ทิ้งระยะนานเอาเรื่องเหมือนกันเพราะนับจากเปิดตัวรุ่นแรกในปี 2005 กว่ารุ่นที่ 2 ของเรนจ์โรเวอร์ สปอร์ตจะเปิดตัวออกมา ก็ต้องรอกันจนถึงปี 2013 โดยในรุ่นใหม่เอสยูวีระดับหรูรุ่นนี้ยังคงเอกลักษณ์ของการผสมผสานความหรูและความสปอร์ตเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อทำตลาดเป็นอีกทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบชื่อของ เรนจ์โรเวอร์
รุ่นใหม่นี้เปิดตัวครั้งแรกที่งานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2013 เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา และพร้อมวางขายในตลาดทั่วโลกตั้งแต่กลางปีนี้ โดยแม้ว่าจะมากับชื่อ สปอร์ต แต่ตัวรถก็คงแบบฉบับของการเป็นเอสยูวีระดับหรูที่ผสมผสานความสปอร์ต และมาพร้อมกับตัวถังในแบบ 5 ประตูเหมือนเดิม
ในแง่ของการออกแบบ ทีมงานหันมาเน้นความสวยและเร้าใจด้วยการออกแบบเสาหลังให้มีความลาดเทเพื่อความปราดเปรียว และอ้างอิงเส้นสายและรายละเอียดมาจากน้องเล็กที่ใช้ชื่อ เรนจ์โรเวอร์ ในการทำตลาดอย่างรุ่นอีโว้ค และมีทางเจอร์รี่ แม็คโกเวิร์น รับหน้าที่ในด้านการออกแบบ
เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ตใหม่มีความยาวเพิ่มขึ้น 62 มิลลิเมตรมาอยู่ที่ 4,850 มิลลิเมตร ในแง่ความสะดวกสบายก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะระยะฐานล้อเพิ่มขึ้น 178 มิลลิเมตร ส่งผลต่อเนื่องไปยังพื้นที่วางขาของเบาะนั่งด้านหลัง และความกว้างขวางภายในห้องโดยสาร
แม้ว่ารุ่นใหม่นี้จะมีน้ำหนักเบาขึ้นประมาณ 800 ปอนด์ หรือร่วมๆ 400 กิโลกรัม ด้วยการนำอะลูมิเนียมมาใช้ในการผลิตชิ้นส่วนตัวถัง แต่ทว่าในแง่ของน้ำหนักรวมของตัวรถก็ยังถือว่าหนักเอาเรื่อง เพราะมีน้ำหนักรวมอยู่ที่ 2,144 กิโลกรัม
สำหรับทางเลือกของเครื่องยนต์ก็ยังคุ้นหูคุ้นตากันดีกับเครื่องยนต์ที่ใช้ร่วมกับแบรนด์ในเครือ JLR อย่างจากัวร์ เชื้อเพลิง โดยรุ่นเบนซินมากับเครื่องยนต์วี6 ซูเปอร์ชาร์จ 3,000 ซีซี 340 แรงม้า ซึ่งจะเข้ามาแทนที่รุ่นวี8 5,000 ซีซี มีอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลา 6.9 วินาที และถ้าอยากเร้าใจเพิ่มขึ้นก็มีเครื่องยนต์วี8 5,000 ซีซี ซูเปอร์ชาร์จ 510 แรงม้า ซึ่งใช้เวลาเพียง 5 วินาทีในการทำอัตราเร่ง 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง
ส่วนรุ่นดีเซลก็เป็นรหัส TDV6/SDV6 ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลวี6 3,000 ซีซีมี 2 ทางเลือก คือ TDV6 มีกำลังสูงสุด 258 แรงม้า และ SDV6 มีกำลัง 292 แรงม้า พร้อมแรงบิดระดับ 61.1 กก.-ม. ใช้เวลา 6.8 วินาที สำหรับการทำอัตราเร่งจาก 0-96 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนรุ่น TDV6 จะมีตัวเลขอยู่ที่ 7.1 วินาที และทุกเครื่องยนต์ที่ทำตลาดมีการติดตั้งระบบ Auto Start/Stop ซึ่งสามารถดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดติดอยู่กับที่ เพื่อความประหยัดน้ำมัน
ใครที่อยากขับเอสยูวีที่ได้รับการผสมผสานความหรูและความสปอร์ตอย่างลงตัว เรนจ์โรเวอร์ สปอร์ต ถือเป็นอีกทางเลือกที่ไม่น่าพลาด ซึ่งถ้าเลือกซื้อในช่วงนี้ก็จะมีแค่เบนซิน และเทอร์โบดีเซลเท่านั้น แต่ถ้าอดใจรอได้อีกสักนิด ก็เตรียมเงินเอาไว้ได้เลย เพราะว่าแลนด์โรเวอร์จะเปิดตัวรุ่นไฮบริดตามออกมาขายด้วยในปีหน้า