หลังผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 นับตั้งแต่เดือนมีนาคมของปีถัดมา ค่ายรถ “ฮอนด้า” เหมือนติดพลังเทอร์โบ ออกวิ่งฉิว โดยเฉพาะการเปิดตัวรถใหม่มากสุดถึง 12 รุ่น ภายในระยะเวลา 1 ปี ส่งผลให้ฮอนด้าผงาดขึ้นครองแชมป์ตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋งจนถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าฮอนด้าจะยังไม่หยุดทำตลาดเชิงรุก เดินหน้ากลยุทธ์เปิดตัวยนตรกรรมหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า แม้อาจจะไม่มากเท่ากับช่วงที่ผ่านมา แต่นับจากครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไป ฮอนด้ายังจะมีรถรุ่นใหม่ที่จ่อคิวเตรียมแนะนำสู่ตลาดไทยอีกเพียบ…
หลังผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 นับตั้งแต่เดือนมีนาคมของปีถัดมา ค่ายรถ “ฮอนด้า” เหมือนติดพลังเทอร์โบ ออกวิ่งฉิว โดยเฉพาะการเปิดตัวรถใหม่มากสุดถึง 12 รุ่น ภายในระยะเวลา 1 ปี ส่งผลให้ฮอนด้าผงาดขึ้นครองแชมป์ตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋งจนถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าฮอนด้าจะยังไม่หยุดทำตลาดเชิงรุก เดินหน้ากลยุทธ์เปิดตัวยนตรกรรมหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า แม้อาจจะไม่มากเท่ากับช่วงที่ผ่านมา แต่นับจากครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไป ฮอนด้ายังจะมีรถรุ่นใหม่ที่จ่อคิวเตรียมแนะนำสู่ตลาดไทยอีกเพียบ…
ทั้งนี้จะเห็นว่ารถรุ่นเก่าหรือใหม่ของฮอนด้า ต่างมียอดขายในปริมาณที่สูงมาก แม้แต่ฮอนด้า ซิตี้ เก๋งซับคอมแพ็กต์ซีดานที่ต้องเจอกับคู่ปรับสำคัญ “โตโยต้า วีออส” ที่เพิ่งปรับโฉมใหม่หมดทั้งคัน หรือโมเดลเชนจ์ออกมา ซิตี้ยังสามารถกวาดยอดขายในเดือนมิถุนายนสูงสุด 9,044 คัน และเมื่อรวมตลอด 6 เดือนแรกปีนี้ ทำได้ 53,715 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด หรือแชร์รถกลุ่มนี้ 33.6% และเป็นส่วนสำคัญทำให้ฮอนด้ายังคงครองยอดขายรวมสูงสุด 131,458 คัน ของตลาดเก๋งไทยทุกประเภท
จะว่าไปนับเป็นความสำเร็จอย่างมากของ “ฮอนด้า ซิตี้” เพราะทราบกันดีรถรุ่นนี้ทำตลาดมานาน และนี่เป็นช่วงท้ายของโมเดล โดยเหลือระยะเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือน จะมีการโมเดลเชนจ์รถรุ่นนี้สู่ตลาดไทย ซึ่งตามกระแสข่าวคาดว่าจะอยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แต่ข่าวคราวและความเคลื่อนไหวของฮอนด้า ซิตี้ โฉมใหม่ค่อนข้างเงียบ จนปัจจุบันยังไม่มีรูปภาพหลุดออกมาให้เห็นเลย นอกจากภาพตัดต่อหรือคาดเดากันไปต่างๆ นาๆ
ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะ ฮอนด้า ซิตี้ เป็นรถตลาดเฉพาะบางประเทศเท่านั้น ไม่ใช่รถที่ขายทั่วโลกเหมือนอย่าง ฮอนด้า แจ๊ซ, ซีวิค หรือแอคคอร์ด แม้จะมีกระแสว่าซิตี้โฉมใหม่จะถูกยกระดับ ให้เป็นรถโกลบอลโมเดลมากขึ้นก็ตาม แต่หากดูจากภาพ ฮอนด้า แจ๊ซ โฉมใหม่ ที่หลุดออกมา และเป็นรถใช้พื้นฐานตัวถังร่วมกันกับซิตี้ใหม่ มีบางส่วนที่ได้รับอิทธิพลมาจากรถต้นแบบ ฮอนด้า เอซี-เอ็กซ์ (AC-X) พอสมควร ถึงจะเป็นต้นแบบของรถฮอนด้าที่เป็นปลั๊กอินไฮบริดก็ตาม ยิ่งรถต้นแบบคันนี้เป็นแบบซีดาน จึงมีแนวโน้มสูงที่ ฮอนด้า ซิตี้ จะได้รับอิทธิพลการออกแบบของรถต้นแบบเอซี-เอ็กซ์ก็ได้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ฮอนด้า ซิตี้ โฉมใหม่ จะเป็นทีเด็ดสำคัญถล่ม โตโยต้า วีออส ใหม่ ไม่ให้กลับมาทวงบัลลังก์แชมป์เก๋งซีดานซับคอมแพ็กต์ได้สะดวก หรือซิตี้อาจยึดตำแหน่งแทน เช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบันเลยก็เป็นได้
ต่อจากฮอนด้า ซิตี้ ดาบสองในกลุ่มเก๋งซับคอมแพ็กต์ แน่นอนย่อมต้องเป็น “ฮอนด้า แจ๊ซ” โฉมใหม่ ที่มีภาพภายนอกและภายในหลุดออกมาตามสื่อออนไลน์ต่างๆ แล้ว โดยเฉพาะภาพจากคู่มือขายในญี่ปุ่น หรือที่เรียกชื่อรุ่นในตลาดดังกล่าวว่า ฮอนด้า ฟิต(Fit) นับเป็นสิ่งยืนยันหน้าตาของแจ๊ซ/ฟิตรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี และล่าสุดในเว็บไซต์ของ indianautosblog ได้มีการเปิดเผยภาพชุดใหม่ เป็นภาพที่ชัดเจนของ ฮอนด้า แจ๊ซ ซึ่งไม่ใช่ภาพจากคู่มือขายเหมือนที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ถึงอย่างนั้นในรายงานข่าวได้ระบุที่มาของภาพ vtec.net ซึ่งเป็นภาพที่นำมาจากเว็บของ Best Car Mag's นับเป็นภาพที่เหมือนกับในคู่มือขายมาก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นภาพจริง หรือทำ Rendering (ภาพทำกราฟฟิคเสมือนจริง) จากคู่มือขายกันแน่
โดยตามรายงานข่าวนอกจากเป็นการปรับโฉมใหม่แล้ว ฮอนด้า แจ๊ซ ยังมีจุดเด่นในเรื่องของห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายขึ้น จะเห็นว่าระหว่างเบาะนั่งหน้าและหลังห่างกันเพิ่มขึ้น 115 มม. และช่องว่างตรงหัวเข่าของเบาะนั่งหลังมีพื้นที่เพิ่มขึ้น 65 มม. ขณะที่ขุมพลังในต่างประเทศมีให้เลือก เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC 130 แรงม้า และเป็นไปได้ที่จะนำมาวางในรุ่นใหม่ของ ฮอนด้า ซิตี้ด้วย ส่วนอีกตัวจะเป็นรุ่น 1.3 ลิตร 100 แรงม้า และยังมีรุ่นไฮบริดเป็นอีกทางเลือกหลัก นอกจากนี้ในบางตลาดอย่างอินเดียจะมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลด้วย
โดยกำหนดเปิดตัวทำตลาดของ ฮอนด้า แจ๊ซ ได้มีการประกาศจาก ฮอนด้า มอเตอร์ ว่าจะแนะนำสู่ตลาดญี่ปุ่นในช่วงเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะขึ้นไลน์ผลิตที่โรงงาน Yorii ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนในไทยน่าจะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้าเป็นอย่างช้า และอนาคตจะมีการย้ายไลน์ผลิต ฮอนด้า ซิตี้ และแจ๊ซใหม่ ไปผลิตยังโรงงานแห่งใหม่ที่ปราจีนบุรี ซึ่งเพิ่งวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อสัปาดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถเริ่มเดินสายการผลิตในปี 2558
นั่นนับเป็นช่วงเวลาของรถโมเดลใหม่ ซึ่งเป็นรถเอสยูวีขนาดเล็กที่ใช้พื้นฐานเดียวกับฮอนด้า แจ๊ซ เตรียมแนะนำสู่ตลาดโลกช่วงปลายปี 2557 หรือต้นปี 2558 โดยฮอนด้าได้มีการเผยโฉมรถต้นแบบคันดังกล่าว “ฮอนด้า Urban SUV” เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และมีกระแสข่าวว่ารถรุ่นนี้จะเข้ามาทำตลาดในไทยด้วย ตามกลยุทธ์เปิดตัวยนตรกรรมหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ที่สำคัญรถเอสยูวีเล็กจะมีเริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยปลายปีนี้แล้ว กับการบุกตลาดของ “ฟอร์ด แอคโค สปอร์ต”
ก่อนจะเจอกับรถโมเดลใหม่ของฮอนด้า ในรุ่นที่ทำตลาดปัจจุบันอย่าง ฮอนด้า แอคคอร์ด มีกระแสข่าวจะทำการเสริมทัพให้กับเก๋งขนาดกลางรุ่นนี้ เพื่อมาท้าชนกับโตโยต้า คัมรี ไฮบริด และยังเป็นไปตามนโยบายของฮอนด้าที่ให้ความสำคัญกับรถพลังงานทางเลือกหลากหลายเช่นกัน นั่นคือการเปิดตัว “ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด” (ไม่ใช่ตัว Accord PHEV)สู่ตลาด โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมาได้มีการเผยโฉมในต่างประเทศแล้ว และมีหลายสื่อต่างคาดว่ารถรุ่นนี้จะเข้ามาทำตลาดในไทย
โดยรวมๆ แอคคอร์ด ไฮบริด รูปร่างหน้าตาไม่ได้แตกต่างจากรุ่นปกติที่ทำตลาดอยู่เท่าไหร่นัก โดยขุมกำลังมาจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบใหม่ 2 ตัว ด้วยโหมดการขับขี่เป็น 3 แบบ ได้แก่ EV Drive ขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน ที่ความเร็วต่ำ หรือปานกลางแบบคงที่, Engine Drive ใช้กำลังเครื่องยนต์ขับเคลื่อน และ Hybrid Drive ที่เป็นการผสานกำลังจากเครื่องยนต์ กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 124 กิโลวัตต์ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในเมืองและนอกเมือง 19.9 กม./ลิตร ขณะที่สนนราคาของแอคคอร์ด ไฮบริด ในญี่ปุ่นประมาณ 3.65 ล้านเยน แพงกว่าโตโยต้า คัมรี ไฮบริด ประมาณ 6.1 แสนเยน
นอกจากรถโมเดลใหม่ที่กล่าวมา ยังมีรุ่นเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติของ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ตลอดจนฮอนด้า ซีวิค ไมเนอร์เชนจ์ และการปรับโฉมของอีโคคาร์ ฮอนด้า บริโอ้ และบริโอ้ อเมซเช่นกัน รวมถึงจับตา! เวอร์ชั่นมินิเอ็มพีวีที่ใช้พื้นฐานของฮอนด้า บริโอ้ จะมีตามออกมาในตลาดไทยหรือไม่?...
แน่นอนถ้าหากฮอนด้ายืดกลยุทธ์เชิงรุก เปิดตัวยนตรกรรมหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เชื่อว่าเป็นได้เจอรถโมเดลใหม่ๆ เหล่านี้ในไทยแน่?!
หลังผ่านพ้นวิกฤตน้ำท่วมเมื่อปลายปี 2554 นับตั้งแต่เดือนมีนาคมของปีถัดมา ค่ายรถ “ฮอนด้า” เหมือนติดพลังเทอร์โบ ออกวิ่งฉิว โดยเฉพาะการเปิดตัวรถใหม่มากสุดถึง 12 รุ่น ภายในระยะเวลา 1 ปี ส่งผลให้ฮอนด้าผงาดขึ้นครองแชมป์ตลาดรถยนต์นั่ง หรือเก๋งจนถึงปัจจุบัน แน่นอนว่าฮอนด้าจะยังไม่หยุดทำตลาดเชิงรุก เดินหน้ากลยุทธ์เปิดตัวยนตรกรรมหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า แม้อาจจะไม่มากเท่ากับช่วงที่ผ่านมา แต่นับจากครึ่งหลังของปีนี้เป็นต้นไป ฮอนด้ายังจะมีรถรุ่นใหม่ที่จ่อคิวเตรียมแนะนำสู่ตลาดไทยอีกเพียบ…
ทั้งนี้จะเห็นว่ารถรุ่นเก่าหรือใหม่ของฮอนด้า ต่างมียอดขายในปริมาณที่สูงมาก แม้แต่ฮอนด้า ซิตี้ เก๋งซับคอมแพ็กต์ซีดานที่ต้องเจอกับคู่ปรับสำคัญ “โตโยต้า วีออส” ที่เพิ่งปรับโฉมใหม่หมดทั้งคัน หรือโมเดลเชนจ์ออกมา ซิตี้ยังสามารถกวาดยอดขายในเดือนมิถุนายนสูงสุด 9,044 คัน และเมื่อรวมตลอด 6 เดือนแรกปีนี้ ทำได้ 53,715 คัน ครองส่วนแบ่งการตลาด หรือแชร์รถกลุ่มนี้ 33.6% และเป็นส่วนสำคัญทำให้ฮอนด้ายังคงครองยอดขายรวมสูงสุด 131,458 คัน ของตลาดเก๋งไทยทุกประเภท
จะว่าไปนับเป็นความสำเร็จอย่างมากของ “ฮอนด้า ซิตี้” เพราะทราบกันดีรถรุ่นนี้ทำตลาดมานาน และนี่เป็นช่วงท้ายของโมเดล โดยเหลือระยะเวลาอีกเพียงไม่กี่เดือน จะมีการโมเดลเชนจ์รถรุ่นนี้สู่ตลาดไทย ซึ่งตามกระแสข่าวคาดว่าจะอยู่ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แต่ข่าวคราวและความเคลื่อนไหวของฮอนด้า ซิตี้ โฉมใหม่ค่อนข้างเงียบ จนปัจจุบันยังไม่มีรูปภาพหลุดออกมาให้เห็นเลย นอกจากภาพตัดต่อหรือคาดเดากันไปต่างๆ นาๆ
ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะ ฮอนด้า ซิตี้ เป็นรถตลาดเฉพาะบางประเทศเท่านั้น ไม่ใช่รถที่ขายทั่วโลกเหมือนอย่าง ฮอนด้า แจ๊ซ, ซีวิค หรือแอคคอร์ด แม้จะมีกระแสว่าซิตี้โฉมใหม่จะถูกยกระดับ ให้เป็นรถโกลบอลโมเดลมากขึ้นก็ตาม แต่หากดูจากภาพ ฮอนด้า แจ๊ซ โฉมใหม่ ที่หลุดออกมา และเป็นรถใช้พื้นฐานตัวถังร่วมกันกับซิตี้ใหม่ มีบางส่วนที่ได้รับอิทธิพลมาจากรถต้นแบบ ฮอนด้า เอซี-เอ็กซ์ (AC-X) พอสมควร ถึงจะเป็นต้นแบบของรถฮอนด้าที่เป็นปลั๊กอินไฮบริดก็ตาม ยิ่งรถต้นแบบคันนี้เป็นแบบซีดาน จึงมีแนวโน้มสูงที่ ฮอนด้า ซิตี้ จะได้รับอิทธิพลการออกแบบของรถต้นแบบเอซี-เอ็กซ์ก็ได้
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ฮอนด้า ซิตี้ โฉมใหม่ จะเป็นทีเด็ดสำคัญถล่ม โตโยต้า วีออส ใหม่ ไม่ให้กลับมาทวงบัลลังก์แชมป์เก๋งซีดานซับคอมแพ็กต์ได้สะดวก หรือซิตี้อาจยึดตำแหน่งแทน เช่นเดียวกับรุ่นปัจจุบันเลยก็เป็นได้
ต่อจากฮอนด้า ซิตี้ ดาบสองในกลุ่มเก๋งซับคอมแพ็กต์ แน่นอนย่อมต้องเป็น “ฮอนด้า แจ๊ซ” โฉมใหม่ ที่มีภาพภายนอกและภายในหลุดออกมาตามสื่อออนไลน์ต่างๆ แล้ว โดยเฉพาะภาพจากคู่มือขายในญี่ปุ่น หรือที่เรียกชื่อรุ่นในตลาดดังกล่าวว่า ฮอนด้า ฟิต(Fit) นับเป็นสิ่งยืนยันหน้าตาของแจ๊ซ/ฟิตรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี และล่าสุดในเว็บไซต์ของ indianautosblog ได้มีการเปิดเผยภาพชุดใหม่ เป็นภาพที่ชัดเจนของ ฮอนด้า แจ๊ซ ซึ่งไม่ใช่ภาพจากคู่มือขายเหมือนที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้ ถึงอย่างนั้นในรายงานข่าวได้ระบุที่มาของภาพ vtec.net ซึ่งเป็นภาพที่นำมาจากเว็บของ Best Car Mag's นับเป็นภาพที่เหมือนกับในคู่มือขายมาก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นภาพจริง หรือทำ Rendering (ภาพทำกราฟฟิคเสมือนจริง) จากคู่มือขายกันแน่
โดยตามรายงานข่าวนอกจากเป็นการปรับโฉมใหม่แล้ว ฮอนด้า แจ๊ซ ยังมีจุดเด่นในเรื่องของห้องโดยสารที่กว้างขวางสะดวกสบายขึ้น จะเห็นว่าระหว่างเบาะนั่งหน้าและหลังห่างกันเพิ่มขึ้น 115 มม. และช่องว่างตรงหัวเข่าของเบาะนั่งหลังมีพื้นที่เพิ่มขึ้น 65 มม. ขณะที่ขุมพลังในต่างประเทศมีให้เลือก เป็นเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร i-VTEC 130 แรงม้า และเป็นไปได้ที่จะนำมาวางในรุ่นใหม่ของ ฮอนด้า ซิตี้ด้วย ส่วนอีกตัวจะเป็นรุ่น 1.3 ลิตร 100 แรงม้า และยังมีรุ่นไฮบริดเป็นอีกทางเลือกหลัก นอกจากนี้ในบางตลาดอย่างอินเดียจะมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลด้วย
โดยกำหนดเปิดตัวทำตลาดของ ฮอนด้า แจ๊ซ ได้มีการประกาศจาก ฮอนด้า มอเตอร์ ว่าจะแนะนำสู่ตลาดญี่ปุ่นในช่วงเดือนกันยายนนี้ ซึ่งจะขึ้นไลน์ผลิตที่โรงงาน Yorii ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่วนในไทยน่าจะเปิดตัวในช่วงต้นปีหน้าเป็นอย่างช้า และอนาคตจะมีการย้ายไลน์ผลิต ฮอนด้า ซิตี้ และแจ๊ซใหม่ ไปผลิตยังโรงงานแห่งใหม่ที่ปราจีนบุรี ซึ่งเพิ่งวางศิลาฤกษ์ไปเมื่อสัปาดาห์ที่ผ่านมา เพื่อให้สามารถเริ่มเดินสายการผลิตในปี 2558
นั่นนับเป็นช่วงเวลาของรถโมเดลใหม่ ซึ่งเป็นรถเอสยูวีขนาดเล็กที่ใช้พื้นฐานเดียวกับฮอนด้า แจ๊ซ เตรียมแนะนำสู่ตลาดโลกช่วงปลายปี 2557 หรือต้นปี 2558 โดยฮอนด้าได้มีการเผยโฉมรถต้นแบบคันดังกล่าว “ฮอนด้า Urban SUV” เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และมีกระแสข่าวว่ารถรุ่นนี้จะเข้ามาทำตลาดในไทยด้วย ตามกลยุทธ์เปิดตัวยนตรกรรมหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า ที่สำคัญรถเอสยูวีเล็กจะมีเริ่มเข้ามาทำตลาดในไทยปลายปีนี้แล้ว กับการบุกตลาดของ “ฟอร์ด แอคโค สปอร์ต”
ก่อนจะเจอกับรถโมเดลใหม่ของฮอนด้า ในรุ่นที่ทำตลาดปัจจุบันอย่าง ฮอนด้า แอคคอร์ด มีกระแสข่าวจะทำการเสริมทัพให้กับเก๋งขนาดกลางรุ่นนี้ เพื่อมาท้าชนกับโตโยต้า คัมรี ไฮบริด และยังเป็นไปตามนโยบายของฮอนด้าที่ให้ความสำคัญกับรถพลังงานทางเลือกหลากหลายเช่นกัน นั่นคือการเปิดตัว “ฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริด” (ไม่ใช่ตัว Accord PHEV)สู่ตลาด โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมาได้มีการเผยโฉมในต่างประเทศแล้ว และมีหลายสื่อต่างคาดว่ารถรุ่นนี้จะเข้ามาทำตลาดในไทย
โดยรวมๆ แอคคอร์ด ไฮบริด รูปร่างหน้าตาไม่ได้แตกต่างจากรุ่นปกติที่ทำตลาดอยู่เท่าไหร่นัก โดยขุมกำลังมาจากเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าแบบใหม่ 2 ตัว ด้วยโหมดการขับขี่เป็น 3 แบบ ได้แก่ EV Drive ขับเคลื่อนโดยใช้พลังงานไฟฟ้าล้วน ที่ความเร็วต่ำ หรือปานกลางแบบคงที่, Engine Drive ใช้กำลังเครื่องยนต์ขับเคลื่อน และ Hybrid Drive ที่เป็นการผสานกำลังจากเครื่องยนต์ กับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ 124 กิโลวัตต์ โดยมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยในเมืองและนอกเมือง 19.9 กม./ลิตร ขณะที่สนนราคาของแอคคอร์ด ไฮบริด ในญี่ปุ่นประมาณ 3.65 ล้านเยน แพงกว่าโตโยต้า คัมรี ไฮบริด ประมาณ 6.1 แสนเยน
นอกจากรถโมเดลใหม่ที่กล่าวมา ยังมีรุ่นเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติของ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ ตลอดจนฮอนด้า ซีวิค ไมเนอร์เชนจ์ และการปรับโฉมของอีโคคาร์ ฮอนด้า บริโอ้ และบริโอ้ อเมซเช่นกัน รวมถึงจับตา! เวอร์ชั่นมินิเอ็มพีวีที่ใช้พื้นฐานของฮอนด้า บริโอ้ จะมีตามออกมาในตลาดไทยหรือไม่?...
แน่นอนถ้าหากฮอนด้ายืดกลยุทธ์เชิงรุก เปิดตัวยนตรกรรมหลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เชื่อว่าเป็นได้เจอรถโมเดลใหม่ๆ เหล่านี้ในไทยแน่?!
