สำนักงาน ป.ป.ส.ร่วมกับ ตร.ภาค 5 กองกำลังผาเมือง กองทัพภาคที่ 3 ศพส.ชน. ตชด.ภาค 3 ทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดชาวไทยภูเขาเผ่าลีซอ พื้นที่ชายแดนภาคเหนือ แอบลำเลียงยาจากประเทศเพื่อนบ้านมาส่งให้กับลูกค้าฝั่งไทยและรับเงินส่งให้เจ้าของยาในประเทศเพื่อนบ้าน
วันนี้ (17 พ.ค.) เวลา 15.00 น.ที่ศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯและผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ผอ.ศพส.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พ.อ.ธัชพล เปี่ยมวุฒิ รอง ผบ.ฉก.ม.3 ร่วมแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายอาเฉื่อเบ แซ่จัง อายุ 48 ปี นายอานันท์ แซ่จัง อายุ 20 ปี นายอาเบ แซ่จื่อ อายุ 30 ปี จับกุมได้บริเวณถนนสายท่าตอน-แม่จัน กม.ที่ 29-30 บ้านหาดชมพู หมู่ที่ 5 ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 2,000 เม็ด เงินสด 10 ล้านบาท และรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน รุ่นนาวาร่า สีดำ ทะเบียน บล 3294 จ.เชียงราย จำนวน 1 คัน
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 พ.ค. ที่ผ่านมา นายอาเฉื่อเบ แซ่จัง อายุ 48 ปี อยู่บ้านหัวแม่คำ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ร่วมกับพวก 2-3 คน ใช้รถกระบะคันดังกล่าว เดินทางมา อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ เพื่อส่งมอบยาเสพติดจำนวนมาก และมีการรับเงินค่ายาเสพติดไม่ทราบจำนวน ลำเลียงจากพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และนำไปพักที่บ้านหัวแม่คำ อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย เพื่อลำเลียงออกนอกประเทศ ในวันที่ 14 พ.ค.จึงสั่งการให้ชุดปฏิบัติการสืบสวนติดตาม
พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันที่ 15 พ.ค. เวลา 14.30น. รถกระบะคันดังกล่าวได้ขับออกจากบ้านห้วยส้าน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ประสานให้ ตชด.344 ตั้งด่านสกัดบนถนนสายท่าตอน-แม่อาย ต่อมาเวลา 16.30 น.พบรถคันดังกล่าวขับจาก ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าไป อ.แม่จัน จ.เชียงราย จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้น ภายหลังจากการตรวจค้น พบยาบ้า 2,000 เม็ด ซุกซ่อนในช่องใส่อุปกรณ์ซ่อมรถ และเงินสด 10 ล้านบาท ซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทางที่วางไว้บนเบาะหลังคนขับ
“การจับกุมครั้งนี้เป็นการทำลายเครือข่ายการค้ายาเสพติดของผู้ค้ายาเสพติดบริเวณชายแดน ซึ่งได้ยึดเงินสดเป็นจำนวนมาก และได้ลงนามเพื่อประชุมหารือกับประเทศเพื่อนบ้านในการสกัดขบวนการลำเลียงยาเสพติดข้ามประเทศต่อไป” ร.ต.อ.เฉลิม กล่าว
เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวเพื่อดำเนินคดีต่อไป
