ในเมืองไทยกระบะเล็ก “ซูซูกิ แครี่” (Suzuki Carry) ถือว่าเป็นเจ้าตลาด ขณะที่ในประเทศญี่ปุ่นจะมีความแตกต่างกับไทย ทั้งเรื่องรูปลักษณ์และเครื่องยนต์(คนละตัว) โดยล่าสุดซูซูกิ มอเตอร์ ได้มีการปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบ 14 ปี จากการเปิดตัวเจนเนอเรชั่นใหม่สู่ตลาด เพื่อวางขายอย่างเป็นทางการในญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 20 ก.ย.นี้เป็นต้นไป ราคา 665,000 - 1,135,050 เยน (ประมาณ 218,000 - 372,000 บาท)
ทั้งนี้จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงจากซูซูกิ แครี่ รุ่นเดิมอย่างชัดเจน กับด้านหน้าที่ออกแบบตะแกรงช่องกว้าง และขนาดใหญ่ กระจังหน้าจะเป็นแถบใหญ่ 2 ชั้นสีดำ ช่องห่างกว้างรับอากาศ มาพร้อมกับกรอบไฟหน้าใหม่ ที่ไฟเป็นแบบฮาโลเจน และยังมากับไฟตัดหมอกในรุ่นบนๆ ภายในห้องโดยสารมีความสูงกว้าง จึงโปร่งและนั่งสบาย โดยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะแอร์ปรับอากาศ พวงมาลัยพาวเวอร์ และชุดเครื่องเสียง ที่จะมีให้ครบในรุ่นท็อป รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้า และเบรก ABS
กระบะท้ายมีความยาวภายในถึง 2,030 มม. ซึ่งจะแตกต่างกันในเรื่องความกว้าง และความสูงภายในของกระบะ 2 แบบให้เลือก สามารถบรรทุกได้สูงสุด 350 กก. โดยในส่วนของภาพรวมมิติตัวถังทั้งหมด ความยาว 3,395 มม. ความกว้าง1,475 มม. ความสูง 1,765 มม. และระยะฐานล้อ 1,905 มม. น้ำหนักรถรวม 680-740 กก.แล้วแต่รุ่น
ส่วนของเครื่องยนต์ ซูซูกิ แครี ที่ทำตลาดในญี่ปุ่น วางบล็อก R60A เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 660 ซีซี 50 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 63 นิวตัน-เมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังมีให้เลือกเป็นแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ 3 จังหวะ มีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยทำอัตราสิ้นเปลืองเชื่อเพลิงต่ำสุด 16.6-18.6 กม./ลิตร(แล้วแต่รุ่น) ตามมาตรฐาน JC08
หากเทียบกับซูซูกิ แครี่ ที่ทำตลาดในญี่ปุ่นและประเทศไทย นอกจากจะมีรูปลักษณ์แตกต่างกัน ขนาดตัวถังเวอร์ชันญี่ปุ่นเล็กกว่าชัดเจน เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ที่ในไทย จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 92 แรงม้า ทำให้กระบะแครีของไทย สามารถบรรทุกได้มากกว่า
ที่มา... car.watch.impress.co.jp
ทั้งนี้จะเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงจากซูซูกิ แครี่ รุ่นเดิมอย่างชัดเจน กับด้านหน้าที่ออกแบบตะแกรงช่องกว้าง และขนาดใหญ่ กระจังหน้าจะเป็นแถบใหญ่ 2 ชั้นสีดำ ช่องห่างกว้างรับอากาศ มาพร้อมกับกรอบไฟหน้าใหม่ ที่ไฟเป็นแบบฮาโลเจน และยังมากับไฟตัดหมอกในรุ่นบนๆ ภายในห้องโดยสารมีความสูงกว้าง จึงโปร่งและนั่งสบาย โดยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะแอร์ปรับอากาศ พวงมาลัยพาวเวอร์ และชุดเครื่องเสียง ที่จะมีให้ครบในรุ่นท็อป รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้า และเบรก ABS
กระบะท้ายมีความยาวภายในถึง 2,030 มม. ซึ่งจะแตกต่างกันในเรื่องความกว้าง และความสูงภายในของกระบะ 2 แบบให้เลือก สามารถบรรทุกได้สูงสุด 350 กก. โดยในส่วนของภาพรวมมิติตัวถังทั้งหมด ความยาว 3,395 มม. ความกว้าง1,475 มม. ความสูง 1,765 มม. และระยะฐานล้อ 1,905 มม. น้ำหนักรถรวม 680-740 กก.แล้วแต่รุ่น
ส่วนของเครื่องยนต์ ซูซูกิ แครี ที่ทำตลาดในญี่ปุ่น วางบล็อก R60A เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ DOHC 12 วาล์ว ขนาด 660 ซีซี 50 แรงม้า ที่ 5,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 63 นิวตัน-เมตร ที่ 3,500 รอบต่อนาที ระบบส่งกำลังมีให้เลือกเป็นแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และอัตโนมัติ 3 จังหวะ มีทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อหลัง และรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยทำอัตราสิ้นเปลืองเชื่อเพลิงต่ำสุด 16.6-18.6 กม./ลิตร(แล้วแต่รุ่น) ตามมาตรฐาน JC08
หากเทียบกับซูซูกิ แครี่ ที่ทำตลาดในญี่ปุ่นและประเทศไทย นอกจากจะมีรูปลักษณ์แตกต่างกัน ขนาดตัวถังเวอร์ชันญี่ปุ่นเล็กกว่าชัดเจน เช่นเดียวกับเครื่องยนต์ที่ในไทย จะเป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.6 ลิตร 92 แรงม้า ทำให้กระบะแครีของไทย สามารถบรรทุกได้มากกว่า
ที่มา... car.watch.impress.co.jp
