บช.ปส.จับกุมเอเยนต์ยาเสพติดเครือข่าย “ลีซอ” พร้อมยาไอซ์ 26 กก. เฮโรอีนอีก 23.1 กก.ที่ย่านประเวศ
วันนี้ (15 ต.ค.) เวลา 14.30 น. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส. พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. พ.ต.อ.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบก.ปส.3 และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปส.3 บช.ปส. นำกำลังเข้าตรวจค้น ทาวน์โฮม 3 ชั้นเลขที่ 1/8 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซอย 25 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม. ภายหลังจับกุมนายนิรวิทย์ โสภณภูมิปัญญา อายุ 23 ปีชาวเขาเผ่าลีซอ อยู่บ้านเลขที่ 46 หมู่ 7 ต.แจ่มหลวง อ.กัลยานิวัฒนา จ.เชียงใหม่ เครือข่ายลีซอค้ายาเสพติดรายใหญ่ทางภาคเหนือ ซึ่งนายนิรวิทย์มาเช่าอาคารที่พักอาศัยดังกล่าวเป็นที่เก็บยาเสพติด เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นภายในบ้านหลังดังกล่าว สามารถยึดของกลางยาเสพติดประเภทยาไอซ์ จำนวน 26 กิโลกรัม เฮโรอีนอีก 23.1 กิโลกรัม บรรจุเป็นแท่งอยู่ในกระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่สีดำ จำนวน 4 ใบ อยู่ใต้เตียงนอนในห้องพักชั้นที่ 2
พล.ต.ต.สุรพลเปิดเผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. โดย บก.ปส.3 ได้ทำการขยายผลจากการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดชื่อนายประเสริฐ ซึ่งถูกจับกุมไปตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. ตรงด่านทับช้างพร้อมยาไอซ์ 5 กิโลกรัมที่ผ่านมา จากการขยายผลทราบว่านายประเสริฐรับยาเสพติดจากนายศิรรฐฐาภูมิ หรือนัท วิริยะบุญชานนท์ อายุ 25 ปี ชาวเขาเผ่าลีซอ ซึ่งนายนัทก็มารับยาต่อจากนายนิรวิทย์อีกต่อหนึ่ง จากการสืบสวนจนทราบกลุ่มเครือข่ายจ้าหน้าที่ได้แบ่งสายทำงานตามเครือข่ายทั้งหมด จนทราบว่านายนัทกบดานอยู่ย่านถนนศรีนครินทร์ และยังปล่อยยาเสพติดให้กับนายนายอัศวิน ภักดีเตล็บ คนร้ายกู้ภัยเถื่อนที่ถูกเจ้าหน้าที่ทำการวิสามัญฯ บริเวณถนนกัลปพฤกษ์ พร้อมยาไอซ์ 2 กิโลกรัม เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (14 ต.ค.) ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.สุรพลกล่าวอีกว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ปิดล้อมนายอัศวิน และก่อนที่นายอัศวินจะถูกวิสามัญฆาตกรรม นายอัศวินได้โทรศัพท์แจ้งให้นายนัทและนายนิรวิทย์ทราบว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุม ทำให้นายนัทกับนายนิรวิทย์รู้ตัวแล้ววางแผนหลบหนี โดยนายนิรวิทย์ได้ส่งภรรยากับลูกกลับบ้านที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อกลางดึกวันที่ 14 ต.ค. จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส.สามารถติดตามจับกุมนายนิรวิทย์ได้ที่ถนนเลียบคลองประปา ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 15 ต.ค. หลังจากขับรถไปส่งให้ลูกกับภรรยาหลบหนี
จากนั้นนำตัวนายนิรวิทย์ไปสอบสวนและสารภาพว่าเป็นคนควบคุมดูแลการปล่อยยาเสพติดจากคำสั่งเครือข่ายใหญ่ที่ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งมาเช่าอาคารดังกล่าวเพื่อเป็นที่เก็บยาเสพติด เช่าเดือนละ 16,000 บาท เป็นเวลา 1 ปี ก่อนนำไประบายให้ลูกค้ารายกลางและรายย่อยตามจุดนัดหมายต่างๆ โดยยาเสพติดล็อตนี้ตนนำมาจากภาคเหนือเป็นยาไอซ์ 35 กิโลกรัม เฮโรอีน 35 กิโลกรัม ซึ่งได้ปล่อยยาเสพติดไปให้ลูกค้าก่อนหน้าแล้วจึงเหลือยาไอซ์อยู่ 26 กิโลกรัม ส่วนเฮโรอีนเหลือ 23.1 กิโลกรัม ลูกค้ารายกลางและรายย่อยจะอยู่ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล และจ.กาญจนบุรี ได้รับค่าจ้างเดือนละประมาณ 1 แสนบาท
“สำหรับนายนัทที่ยังหลบหนี เจ้าหน้าที่อยุ่ระหว่างติดตามจับกุม คาดว่าจะได้ตัวเร็วๆ นี้ เครือข่ายนี้เป็นเครือข่ายใหญ่ คนสั่งการอยู่ภาคเหนือตอนบน เกี่ยวข้องกับชนกลุ่มน้อย นายนิรวิทย์เป็นคนควบคุมและจ่ายของให้ลูกค้าที่มาสั่งซื้อ โดยนายอัศวินที่ถูกวิสามัญฯ เมื่อวาน (14 ต.ค.) ก็รับยาจากเครือข่ายนี้ไปปล่อยให้รายย่อยในพื้นที่ และนายนัทเจ้าหน้าที่รู้ตัวรู้ชื่อสกุลหมด ตอนนี้ได้ออกหมายจับไปแล้ว” พล.ต.ต.สุรพลกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า มูลค่าของยาเสพติดที่ยึดได้ดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 150 ล้านบาท และการตรวจค้นจับกุมดังกล่าวได้มีเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวที่ให้เช่ามาดูด้วย ซึ่งเจ้าของอาคารดังกล่าวบอกว่าได้ติดประกาศเช่าบ้านเมื่อช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้ 2-3 เดือนก็เห็นรถกู้ภัยของนายอัศวินที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฯ ขับอยู่ในซอยดังกล่าวเป็นประจำ และหลังจากติดประกาศเช่าบ้านเพียง 2 วัน นายนิรวิทย์ก็เข้ามาเช่า วางเงินเช่าแล้วก็ขนของเข้าเลย และก่อนหน้านี้ 2-3 วันก็เห็นรถกู้ภัยของนายอัศวินมาขับอยู่ในซอย โดยขับเร็วและเสียงดังมากเป็นที่น่ารำคาญ กระทั่งมาเห็นข่าวว่าถูกวิสามัญฯ เพราะเป็นเครือข่ายยาเสพติด และวันนี้ (15 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาตรวจค้นเจอยาเสพติดซุกไว้อีกจำนวนมากก็รู้สึกตกใจ แต่ก็โล่งใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกวาดล้างคนไม่ดีและสิงที่ผิดกฎหมายออกจากบ้านตัวเอง