เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาดรถอีโคคาร์ ที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 50 % ของ “มาร์ช” นิสสันจึงปล่อยหมัดแย็บออกมาไม่ขาดช่วง พร้อมจัดกิจกรรมตลอดทั้งปี เพื่อจะรักษายอดขายไม่ให้หล่นลง ล่าสุดนิสสันจึงทำการปรับโฉม มาร์ช ให้ทันสมัยมากขึ้น และเชิญสื่อมวลชนร่วมขบวน คาราวาน นิสสัน มาร์ช ใหม่ ท้าพิสูจน์รถยนต์อีโคคาร์ คุณภาพ ขับง่าย ขับไกล บนเส้นทางตราด-พนม บอกอร์ ประเทศ กัมพูชา
การเดินทางสู่ประเทศกัมพูชานับเป็นครั้งแรกของคาราวานอีโคคาร์ข้ามประเทศ และเจ้าตัวเล็กก็ไม่ทำให้ผิดหวัง สามารถไปได้ทุกที ทุกรูปแบบ รวมระยะทางทั้งสิ้นกว่า 340 กม.
คาราวานเริ่มต้นที่จังหวัดตราด โดยมีนิสสัน มาร์ช จอดรอสื่อมวลชน 10 คัน เมื่อทุกคนรับรู้ว่าต้องขับรถเบอร์อะไร กับใครแล้ว ขบวนก็เริ่มออกเดินทางไปยังด่านบ้านหาดเล็ก ระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร หลังจากนั้นทุกคนก็ต้องลงจากรถมาแสดงตัวพร้อมยื่นหนังสือเดินทาง แล้วจึงกลับไปที่รถเพื่อขับข้ามแดนไปยังฝั่งประเทศกัมพูชา แน่นอนเมื่อผ่านเข้ามายังฝั่งกัมพูชาก็ต้องปรับวิธีการขับใหม่ โดยต้องขับชิดขวาเพราะที่นี้ใช้รถพวงมาลัยซ้ายเป็นหลัก แต่ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหาใด ๆ เนื่องจากเรามีทีมนำทางโดยบริษัท ทรานเอเชีย คอยบอกทางผ่านวิทยุสื่อสารที่มีประจำรถทุกคัน
เส้นทางส่วนใหญ่ในประเทศกัมพูชาเป็นถนน 2 เลน ถนนเรียบ รถน้อย เดินทางสะดวก บรรยากาศสองข้าทางก็เหมือนกันต่างจังหวัดบ้านเรา จะมีก็แต่บ้านเรือนที่แตกต่าง เมื่อเราขับผ่านอำเภอกังปงโสม เพื่อขึ้นเขาไปยังอุทยานแห่งชาติพนม บอกอร์ ทำให้เราได้สัมผัสถนนหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางเรียบ ทางตรง ทางโค้ง โดยเฉพาะทางขึ้นเขามีความคดเคี้ยว ลาดชันพอสมควร แต่ด้วยถนนที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ลาดยางอย่างดี และมีความกว้าง เพื่อบริการนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังกาสิโนด้านบน เลยทำให้การขับขี่สะดวก ง่ายได้ ไม่มีปัญหาสำหรับเจ้าตัวเล็กทั้งขับไป ขับกลับ บวกกับอากาศดี ค่อนข้างเย็น ยิ่งขึ้นมาบนเขามีหมอกผ่านมาสร้างความตื่นเต้นให้คณะเราไม่น้อย
การขับขี่ด้วยความเร็วปกติมีทั้งความนุ่มนวลและหนึบพอตัว พวงมาลัยไม่เบา คอนโทรลง่ายต่อการขับขี่ จังหวะแรงแซงก็ตอบสนองอยู่ในระดับปกติของเครื่องยนต์ ขนาด 1.2 ลิตร แบบ 3 สูบ รหัส HR 12DE ระบบเกียร์แปรพันอัจฉริยะ XTRONIC CVT ที่ให้ความนุ่มนวล ตอบสนองทุกการขับขี่ และประหยัดน้ำมัน ซึ่งจากการสัมผัสก็น่าจะจริง เพราะรวมระยะทางสำหรับการเดินทางกว่า 340 กิโลเมตร มาร์ช ใช้น้ำมันไปถังเดียว มีเหลือนิดหน่อย ถือว่าประหยัดมาก
สำหรับมาร์ช ใหม่ ที่ได้รับการปรับปรุงให้ดูโฉบเฉี่ยว ทันสมัยมากขึ้น เช่นกระจังหน้าใหม่ โครเมียม ล้ออัลลอยใหม่ 15 นิ้ว เพิ่มความความมีสไตล์ด้วยไฟตัดหมอกและไฟท้ายแบบ LED และสีภายนอก 2 สีใหม่ สีเขียว กรีน โอลีฟ และสีชมพู สวีท พิงค์ ที่เพิ่มขึ้นจากสีเดิม ส่วนภายในเพิ่มความมีระดับด้วยสีภายในสีเบจ และทันสมัยมากขึ้นด้วยแผงแสดงผลหน้าจอล้อมกรอบด้วยโครเมี่ยม สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย ช่องเชื่อมต่อ USB ไฟในห้องเก็บสัมภาระ และวัสดุเบาะที่ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นสอดรับความหรูหราของแผงคอนโซลหน้าสีดำ Piano Black
พนม บอกอร์
พนม บอกอร์ เป็นเมืองประวัติศาสตร์ ที่สำคัญตั้งอยู่บริเวณภาคใต้ ของประเทศกัมพูชา ซึ่งมีสถานที่ประวัติศาสตร์อยู่หลายแห่ง รวมทั้งพื้นที่ป่าไม้ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์อยู่ โดยเมื่อประมาณ ค.ศ. 1920 ฝรั่งเศสได้เข้ามาสร้างสถานที่พักตากอากาศ เป็นวังสไตล์โคโลเนียล สำหรับขุนนางระดับสูงของฝรั่งเศสเข้ามาพักผ่อนและหลบจากอากาศร้อนและชื้นในกรุงพนมเปญ หลังจากนั้นในช่วงปี ค.ศ.1950-1960 วังนี้ได้ถูกแปรสภาพเป็นคาสิโน รวมทั้งยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนต์ฮอลลีวู๊ดหลายเรื่อง อาทิ CITY OF GHOSTS
พนม บอกอร์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1000 ฟุต กอรปกับความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ จึงทำให้มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี นอกจากวังเก่าแล้ว บริเวณรอบ ๆ ยังมีสถานที่ประวัติศาสตร์อื่น ๆ อีกไม่ว่าจะเป็นโบสถ์เก่า ที่ได้รับการก่อสร้างขึ้นในช่วงปี ค.ศ.1920 เช่นเดียวกัน
หลังจากที่สถานการณ์บ้านเมืองภายในประเทศกัมพูชาเข้าสู่ภาวะที่ดีขึ้นปี ค.ศ.2008 จึงได้มีการทำถนน และสร้างโรงแรม เพื่อเตรียมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ โดยถนนเส้นนี้เพิ่งจะเปิดให้ใช้เมื่อปีที่ผ่านมานี้เอง