ข่าวในประเทศ - มินิ ประเทศไทย เปิดตัว MINI Paceman รถรุ่นที่ 7 ของมินิ ด้วยรูปลักษณ์สไตล์คูเป้ 3 ประตู ครั้งแรกของโลกในตลาดรถหรูขนาดเล็กและคอมแพ็กต์ ส่งบุกตลาดไทยด้วยกัน 3 รุ่น เพื่อตอบโจทย์ทุกรสนิยมของลูกค้า เปิดราคา 2.49 – 3.19 ล้านบาท
จตุพล พุทธวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในไทย ด้วยการแนะนำ MINI Paceman ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ในแบบ Sport Activity Coupe’ ครั้งแรกของโลกในตลาดรถยนต์หรูขนาดเล็กและคอมแพ็ค และเป็นรุ่นที่ 7 ของตระกูลมินิ ที่มาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัว และผสมผสานนวัตกรรมแห่งความหรูหรา ดีไซน์ที่ประณีต และความสนุกสนานในการขับขี่ตามสไตล์ของมินิไว้ได้อย่างลงตัว รวมถึงภายในห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้อเนกประสงค์ ทำให้ MINI Paceman เป็นสุดยอดยนตรกรรมสำหรับขับขี่ในเมืองอย่างแท้จริง
โดย MINI Paceman มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมินิ ด้วยความหรูหราในสไตล์อังกฤษ การออกแบบหลังคาสไตล์คูเป้ ที่ลาดลงเล็กน้อยเพิ่มความสวยงาม พร้อมกับไฟท้ายที่ออกแบบมาในแนวนอนรับกับกระจกหลังที่ลาดเอียงช่วยเน้นรูปลักษณ์ที่สปอร์ตและโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น คิ้วโครเมี่ยมด้านข้างที่รับกับล้ออัลลอยด์อย่างกลมกลืน ให้อารมณ์ของความเป็น MINI Paceman ได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ Paceman โดดเด่นสะดุดตาด้วยดีไซน์ของรถคูเป้สามประตู ประกอบด้วยประตูหน้าสองประตูและประตูหลังขนาดใหญ่ เบาะหลังสามารถพับเก็บได้เพิ่มพื้นที่ความจุ 330 – 1,080 ลิตร ภายในห้องโดยสารออกแบบให้เบาะด้านหน้ายกสูงกว่าเบาะด้านหลังเล็กน้อยเพื่อเพิ่มทัศนียภาพที่ชัดเจนและสวยงามขณะขับขี่ พร้อมกับบรรยากาศกว้างขวางของห้องโดยสารด้านหลังที่ออกแบบมาในสไตล์เลาจ์นตอบสนองความสะดวกสบายในการเดินทาง
นอกเหนือไปจากการผสานเอกลักษณ์โดดเด่นภายนอก และดีไซน์หรูหราภายในได้อย่างลงตัว MINI Paceman ยังได้นำเทคโนโลยี MINIMALISM เพื่อการขับขี่อย่างประหยัดพลังงานสไตล์มินิ มาใช้ รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น ระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติและพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า
สำหรับMINI Paceman มีให้เลือก 3 สไตล์ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว ได้แก่ MINI Cooper Paceman – ศิลปินแห่งท้องถนน ซึ่งเป็นผลงานศิลปะบนท้องถนน ด้วยเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร พร้อมกับกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที มีอัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร 2,490,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
MINI Cooper S ALL4 Paceman – ศิลปะชิ้นเอกแห่งยนตรกรรม เป็นรถรุ่นที่มีความเร็วสูง ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ผสมผสานระหว่างความสวยงามและความรวดเร็วอย่างกลมกลืน มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร พร้อมเทอร์โบ Twin-Scroll สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 184 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที พร้อมกำลังอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 8.2 วินาที โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 13 กิโลเมตรต่อลิตร ราคา 2,950,000 บาท
สุดท้ายเป็นรุ่น MINI Cooper SD ALL4 Paceman – พลังแห่งความสร้างสรรค์ ที่มาพร้อมกับความยิ่งใหญ่ของสมรรถนะ ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ Turbocharger Diesel 2.0 ลิตร มีกำลังสูง 143 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที ราคาอยู่ที่ 3,190,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
นอกจากนี้เพื่อมอบความสะดวกสบาย ให้กับเจ้าของรถมินิทุกท่าน มินิ Not Normal ยังได้จัดโปรแกรมบริการหลังการขาย MINI Service Inclusive (MSI) ซึ่งเป็นการดูแลบำรุงรักษารถมินิตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเลือกขยายระยะเวลาต่อไปอีก 3 ปี หรือ 10,000 กิโลเมตร รวมเป็น 6 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ โปรแกรม MSI มาพร้อมกับรถเพื่อให้ลูกค้าที่รับการส่งต่อรถมินิสบายใจกับระยะเวลาบริการที่เหลืออยู่ และช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่รถมินิเมื่อเปลี่ยนเจ้าของอีกด้วย
จตุพล พุทธวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย เปิดเผยว่า ล่าสุดได้มีการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าในไทย ด้วยการแนะนำ MINI Paceman ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ในแบบ Sport Activity Coupe’ ครั้งแรกของโลกในตลาดรถยนต์หรูขนาดเล็กและคอมแพ็ค และเป็นรุ่นที่ 7 ของตระกูลมินิ ที่มาพร้อมเอกลักษณ์เฉพาะตัว และผสมผสานนวัตกรรมแห่งความหรูหรา ดีไซน์ที่ประณีต และความสนุกสนานในการขับขี่ตามสไตล์ของมินิไว้ได้อย่างลงตัว รวมถึงภายในห้องโดยสารที่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้อเนกประสงค์ ทำให้ MINI Paceman เป็นสุดยอดยนตรกรรมสำหรับขับขี่ในเมืองอย่างแท้จริง
โดย MINI Paceman มาพร้อมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมินิ ด้วยความหรูหราในสไตล์อังกฤษ การออกแบบหลังคาสไตล์คูเป้ ที่ลาดลงเล็กน้อยเพิ่มความสวยงาม พร้อมกับไฟท้ายที่ออกแบบมาในแนวนอนรับกับกระจกหลังที่ลาดเอียงช่วยเน้นรูปลักษณ์ที่สปอร์ตและโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น คิ้วโครเมี่ยมด้านข้างที่รับกับล้ออัลลอยด์อย่างกลมกลืน ให้อารมณ์ของความเป็น MINI Paceman ได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ Paceman โดดเด่นสะดุดตาด้วยดีไซน์ของรถคูเป้สามประตู ประกอบด้วยประตูหน้าสองประตูและประตูหลังขนาดใหญ่ เบาะหลังสามารถพับเก็บได้เพิ่มพื้นที่ความจุ 330 – 1,080 ลิตร ภายในห้องโดยสารออกแบบให้เบาะด้านหน้ายกสูงกว่าเบาะด้านหลังเล็กน้อยเพื่อเพิ่มทัศนียภาพที่ชัดเจนและสวยงามขณะขับขี่ พร้อมกับบรรยากาศกว้างขวางของห้องโดยสารด้านหลังที่ออกแบบมาในสไตล์เลาจ์นตอบสนองความสะดวกสบายในการเดินทาง
นอกเหนือไปจากการผสานเอกลักษณ์โดดเด่นภายนอก และดีไซน์หรูหราภายในได้อย่างลงตัว MINI Paceman ยังได้นำเทคโนโลยี MINIMALISM เพื่อการขับขี่อย่างประหยัดพลังงานสไตล์มินิ มาใช้ รวมถึงเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น ระบบชาร์จไฟแบตเตอรี่แบบอัตโนมัติและพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้า
สำหรับMINI Paceman มีให้เลือก 3 สไตล์ ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์อย่างลงตัว ได้แก่ MINI Cooper Paceman – ศิลปินแห่งท้องถนน ซึ่งเป็นผลงานศิลปะบนท้องถนน ด้วยเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร พร้อมกับกำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที มีอัตราการประหยัดน้ำมันอยู่ที่ 13.8 กิโลเมตรต่อลิตร 2,490,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
MINI Cooper S ALL4 Paceman – ศิลปะชิ้นเอกแห่งยนตรกรรม เป็นรถรุ่นที่มีความเร็วสูง ซึ่งได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถัน ผสมผสานระหว่างความสวยงามและความรวดเร็วอย่างกลมกลืน มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.6 ลิตร พร้อมเทอร์โบ Twin-Scroll สามารถผลิตกำลังสูงสุดได้ถึง 184 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที พร้อมกำลังอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 8.2 วินาที โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันเฉลี่ยอยู่ที่ 13 กิโลเมตรต่อลิตร ราคา 2,950,000 บาท
สุดท้ายเป็นรุ่น MINI Cooper SD ALL4 Paceman – พลังแห่งความสร้างสรรค์ ที่มาพร้อมกับความยิ่งใหญ่ของสมรรถนะ ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ Turbocharger Diesel 2.0 ลิตร มีกำลังสูง 143 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที ราคาอยู่ที่ 3,190,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
นอกจากนี้เพื่อมอบความสะดวกสบาย ให้กับเจ้าของรถมินิทุกท่าน มินิ Not Normal ยังได้จัดโปรแกรมบริการหลังการขาย MINI Service Inclusive (MSI) ซึ่งเป็นการดูแลบำรุงรักษารถมินิตลอดระยะเวลา 3 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร โดยลูกค้าสามารถเลือกขยายระยะเวลาต่อไปอีก 3 ปี หรือ 10,000 กิโลเมตร รวมเป็น 6 ปี หรือ 60,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ โปรแกรม MSI มาพร้อมกับรถเพื่อให้ลูกค้าที่รับการส่งต่อรถมินิสบายใจกับระยะเวลาบริการที่เหลืออยู่ และช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่รถมินิเมื่อเปลี่ยนเจ้าของอีกด้วย