ผู้ช่วย ผบ.ตร.แถลงมาตรการป้องกันอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ ตั้งเป้าลดการสูญเสียลงร้อยละ 5 ย้ำ ให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังใน 3 ข้อหาหลัก “เมาแล้วขับ-ไม่สวมหมวกกันน็อก-ขับรถเร็วเกินกว่า กม.กำหนด”
วันนี้ (30 พ.ย.) ที่ห้องสารสิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ จริตเอก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผู้บังคับการตำรวจจราจร (ผบก.จร.) พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร ผู้บังคับการตำรวจทางหลวง (ผบก.ทล.) แถลงมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2556
พล.ต.ท.เรืองศักดิ์ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ตำรวจมีความตั้งใจจะลดอุบัติเหตุบนท้องถนนในช่วง 7 วันปลอดภัย โดยปีที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นในห้วง 7 วันของการเดินทางถึง 3,093 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 335 ราย โดยมีสาเหตุสืบเนื่องจาก 4 ปัจจัย คือ 1.เมาสุรา 2.ขี่จักรยานยนต์อย่างไม่ระมัดระวัง 3.เหตุมักเกิดในเส้นทางหลวงแผนดิน และ 4.อุบัติเหตุมักเกิดในเส้นทางตรง ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ตร.ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุ ลดการสูญเสียลงให้ได้อย่างน้อย ร้อยละ 5 ของปีที่ผ่านมา โดยกำหนดช่วงปฏิบัติการเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงเตรียมความพร้อมระหว่างวันที่ 1-26 ธันวาคม ให้ทุกหน่วยเตรียมพร้อมด้านกำลังพล แผนปฏิบัติการ อุปกรณ์ต่างๆ และช่วงที่ 2 เป็นช่วงปฏิบัติการเข้มข้น หรือ 7 วันปลอดภัย ระหว่างวันที่ 27 ธันวาคม - 2 มกราคม ซึ่ง ตร.ให้สำนักงานยุทธศาสตร์ ตร.กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันภัยและลดอุบัติเหตุ มีการจัดตั้งจุดตรวจ สกัดให้เหมาะสมทั้งถนนสายหลักและสายรอง
ผู้ช่วย ผบ.ตร.กล่าวว่า พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.สั่งการกำชับให้หัวหน้าหน่วยระดับผู้บังคับบัญชาระดับผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ เข้ามากำกบัการปฏิบัติการดูแลความปลอดภัยในช่วง 7 วันปลอดภัยด้วยตัวเอง ซึ่งจะเป็นตัวชี้วัดความเป็นผู้นำ เน้นให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ใน 3 ข้อหา ทั้ง เมาไม่ขับรวมถึงห้ามผู้โดยสารดื่มสุราขณะเดินทาง ไม่สวมหมวกนิรภัย ความเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ห้ามโทรศัพท์ ขณะขับขี่ ทั้งนี้ ผบ.ตร.ให้เน้นให้บูรณาการกำลังกันและประสานงานกันหน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ในการปฏิบัติช่วง 7 วันปลอดภัย ตำรวจจะปฏิบัติให้บริการประชาชนด้วยรอยยิ้ม อย่างไรก็ตาม มีช่วงวันที่ 27-28 ธ.ค.และวันที่ 1-2 ม.ค.
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า บก.จร.ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ใน กทม.เน้นอำนวยการจราจรให้ความสะดวกแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง โดยมีเป้าหมายลดอุบัติเหตุ ส่งเดินทางสู่เป้าหมาย และ รับกลับบ้านอย่างปลอดภัย ทั้งนี้ มีการตั้ง ศปก.ในจุดสำคัญที่เป็นทางเข้า กทม.ทั้งพระราม 2 สุขุมวิท พหลโยธิน โดยเน้นบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันอย่างเข้มงวดจริงจัง
ขณะที่ พล.ต.ต.พงษ์สิทธิ์ กล่าวว่า ในส่วนของตำรวจทางหลวง เปิดให้สถานีตำรวจทางหลวงทั้ง 237 แห่งเป็นจุดบริการ ทำที่พักไว้บริการประชาชน ทั้งนี้ มาตรการในการลดอุบัติเหตุของตำรวจทางหลวงคือรณรงค์ให้ขับขี้ระวัง ไม่ใช้ความเร็วที่เป้นอันตราบ โดยมีการตั้งจุดตรวจจับความเร็วในพื้นที่ เนิน ทางโค้ง โดยมีกล้องจับภาพและจะส่งใบสั่งค่าปรับถึงบ้านผู้ขับขี่
