ปส.แถลงผลจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายแก๊งลีซอขณะลำเลียงยาเสพติดเข้ากทม. พร้อมยึดของกลางได้เพิ่มอีก เป็นเฮโรอีน 27 แท่ง น้ำหนักรวม 9.45 กิโลกรัม ยาบ้า 570,000 เม็ด ซึ่งเป็นการขยายผลจับกุมวันที่ 3 หลังวิสามัญนายอัศวิน กู้ภัยเก๊ และจับกุมนายนิรวิทย์ พร้อมของกลางยาไอซ์กับเฮโรอีนจำนวนมากที่ ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 25 วานนี้ (15 ต.ค.)
วันนี้ (16 ต.ค.) เวลา 14.30 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. พ.ต.อ.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบก.ปส.3 แถลงการจับกุมนายวรพล เลาหมู่ อายุ 22 ปี อยู่ตำบลแม่น่าเติน อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ผู้ต้องหาหนึ่งในเครือข่ายลีซอ พร้อมของกลางเฮโรอีนจำนวน 27 แท่ง น้ำหนักรวม 9.45 กิโลกรัม ยาบ้า 570,000 เม็ด กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่สีดำ จำนวน 3 ใบ รถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีเทา หมายเลขทะเบียน ฌย 9385 กทม. สามารถจับกุมได้ที่บริเวณปากซอยรามคำแหง 26 ต่อเนื่องลานจอดรถอาคารบีลุมพินีวิวิวล์ ต่อเนื่องห้องเลขที่ 57/57 ชั้น 3 อาคารลุมพินีวิวล์ ซอยรามคำแหง 26 หัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.
พล.ต.อ.สมยศเปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 ได้สืบสวนหลังรับแจ้งจากสายลับว่ามีชายต้องสงสัย ลักษณะเป็นชาวเขา อายุประมาณ 30 ถึง 35 ปี เช่าห้องพักอาศัยอยู่เลขที่ 57/57 อาคารลุมพินีวิวล์ดังกล่าว มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังแล้วรอสังเกตการณ์ กระทั่งพบผู้ต้องหาขับรถยนต์เก๋งโตโยต้าวีออสสีเทามาจอดในลานจอดรถอาคารบีด้านหลัง จากนั้นได้ยกกระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาดใหญ่ขึ้นไปในห้องดังกล่าวแล้วขับรถยนต์ออกไป เจ้าหน้าที่ได้ขับรถติดตามตัวผู้ต้องหาไปจนกระทั่งถึงบริเวณปากซอยรามคำแหง 26 จึงสามารถจับกุมผู้ต้องหาไว้ได้ ก่อนควบคุมตัวไปค้นในห้องพักและพบของกลางจำนวนดังกล่าว ก่อนยึดของกลางทั้งหมดพร้อมนำมาสอบสวน
ด้าน พล.ต.ต.สุรพลกล่าวว่า การจับกุมผู้ต้องหาดังกล่าวได้ทำการสอบสวนแล้วมีความเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มลีซอ โดยได้ขยายผลเรื่อยมาตั่งแต่การจับกุมผู้ต้องหารายแรกชื่อนายประเสริฐ เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะตามจับกุมและทำการวิสามัญนายอัศวิน ซึ่งเป็นกู้ภัยเก๊ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 14 ต.ค. จากนั้นก็ตามจับกุมนายนิรวิทย์ พร้อมของกลางยาไอซ์กับเฮโรอีนจำนวนมากที่ ถ.เฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 25 เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (15 ต.ค.) โดยมีกำลังตำรวจ ปส.อีกชุดวางกำลังจากการขยายผลไปติดตามจับกุมนายวรพล ผู้ต้องหารายล่าสุดพร้อมของกลางยาบ้ากับเฮโรอีนที่ย่านบางกะปิ
พล.ต.ต.สุรพลกล่าวอีกว่า สำหรับเครือข่ายค้ายาเสพติดลีซอถือเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ โดยผู้ต้องหาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้เป็นเครือข่ายเดียวกัน และได้ขยายผลตามจับกุมไล่ลำดับกันมา รวมแล้วก็ได้ผู้ต้องหา 3 คน วิสามัญไปอีกหนึ่ง โดยผู้ต้องหากลุ่มนี้มีหน้าที่ลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ภาคเหนือ แล้วนำยาเสพติดมาพักไว้ในพื้นที่ กทม.ชั้นในเพื่อดูแลควบคุม และกระจายยาเสพติดให้กลุ่มผู้ค้ารายกลาง และรายย่อยในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล โดยมีเจ้านายใหญ่โทร.สั่งการจากทางภาคเหนือตอนบนอีกที
“ซึ่งตอนนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 คนที่ตำรวจ ปส.กำลังตามตัวอยู่และได้ออกหมายจับไปแล้ว คือนายศิรรัฐฐาภูมิ หรือนัท วิริยะบุญชานนท์ อายุ 25 ปี ชาวเขาเผ่าลีซอ ซึ่งการแถลงผลการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายนิรวิทย์ พร้อมของกลางที่สามารถจับได้และนำเสนอเป็นข่าวไปแล้วเมื่อวานนี้ (15 ต.ค.) มาร่วมแถลงด้วย เพื่อให้เกิดความเข้าใจและง่ายต่อการอธิบายเครือข่ายว่าเป็นกลุ่มเดียวกัน สำหรับเฮโรอีนซึ่งจับกุมได้จากเครือข่ายนี้อาจนำไปปล่อยให้ชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวแอฟริกาใต้ หรือไม่ก็อาจจะมาพักไว้เพื่อส่งต่อไปต่างประเทศ อย่างสหรัฐอเมริกา หรือฮ่องกง ซึ่งจะมีการขยายผลต่อไป” พล.ต.ต.สุรพลกล่าว
สอบสวนนายวรพลให้การรับสารภาพ โดยอ้างว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก ได้รับค่าจ้าง 5 หมื่นบาท และทราบข่าวคนในเครือข่ายถูกจับกุมและถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญยิงเสียชีวิต ก็พยายามหลบหนี แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่มาจับกุมได้เสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายวรพลพร้อมพวกที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้ในข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์ ยาบ้า และเฮโรอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. และขยายผลจับกุมต่อไป