เชียงราย - ตำรวจเมืองพ่อขุนฯ โชว์ผลงานจับกุมแก๊งค้ายาเสพติด ขนไอซ์จากชายแดนเข้าไทย รายแรก เป็นหนุ่มแม่ฟ้าหลวง ขนไอซ์เกือบ 5 กิโล ส่วนอีกรายเป็นชาวเนปาล ใช้พลาสติกห่อไอซ์ 1 กก. 123 ก้อน กลืนลงท้องพร้อมตบเบียร์ให้คอลื่น ลอบขนจากชายแดนเพื่อนบ้านเข้าแม่สาย มุ่งหน้าส่ง กทม.
วันนี้(23 พ.ย.55) พล.ต.ต.วันชัย สุวรรณศิริเขต ผบก.ภ.เชียงราย ,พ.อ.กิดากร จันทรา รอง ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ,พ.ต.ท.ณัฐดนัย เลานันท์ รอง ผกก.สภ.แม่สาย ได้แถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่กองบังคับการ ภ.เชียงราย
รายแรกผู้ต้องหาชื่อนายปยุต อภิจรุณภิณโณ อายุ 47 ปี บ้านเลขที่ 18 ม.2 ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาเสพติดประเภทไอซ์ จำนวน 5 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 4.695 กิโลกรัม
การจับกุมมีขึ้น เมื่อเจ้าหน้าที่สืบทราบจะมีการลักลอบขนยาไอซ์ผ่านพื้นที่ ม.2 ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จึงวางกำลังดักซุ่มอยู่ ต่อมาพบนายปยุต ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีขาวดำ ทะเบียน คนธ-909 เชียงราย ไปถึงบ้านหลังหนึ่ง จึงเข้าตรวจสอบพบนำยาไอซ์บรรจุในถุงพลาสติกไปด้วย จึงทำการจับกุมและดำเนินคดีข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในการครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ซึ่งนายปยุต สารภาพว่า ได้รับจ้างครั้งแรก ด้วยค่าจ้างเป็นเงิน 5,000 บาท
อีกรายผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติชื่อนายบาดรา บาฮาดรู กรูรูง สัญชาติเนปาล อายุ 56 ปี พร้อมของกลางยาไอซ์ น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม แต่บรรจุในถุงพลาสติกอัดแน่นขนาดเท่านิ้วมือจำนวน 123 ก้อน
การจับกุมมีขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารประจำด่านตรวจถ้ำปลา ต.โป่งงาม อ.แม่สาย บนถนนพหลโยธินพบเห็นนายบาดรา นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างมาจากทางชายแดนมุ่งหน้าไปยัง อ.เมืองเชียงราย จึงให้สัญญาณหยุดตรวจ แต่จากการตรวจสอบภายนอกไม่พบสิ่งของผิดกฎหมายใดๆ แต่นายบาดรา แสดงอาการพิรุธอย่างมาก
เจ้าหน้าที่จึงทดลองใช้มือกดเข้าที่หน้าท้องปรากฏว่า แข็งผิดปกติและนายบาดรา ก็มีอาการเหมือนจุกท้อง เพราะกินอาหารเข้าไปมากผิดปกติ จึงพาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแม่สายไม่พบสิ่งผิดปกติในปัสสาวะ แต่เมื่อเอ็กซเรย์ช่องท้อง พบเม็ดเล็กๆ อยู่เต็มกระเพาะและลำไส้ จึงพยายามให้นายบาดรา ขับถ่ายออกมาพบเป็นก้อนพลาสติกที่หล่อลื่น และเมื่อนำก้อนดังกล่าวไปผ่าตรวจดูปรากฏว่าภายในบรรจุยาไอซ์อยู่ทุกก้อน จึงได้จับกุมตัวดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน
สอบสวนทราบว่าเคยทำมาแล้วถึง 3 ครั้ง โดยมักจะเดินทางไปที่ชายแดน และลักลอบข้ามไปนอนที่โรงแรมในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน จากนั้นจะนำยาไอซ์ที่ได้จากขบวนการค้ายาเสพติดไปห่อพลาสติกใสหล่อลื่น ก่อนจะค่อยๆ กลืนยาไอซ์ทีละห่อ เมื่ออิ่มก็จะจิบเบียร์และน้ำเพื่อให้สามารถกลืนได้เรื่อยๆ จนเต็มท้อง แล้วลักลอบข้ามมาฝั่งไทยทางด่านฯที่ไม่ใช่ช่องทางปกติ เพื่อนำยาเสพติดไปส่งที่กรุงเทพฯ หรือที่ประเทศเนปาลต่อไป โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ
พล.ต.ต.วันชัย กล่าวว่า ผู้ต้องหารายแรกทางตำรวจสืบทราบเป็นการสั่งซื้อจากผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ ดังนั้นจะได้นำข้อมูลประสานกับผู้บัญชาการเรือนจำ เพื่อเข้าไปตรวจสอบ และขยายผลทลายเครือข่ายยาเสพติดรายนี้ต่อไป
ส่วนรายที่สองถือว่าแปลกมาก เพราะได้กลืนกินยาเสพติดเข้าไปเต็มท้องจนไม่สามารถตรวจสอบจากภายนอกได้ ต้องมีการเอ็กซเรย์ ทั้งนี้ยาไอซ์มีการซื้อขายกันที่ชายแดนกิโลกรัมละกว่า 1 ล้านบาท
