xs
xsm
sm
md
lg

ปส.ตั้งด่านรวบแก๊งรับจ้างขนยาไอซ์ล็อตใหญ่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ปส. แถลงรวบ 3 ผู้ต้องหารับจ้างขนยาไอซ์ 25 กิโลกรัม เตรียมไปส่งให้เอเยนต์ที่ประเทศมาเลเซีย ระบุเป็นเครือข่าย รอง ผกก. ขนยาบ้า สั่ง จนท. ตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อทลายขบวนการค้ายาเสพติด

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (30 ส.ค.) พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุรพล ทวนทอง ผบช.ปส. พล.ต.ต ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ ผบก.ปส.4 และเจ้าหน้าที่ด่านตรวจยานพาหนะชุมพร แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายเฉลียว ฆะปัญญา หรืออ้วน อายุ 50 ปี นายสมนึก เหี้ยมหาญ อายุ 48 ปี นายหลิว ก๊ก ยง อายุ 41 ปี สัญชาติมาเลเชีย พร้อมของกลางยาไอซ์ จำนวน 25 กิโลกรัม รถยนต์เก๋ง วอลโว่ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน ษก 7701 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง รถยนต์ยี่ห้อ โปรตอน สีบรอนซ์ ทะเบียน KAW 9823 จำนวน 1 คัน

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจยานพาหนะชุมพร บริเวณริมถนนเพชรเกษม หลักกิโลเมตรที่ 466 - 467 จ.ชุมพร พบรถยนต์ ยี่ห้อวอลโว่ วิ่งผ่านมา ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเรียกเพื่อหยุดตรวจ โดยมี นายสมนึก เป็นผู้ขับขี่ และ นายเฉลียว นั่งข้างมาด้วย เมื่อตรวจค้นรถพบยาไอซ์ 25 กิโลกรัม ซุกซ่อนตามจุดต่างๆ ของรถยนต์ ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 27 ส.ค. เจ้าหน้าที่ได้สืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมตัว นายหลิว ก๊ก ยง ได้ที่ริมถนนปากทางเข้าปาล์มชาเล่ต์ รีสอร์ท ถ.สาครมงคล 2 ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ ขณะที่มารอรับยาไอซ์จากนายเฉลียว

เบื้องต้น นายเฉลียว ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้รับการว่าจ้างจาก นายเหงียน หว่อง จำนวน 400,000 บาท ให้ขนยาเสพติด โดยตนได้รับการแนะนำให้รู้จักจากเพื่อนผู้ต้องขังที่ชื่อ สม เคยติดคุกด้วยกันที่เรือนจำกลางบางขวาง จากนั้น นายเหงียน หว่อง ได้โทรศัพท์สั่งให้ตนไปรับของจากนายชัยนาท ที่ปั๊มน้ำมัน ปตท. จ.สุพรรณบุรี จึงขับรถยนต์เก๋ง วอลโว่ คันดังกล่าวไปแวะรับนายสมนึก และติดรถไปด้วย เมื่อถึงเวลานัดหมายนาย ชัยนาท ได้ขับรถกระบะแค็ปสีดำ มาจอดที่ด้านท้ายรถ ตนจึงลงไปเปิดท้ายรถ นายชัยนาท ก็เอากระสอบปุ๋ยใส่ท้ายรถให้จำนวน 2 กระสอบ น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ตนและนายสมนึก จึงขับรถกลับมาที่ หมู่บ้านพรจิรา จ.ปทุมธานี เพื่อพักผ่อน จากนั้นช่วงเช้ามืดจึงขับรถต่อไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามคำสั่งของ นายเหงียน หว่อง ซึ่งตนเคยทำมาแล้ว 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 400,000 บาท ซึ่งแบ่งให้ นายสมนึก ครั้งละ 200,000 บาท

พล.ต.ท.สุรพล กล่าวว่า นายเฉลียว เคยถูกจับมาแล้วจากคดีขนเฮโรฮีน จำนวน 11 กิโลกรัม และต้องโทษจำคุกมาแล้ว 19 ปี ก่อนจะได้รับการปล่อยตัว ซึ่งขณะต้องโทษอยู่นั้น นายเฉลียว ได้เล่าเรียนจนจบปริญญาตรีด้านนิติศาสตร์ และเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายให้ผู้ต้องขัง จนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวออกมา และมาก่อเหตุซ้ำอีก โดยจะค้าเฉพาะยาไอซ์อย่างเดียว และนำไปส่งที่ อ.หาดใหญ่ เพื่อส่งต่อไปยังประเทศมาเลเซีย

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวว่า ผู้ต้องหารับยาไอซ์ล็อตนี้มาจากชายแดนพม่า ก่อนจะส่งมาที่ จ.สุพรรณบุรี และเตรียมจะนำไปส่งที่ประเทศมาเลเชีย โดยมีตัวการใหญ่อยู่ที่ปินัง เนื่องจากยาไอซ์เป็นที่ต้องการในประเทศมาเลเซียอย่างมาก โดยปกติราคายาไอซ์ในประเทศไทย จะมีมูลค่ากิโลกรัมละ 1 ล้าน แต่เมื่อไปขายที่ประเทศมาเลเชียจะมีราคาสูงถึง 10 ล้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ประเทศมาเลเชียค่อนข้างกังวล เนื่องจากยาไอซ์ที่ผ่านเข้าไปจะถูกนำไปขายที่ปินัง และกัวลาลัมเปอร์ ดังนั้น ตำรวจไทยและมาเลเชียจะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลขบวนการค้ายาเสพติดกันอยู่ตลอด จากการตรวจสอบยังพบอีกว่ายาไอซ์ล็อตดังกล่าว เป็นเครือข่ายเดียวกับนางเม่ย จึงถือได้ว่ามีความเชื่อมโยงกับกรณี พ.ต.ท.ชำนาญ พุ่มไพจิตร รอง ผกก.ป.สภ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่ ที่ถูกจับกุมจากการค้ายาบ้า เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา

พล.ต.อ.พงศพัศ กล่าวอีกว่า ในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.) ตนจะนำทีมไปที่ จ.เชียงราย เพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินและเครือข่ายยาเสพติด ทั้งยาบ้า ยาไอซ์ และ เฮโรฮีน ที่เชื่อได้ว่าเป็นเครือข่ายเดียวกับนางเม่ย และเชื่อมโยงกับพ.ต.ท.ชำนาญ โดย จ.เชียงราย ถือว่าเป็นจังหวัดต้นทางของขบวนการยาเสพติดทุกรูปแบบ รวมทั้งมีทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดซุกซ่อนอยู่จำนวนมาก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะไม่หยุดอยู่เพียงที่ผู้ขน แต่จะมุ่งตรวจสอบขบวนการค้าเสพติดทั้งหมด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์ ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น