ตำรวจทางหลวงตั้งด่านพบหนุ่มใหญ่ขับรถขนผักบังหน้า ยัดเงินตำรวจแต่ถูกปฏิเสธ ตรวจค้นพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่ถึง 1.2 ล้านเม็ด อ้างได้รับค่าจ้าง 2 หมื่นให้ขับรถ โดยที่ไม่รู้ว่าข้างในเป็นยาบ้า แต่ ตร.ไม่ปักใจเชื่อ
วันนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. ในฐานะเลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. และพล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผบก.ทล. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายองอาจ เช่งยะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13 ม.12 ต.แม่ริม อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,254,000 เม็ด รถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ หมายเลขทะเบียน ยม 45 เชียงใหม่ จับกุมได้ที่ด้านทางหลวงหมายเลข 4 ระหว่าง กม.ที่ 496-497 ต.หาดพันไกร อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์กล่าวว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงตั้งด่านอยู่บริเวณดังกล่าว นายองอาจได้ขับรถกระบะขนผักของกลางผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น แต่นายองอาจพยายามจะให้เงินเจ้าหน้าที่ตำรวจ 200 บาทเพื่อแลกกับการปล่อยรถไป แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม มีการเจราจาต่อรองให้เงินเพิ่มเป็น 2,000 บาท แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับเงินดังกล่าวและขอตรวจค้นโดยนำเหล็กแหลมแทงผ่านทะลุแผ่นไม้ที่รองผักอีกชั้นหนึ่ง พบเศษยาบ้าติดมากับเหล็กแหลมด้วย เมื่อขอตรวจค้นพบกระเป๋าเป้อยู่ใต้แผ่นไม้จำนวน 12 ใบ แต่ละใบมียาบ้ามัดอัดอยู่ในซองพลาสติกอยู่ด้วย
จากการสอบสวนนายองอาจอ้างว่าได้รับค่าจ้างจำนวน 20,000 บาทให้ขับรถจากเชียงใหม่ไปส่งที่ จ.ภูเก็ต โดยจะมีคนมารับอีกทอดหนึ่ง โดยนายองอาจไม่รู้ว่าข้างในเป็นยาบ้า แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ อย่างไรก็ตาม ได้แจ้งข้อหายาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวให้ บช.ปส.สืบสวนขยายผลต่อไป
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวยืนยันว่า ยาเสพติดมีแหล่งผลิตที่เดียวคือชนกลุ่มน้อยในประเทศพม่า สำหรับกรณีนี้ตนดีใจที่สามารถจับได้ก่อนที่จะลงไปทางภาคใต้ ขอบคุณตำรวจทางหลวงที่เอาใจใส่ มีไหวพริบ ซึ่งช่วยแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดในจังหวัดภาคใต้ได้ และยังเชื่อว่ายาเสพติดล็อตนี้ไม่ได้ถูกส่งไปขายที่ จ.ภูเก็ต เพราะที่นั่นมีการแพร่ระบาดของไอซ์ โคเคน น่าจะส่งไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งนี้ ป.ป.ส.จะตรวจสอบว่ายาบ้าล็อตนี้มาจากกลุ่มผลิตกลุ่มใดและให้ไปตรวจสอบบริษัทที่ผลิตซองใส่ยาเสพติดด้วย เพราะเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการค้ายาเสพติด โดยพรุ่งนี้จะเดินทางไป จ.เชียงราย เพื่อประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติดต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กล่าวถึงเครือข่ายขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ที่มีการลำเลียงยาบ้าจากชายแดนภาคเหนือลงมาในพื้นที่ภาคกลางว่า มีทั้งหมด 6 เครือข่าย ซึ่งขณะนี้ทางการไทยสามารถกวาดล้างจับกุมได้แล้ว 3 เครือข่าย โดยส่วนใหญ่เป็นระดับปฏิบัติการ แต่หัวหน้าแก๊งยังไม่สามารถจับกุมได้ เพราะบางส่วนได้หลบหนีไปอาศัยอยู่บริเวณท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ทั้งนี้ ในส่วนของ 3 ขบวนการที่เหลือเป็นขบวนการเล็กๆ ที่รับช่วงต่อจาก “เจ๊เพ็ญ” ซึ่งแม้จะเป็นขบวนการเล็ก แต่มีศักยภาพสามารถขนส่งยาเสพติดได้ครั้งละมากๆ ส่วนกรณีที่จับได้ที่ จ.ชุมพร จากการตรวจสอบยืนยันได้ว่าไม่ใช่เครือข่ายของ “ด.ต.มนัส เสือโพธิ์” ผบ.หมู่จราจร สน.ประชาชื่น เพราะขบวนการดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการกวาดล้างจนหมดแล้ว แต่ยาบ้าที่จับได้ทั้งหมดน่าจะมาจากแหล่งผลิตเดียวกัน คือเครือข่าย พ.ท.ยี่เซ ซึ่งมีโรงาานขนาดเล็กกระจายอยู่ตามแนวชายแดน โดยหลังจากนี้ ป.ป.ส.จะสรุปข้อมูลให้กับเลขาธิการ ป.ป.ส.ประเทศพม่า เพื่อให้ขยายผลต่อไป นอกจากนี้ ป.ป.ส.อยู่ระหว่างการตรวจสอบซองพลาสติกสีฟ้าที่ใช้ในการบรรจุยาเสพติดมีลักษณะคล้ายซองยา เบื้องต้นทราบแล้วว่ามีโรงงานผลิตในพื้นที่ภาคกลาง และอยู่ระหว่างดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อจะทำการยึดทรัพย์เจ้าของโรงงานต่อไป
พล.ต.อ.พงศพัศยังกล่าวถึงมาตรการสกัดกั้นยาเสพติดในช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่คาดว่าจะมีการลำเลียงเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เนื่องจากมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาจำนวนมากว่า การตั้งด่านตรวจค้นอาจไม่ทั่วถึง ได้มีการกำชับหน่วยปฏิบัติทุกพื้นที่ให้เพิ่มความเข้มในการเฝ้าระวัง พร้อมแนะแนวทางการปฏิบัติให้กับเจ้าหน้าที่ทุกส่วนให้ช่วยสกัดกั้นและเฝ้าระวังทุกจุดแล้ว
