แม้จะไม่ใช่ชื่อใหม่ เพราะรุ่นแรกเปิดตัวขายไปตั้งแต่ปี 1967 แต่ทว่ากิบลีก็ขาดตอนในการทำตลาดอยู่พักใหญ่ หลังจากที่รุ่นที่ 2 โลดแล่นอยู่ในตลาดช่วง 1992-1997 ซึ่งในเมืองไทย ลูกค้าที่ชื่นชอบรถสปอร์ตค่ายนี้ก็ได้มีโอกาสสัมผัส จนหลายคนอาจจะคิดว่าเป็นชื่อรถยนต์รุ่นใหม่
อย่างไรก็ตาม กิบลีใหม่ซึ่งถ้าจะให้นับต่อก็เป็นเจนเนอเรชั่นที่ 3 ก็เกิดความเปลี่ยนแปลงจนได้ เพราะการคัมแบ้กหลังจากหายหน้าไปร่วม 16 ปี คือ การมาพร้อมกับสิ่งใหม่ โดยมาเซราติ บริษัทในเครือเฟียตจัดการวางระดับตลาดของกิบลีใหม่ให้อยู่ต่ำกว่าควอตโตรปอร์เต้เพื่อเปิดแนวรุกตลาดรถสปอร์ตซีดานในระดับเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 และเมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาสด้วยความแตกต่าง
แน่นอนว่าการกลับมาครั้งนี้มีทางไครสเลอร์ช่วยหนุนและเป็นแบ้กอัพในเรื่องของเทคโนโลยีทางวิศวกรรม เพราะว่ากิบลีใหม่ได้รับการพัฒนาอยู่บนพื้นตัวถังแบบขับเคลื่อนล้อหลังชุดเดียวกับไครสเลอร์ 300 ดอดจ์ ชาร์จเจอร์ ซึ่งขณะเดียวกัน มีข่าวแว่วมาว่าทางอัลฟาจะนำไปต่อยอดพัฒนารถยนต์ในระดับหรูของตัวเองด้วยเช่นกัน
ในแง่ของบุคลิกตัวรถดูเปลี่ยนแปลงจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เพราะนับจากรุ่นแรกที่เปิดตัวเมื่อ 50 ปีที่แล้ว กิบลีก็เจาะตลาดรถสปอร์ตมาโดยตลอด ส่วนในรุ่นใหม่เปลี่ยนมาเป็นซีดาน 4 ประตูแบบสปอร์ตที่มีความยาว 4.97 เมตร และระยะฐานล้อ 2.99 เมตร พร้อมกับงานออกแบบที่อ้างอิงเส้นสายและรายละเอียดมาจากพี่ใหญ่อย่างควอตโตรปอร์เต้ที่เพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ไปก่อนหน้านี้
สำหรับเครื่องยนต์ที่ทำตลาดก็เน้นความเร้าใจแบบเทอร์โบล้วนๆ เริ่มจากวี6 ขนาด 3,000 ซีซี เทอร์โบคู่ที่มี 2 ระดับความเร้าใจ คือ 330 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 50.9 กก.-ม. มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 5.6 วินาที และตัวแรงในรหัส Ghibli S 410 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 56.0 กก.-ม. ใช้เวลาการทำอัตราเร่งน้อยกว่ารุ่นข้างบนอยู่ 0.6 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 285 กิโลเมตร/ชั่วโมง
นอกจากนั้นมาเซราติยังฉีกกฎด้วยการหันมาขายเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซล โดยใช้ขุมพลังแบบวี6 3,000 ซีซีเป็นขุมพลังจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มีกำลังสูงสุด 275 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 61.1 กก.-ม. ใช้เวลาเพียง 6.3 วินาทีสำหรับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง แต่มีความประหยัดน้ำมันในระดับ 16.7 กิโลเมตร/ลิตร
สำหรับระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งแบบล้อหลังและแบบ 4 ล้อ โดยระบบช่วงล่างตอบสนองการขับเคลื่อน ด้วยด้านหน้าแบบปีกนก 2 ชั้น และด้านหลังแบบมัลติลิงก์ โดยที่ดิสก์เบรกด้านหน้ามีขนาด 320X32 มิลลิเมตร และด้านหลัง 350X28 มิลลิเมตร พร้อมคาลิเปอร์ของเบรมโบ้ขนาด 6 แลพ 4 ลูกสูบ สำหรับด้านหน้าและหลัง โดยใช้ระยะเบรกจากความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมงจนถึงจุดหยุดนิ่งเพียง 36 เมตรเท่านั้น
ราคายังไม่เปิดเผยออกมา เพราะถึงจะเปิดตัวครั้งแรกที่งานมอเตอร์โชว์ในเซี่ยงไฮ้ แต่ทว่ากว่าจะเริ่มวางขายในตลาดทั่วโลกได้ต้องรอจนถึงปลายปีนี้