ออกโค้ง) จะทำได้รวดเร็วทันที
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงความสนุกขับมัน แต่เทียน่า ใหม่ ยังมีระบบ “อีโค” (Eco) ตามสมัยนิยม ด้วยการเลือกใช้ตำแหน่งเกียร์ และลดการตอบสนองของเครื่องยนต์ ตลอดจนควบคุมระบบแอร์ไม่ให้ทำงานหนัก หวังให้รถประหยัดน้ำมันสูงสุด
ด้านช่วงล่างและการควบคุมของเทียน่าใหม่ทำได้ยอดเยี่ยมครับ แม้ตัวรถจะยาวเกือบๆ 5 เมตร แต่ยังขับขี่คล่องแคล่ว อย่างพวงมาลัยนั้นเป็นแร็กแอนด์พิเนียน แบบ HEPS – Hydraulic Electric Power Steering System ซึ่งจะใช้ทั้งปั๊มไฮดรอลิก และมอเตอร์ไฟฟ้า ช่วยกันควบคุมผ่อนแรง
พวงมาลัยของเทียน่า ใหม่ ควบคุมมันมือ มั่นใจ จังหวะเลี้ยวหนึบหนับ พร้อมให้ความแม่นยำตามการสั่งงานซ้ายขวา ซึ่งผู้เขียนชอบมากกว่าพวงมาลัยไฟฟ้าของคัมรี่ และแอคคอร์ดครับ
สำหรับช่วงล่างหน้า แม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง และมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง พัฒนาใหม่ทั้งในส่วนของแขนโครงสร้าง และจุดยึดต่างๆ ในตำแหน่งผู้ขับ ช่วงล่างเกาะถนนแน่น การเข้าออกโค้งทำได้เนียนๆ แต่การนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลังจะรู้สึกสะเทือนกว่า ส่วนเบรกที่เป็นดิสก์ทั้งสี่ล้อ ทำหน้าที่ได้อย่างนุ่มนวล เซตน้ำหนักและระยะกดของแป้นเบรกสัมพันธ์กับจังหวะจับและระยะเบรกได้อย่างสุดยอด
ปิดท้ายด้วยอัตราบริโภคน้ำมันที่ผู้เขียนทำได้ในทริปนี้ โดยใช้ความเร็วหลากหลาย 100-140 กม./ชม. สลับจังหวะรถติด และการเร่งความเร็วแบบโหดๆ พร้อมลองเปลี่ยนโหมดเกียร์เป็นแบบสปอร์ต (OD OFF) และใช้ Ds บ่อยครั้ง (เพราะเป็นโหมดที่ขับสนุก) หน้าจอยังแสดงตัวเลข 9-10 กม./ลิตร
รุ่นย่อย | ราคา(บาท) |
2.0 XE | 1,270,000 |
2.0 XL | 1,330,000 |
2.0 XL Navi | 1,380,000 |
2.5 XV | 1,570,000 |
2.5 XV Navi | 1,620,000 |
รวบรัดตัดความ... “เทียน่า ใหม่” เป็นรถธงที่นิสสันภูมิใจ เพราะอะไรดีๆ มักถูกใส่มาในรถคันนี้ ออปชันอัจฉริยะและระบบความปลอดภัยพื้นฐานจัดเต็มมาตั้งแต่รุ่นล่าง นับว่าให้ความคุ้มค่าสูง ด้านสมรรถนะการขับขี่ดูหนุ่มขึ้น คล่องแคล่ว และสปอร์ตกว่ารุ่นเดิมที่บุคลิกเนิบเนียน (ส่วนหนึ่งคงเป็นการทำงานของเกียร์) ถ้าเทียบกับแอคคอร์ดที่เป็นรุ่นเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ในภาพรวมผู้เขียนเอียงความชอบไปทางเทียน่า เว้นเสียแต่การนั่งเป็นผู้โดยสารด้านหลัง อาจจะยังไม่เนียนเหนือคู่แข่งอย่างคัมรี่ ไฮบริด และแอคคอร์ด
...ซื้อใช้ไปเหมือนจะเอาใจคนขับมากกว่าคนนั่งด้านหลัง