คลังเร่งประสาน 3 กรมไล่ล่ากลุ่มโกงภาษี เผยมีแบล็กลิสต์ 30 บริษัท แจ้งขอคืนเป็นเท็จ 2.6 พันล้าน แฉมีการทำเป็นขบวนการใหญ่ มีสถานประกอบการที่เป็นบ้านร้าง ไม่มีความน่าเชื่อถือ มีกลุ่มกรรมการซ้ำซ้อนกัน และมีการตั้งบริษัทขึ้นมา 5-6 เดือนแล้วปิดตัว และเปิดใหม่ กังขามีคนในเข้าไปเกี่ยวข้อง
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า หลังจากได้รับแต่งตั้งจากกระทรวงการคลัง ให้เร่งดำเนินการหาตัวผู้กระทำความผิดในการโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้ประสานงานไปยังกรมภาษีทั้ง 3 กรม เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเอกชน จำนวน 30 บริษัท ที่มีพฤติกรรมในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจากการส่งออกเป็นเท็จ หรือโกงภาษี กว่า 2,600 ล้านบาท โดยคาดว่าบริษัทเอกชนดังกล่าวเป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด โดยร่วมมือกันเป็นขบวนการมาตั้งแต่ช่วงปี 2555-2556 แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกสินค้าประเภทใด เพราะจะทำให้ผู้กระทำผิดรู้ตัวก่อน และอาจนำไปสู่การทำลายหลักฐาน ซึ่งในวันที่ 10 มิถุนายนนี้ ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะส่งกำลังเข้าไปบุกค้น และจับกุมผู้ต้องหา โดยคาดว่าขบวนการนี้มีเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปมีส่วนรู้เห็นด้วย จึงจะขยายผลเพื่อดำเนินการต่อเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดในลำดับต่อไป
ทั้งนี้ จากหลักฐานเบื้องต้นของกรมศุลกากรบ่งชี้ว่า พฤติกรรมของเอกชนที่มีการขอคืนภาษีปลอมนั้น ส่วนใหญ่จะอาศัยช่องโหว่ของการคืนภาษีสำหรับวัตถุดิบที่นำเข้าเพื่อผลิตส่งออก ตามมาตรา 19 ทวิ ซึ่งที่ผ่านมา กรมศุลกากรได้ปรับปรุงวิธีการคืนเงินให้ผู้ประกอบการจากเดิมใช้เวลากว่า 1 เดือน เหลือแค่ 15 วัน เพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก โดยกรมศุลกากรปรับกระบวนการทำงานให้รวดเร็วมากขึ้น กระบวนการตรวจสอบที่เคยมีการตรวจทุกรายการก็ปรับเปลี่ยนมาเป็นการสุ่มตรวจเป็นบางรายการ เพื่อให้การคืนภาษีทำได้เร็วขึ้น จึงทำให้เกิดกลุ่มที่ใช้วิธีสร้างหลักฐานการขอคืนภาษีปลอม โดยไม่มีการนำเข้าวัตถุดิบและผลิตสินค้าออกไปขายจริง โดยกลุ่มผู้กระทำความผิดจะมีรายชื่อเดิมๆ แต่ตั้งบริษัทใหม่ๆ ขึ้นมาเป็นเครือข่ายเพื่อสร้างหลักฐานในการขอคืนภาษีเท็จอย่างต่อเนื่อง
จากการตรวจสอบพบว่า กลุ่มผู้ส่งออกทั้ง 30 ราย มีสถานประกอบการที่เป็นบ้านร้าง ไม่มีความน่าเชื่อถือ มีกลุ่มกรรมการซ้ำซ้อนกัน และมีการตั้งบริษัทขึ้นมา 5-6 เดือน แล้วปิดตัว และเปิดใหม่ มีลักษณะเป็นขบวนการ แต่ที่น่าแปลกคือ เจ้าหน้าที่กลับไม่ตั้งข้อสงสัย มีการคืนภาษีให้อย่างต่อเนื่อง ทั้งที่สินค้าที่ส่งออกเป็นสินค้าที่ราคาไม่สูง แต่กลับตั้งราคาสินค้าสูงเพื่อจะขอคืนภาษีจำนวนมาก ทำให้สงสัยว่าอาจจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับขบวนการทุจริตเงินภาษีดังกล่าว จึงต้องขยายผลให้ได้ เพราะช่วงนี้ขบวนการโกงภาษีมีหลายรูปแบบ และมีวงเงินมากขึ้นต่อเนื่อง
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากรกล่าวว่า จากนี้ไปกรมสรรพากรจะให้ความสำคัญกับการปราบปรามการทุจริตขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม และการออกใบกำกับภาษีปลอม หรือการขายใบกำกับภาษีโดยไม่มีการประกอบการจริง และผู้นำใบกำกับภาษีปลอม หรือใบกำกับภาษีที่ออกโดยมิชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในเครดิตภาษี เนื่องจากได้มีขบวนการโกงภาษีอย่างต่อเนื่อง และมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นทุกที โดยรายล่าสุด มีมูลค่าสูงถึง 3 พันล้านบาท ทั้งที่ภาครัฐได้มีการปรับลดอัตราภาษีมาอย่างต่อเนื่อง