บช.ปส.วิสามัญผู้ต้องหาค้ายาเสพติดแฝงตัวเป็นเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิ ขับรถร่วมกตัญญูทุ่งมหาเมฆแหกด่าน จนท.จึงตัดสินใจยิงยางรถ แต่ยังไม่สิ้นฤทธิ์จี้ชิงรถแท็กซี่และยิงต่อสู้เพื่อหลบหนีจึงถูกเจ้าหน้าที่ยิงจนเสียชีวิต เหตุเกิดที่ถนนกัลปพฤกษ์ พบของกลางยาไอซ์ 2 กก. และปืน .38 อยู่ในกำมือ
วันนี้ (14 ต.ค.) พ.ต.ท.ประพร วิบูลสุข พงส. (สบ 3) สน.เพชรเกษม รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) วิสามัญผู้ต้องหาค้ายาเสพติดภายในหมู่บ้านเพิ่มทรัพย์ บางแค 16 ซอย 4 แขวง และเขตบางแค จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณใต้สะพานข้ามแยกกัลปพฤกษ์ (ฝั่งขาเข้า) หมู่บ้านเพิ่มทรัพย์ ซอย 1 พบรถปิกอัพอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ทุ่งมหาเมฆ รหัสเมฆา 117 สีเลือดหมูคาดดำ ทะเบียน รท 2151 กรุงเทพมหานคร สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนยางแตกหมดทั้ง 4 เส้น กระจกหลังและข้างถูกยิงจนแตกรอบคัน จากการตรวจค้นบริเวณเบาะหลัง พบยาไอซ์น้ำหนักรวม 2 กิโลกรัมซุกซ่อนอยู่ภายในกระเป๋าเป้สีดำ
ห่างไปเล็กน้อยภายในซอยหมู่บ้านเพิ่มทรัพย์ ซอย 16 แยก 4 พบรถแท็กซี่สีเขียว ทะเบียน ทศ 5156 กรุงเทพมหานคร ของบริษัท สหกรณ์แท็กซี่สุวรรณภูมิ จำกัด ถูกยิงด้วยอาวุธปืนกระจกด้านหลังและกระจกด้านขวาแตก ส่วนบริเวณเบาะหลังพบศพนายอัศวิน ภักดีเตล็บ อายุ 26 ปี ลูกจ้างชั่วคราวของสำนักงานเขตยานนาวา อยู่บ้านเลขที่ 129/8 ถนนนนทรี แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. ถูกยิงเสียชีวิต ในมือพบปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอกพร้อมซองปืน
พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุด บช.ปส. นำโดย พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.ประสพชัย เศวตพรรณ ผกก.ปส.3 พ.ต.อ.สุรภัค รอดโพธิ์ทอง ผกก.กอ.รมน. ข่าวกรองช่วยราชการ ปส.3 สืบทราบว่ามีการลักลอบขนและจำหน่ายยาเสพติดโดยแฝงตัวเป็นเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิ จึงได้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายโดยการส่งเจ้าหน้าที่มาดักซุ่มรอบริเวณด่านเก็บเงินทางด่วนบางพลี-สุขสวัสดิ์ ถนนพระราม 2 กระทั่งเมื่อพบรถคนร้ายขับเข้ามาบริเวณช่องเก็บเงินที่ 7 เมื่อคนร้ายเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขับรถแหกด่าน ทำให้ต้องยิงยางรถยนต์ของคนร้าย แต่คนร้ายยังคงขับต่อไป เจ้าหน้าที่จึงติดตามไป ก่อนที่คนร้ายจะขับรถตัดเข้าถนนกาญจนาภิเษก โดยมุ่งหน้าขึ้นสะพานมายังถนนกัลปพฤกษ์ คนร้ายได้ลงจากรถก่อนจะใช้อาวุธยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทาง และวิ่งหลบหนีเข้าไปยังหมู่บ้านเพิ่มทรัพย์ซอยบางแค 16 แยก 1 จี้ชิงรถแท็กซี่คันดังกล่าวออกมาเพื่อหลบหนี แต่พบเจ้าหน้าที่ชุดที่ติดตามจึงเกิดการยิงต่อสู้กันอีกครั้ง ก่อนคนร้ายจะเสียชีวิต ส่วนคนขับแท็กซี่ทราบชื่อคือ นายนิติวิศย์ ทิพย์เจริญ อายุ 32 ปี ได้หลบหนีไปเนื่องจากตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน นายสุชาติ ศุภวรรณ กรรมการเขต บก.น.ใต้ เปิดเผยว่า เบื้องต้นทราบว่าอาสาคนดังกล่าวมีการนำรถไปใช้และปรับปรุงโดยไม่ถูกต้องตามกฎระเบียบ และได้รับอนุญาตจากทางกรรมการเขต ซึ่งทางกรรมการเขต บก.น.ใต้ก็พยายามติดต่อและตามหาให้อาสาคนดังกล่าวเข้ามาทำตามกฎระเบียบของมูลนิธิให้ถูกต้องอยู่ตลอดเวลาแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ระงับการทำงานของอาสาคนดังกล่าวไม่ให้ออกปฏิบัติหน้าที่มาเป็นปีแล้ว ซึ่งหลังจากนั้นก็ไม่เคยมีใครเคยพบเห็น รวมถึงได้มีการยึดชุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนหน้านี้และได้เคยประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว ถ้าพบสามารถแจ้งทางมูลนิธิได้ทันทีเพื่อระงับการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งหลังจากนี้ได้มีคำสั่งระงับชุดทำงานในพื้นที่ทุกชุดให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ก่อนเพื่อตรวจสอบพฤติกรรมแต่ละบุคคลก่อนจะอนุญาตให้ปฏิบัติหน้าที่อีกครั้ง