ข่าวในประเทศ - สมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ หรือกลุ่มเกรย์มาร์เก็ต ร้องรมว.กระทรวงยุติธรรมให้สอบวินัย “พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ” รองปลัดกระทรวงฯ เมื่อครั้งเป็นเลขาฯ ป.ป.ท. ที่ออกมาให้ข่าวจนธุรกิจเสียหายยอดขายลด 70-80% คิดเป็นมูลค่ากว่าพันล้านบาท เผยหากเรื่องไม่คืบเล็งฟ้องแพ่งและอาญา พร้อมยื่นป.ป.ช.สอบการทำหน้ามิชอบ
วิชัย รุ่งเพ็ชรวิภาวดี ในฐานะตัวแทนสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ พร้อมสมาชิกสมาคมฯ ที่เป็นผู้บริหารบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ต ทั้งรายย่อยและใหญ่ 25 ราย อาทิ ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น, อีตั้น อิมพอร์ต, ซีเอ็นวาย ออโต้ อิมพอร์ต และบีอาร์จี กรุ๊ป เป็นต้น ร่วมกันเปิดเผยถึงการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับรัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมาว่า เนื้อหาที่สมาคมผู้นำเข้าฯ ยื่นขอความเป็นธรรม เกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ท. ในการออกมาให้ข่าวการตรวจสอบการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศของผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ
“พ.ต.อ.ดุษฎีได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กล่าวหาผู้นำเข้ารถยนต์อิสระด้วยข้อความเป็นเท็จหลายครั้งด้วยกัน โดยที่ไม่มีการพิสูจน์ตัดสินหรือดำเนินการทางคดีแม้แต่รายเดียว จนส่งผลให้ลูกค้าไม่เชื่อถือในการดำเนินกิจการซื้อขายและนำเข้ารถยนต์ของผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของสมาคมผู้นำเข้าฯ โดยเหตุการณ์เริ่มมาตั้งแต่เมื่อกลางปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน และพบว่าแต่ละบริษัทมียอดขายลดลง 70-80% ได้รับความเสียหายเป็นมูลค่ารายละประมาณ 30 ล้านบาท หรือรวมสมาชิกที่มีจำนวน 25 ราย และที่กำลังจะเข้ามาอีก 11 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทได้”
จากความเสียหายดังกล่าว ทำให้ทางสมาคมผู้นำเข้าฯ ต้องการให้กระทรวงยุติธรรมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ทำการตรวจสอบความเป็นจริง และสอบวินัยของพ.ต.อ.ดุษฎี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะต้องทำงานด้วยความสุจริตและโปร่งใส รวมถึงให้ความยุติกรรมกับประชาชน แต่กลับทำการตรวจสอบและโจมตีกลุ่มบริษัทผู้ประกอบธุรกิจนำเข้ารถยนต์อิสระ ว่าได้กระทำผิดนำเข้ารถยนต์โดยทุจริต และหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ด้วยการปลอมเอกสารการรับเงิน(อินวอยซ์) และสำแดงราคาต่ำกว่าคามเป็นจริง ทั้งที่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องใด ดำเนินการวินิจฉัยความผิดของบริษัทผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้ารถยตน์อิสระแต่อย่างใด
ตัวแทนสมาคมผู้นำเข้าฯ เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้ารถยนต์อิสระ ยืนยันเอกสารเกี่ยวกับการนำเข้าดังกล่าว เป็นเอกสารที่ทางราชการได้ตรวจสอบแล้ว เป็นเอกสารที่ถูกต้องแท้จริงและรับเสียภาษีการนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้อง และหลังจากมีคำสั่งโยกย้ายพ.ต.อ.ดุษฎีไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม กลับเก็บรวบรวมเอกสารพยานหลักฐานเกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์ โดยไม่ส่งมอบคืนให้กับหน่วยงานของรัฐ ทั้งที่ไม่มีอำนาจในการครอบครองเอกสารอันเป็นสมบัติของทางราชการอีกต่อไป จึงน่าสงสัยว่าเป็นการครอบครองเอกสารราชการโดยมิชอบ การตรวจสอบโดยยึดถือพยานเอกสารชุดดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
“เราพร้อมที่จะต่อสู้ด้วยความจริง และเชื่อมั่นการดำเนินธุรกิจมีความโปร่งใส พร้อมเอกสารหลักฐานที่ยืนยันได้ ซึ่งหากพบมีผู้กระทำตามข้อกล่าวหาให้ดำเนินการเอาผิดทันที ไม่ใช่ให้ข่าวจนเกิดความเสียหายเช่นนี้ และถึงปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการที่ถูกดำเนินคดีและวินิจฉัยความผิดแม้แต่รายเดียว เหตุนี้สมาคมผู้นำเข้าฯ จึงยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และหากไม่มีความชัดเจนในการคืนความเป็นธรรม ให้กับผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์อิสระ มาตรการต่อไปสมาคมผู้นำเข้าฯ จะมอบอำนาจให้กับทนายความดำเนินการรวบรวมเอกสารยื่นฟ้องแพ่งและอาญา รวมถึงยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ถึงการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของพ.ต.อ.ดุษฎี และพร้อมจะต่อสู้ทางกฎหมายหากถูกพ.ต.อ.ดุษฎีฟ้องกลับ”
สำหรับสมาคมผู้นำเข้าฯ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้ารถยนต์อิสระ เพื่อดูแลประโยชน์และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสมาชิก ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ทั้งหมด 25 ราย และกำลังพิจารณาจะเข้ามาเพิ่มอีก 11 ราย โดยผู้ที่จะเข้าเป็นสมาชิกต้องได้รับการพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ และนอกจากนี้ยังเป็นตัวกลางในการดูแลและอำนวยความสะดวก ตลอดรับการร้องเรียนให้กับผู้บริโภค หรือลูกค้าที่ซื้อรถจากสมาชิกอีกด้วย
วิชัย รุ่งเพ็ชรวิภาวดี ในฐานะตัวแทนสมาคมผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ใหม่ พร้อมสมาชิกสมาคมฯ ที่เป็นผู้บริหารบริษัทผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ต ทั้งรายย่อยและใหญ่ 25 ราย อาทิ ทีเอสแอล ออโต้ คอร์ปอเรชั่น, อีตั้น อิมพอร์ต, ซีเอ็นวาย ออโต้ อิมพอร์ต และบีอาร์จี กรุ๊ป เป็นต้น ร่วมกันเปิดเผยถึงการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมกับรัฐมนตรีว่ากระทรวงยุติธรรม ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมาว่า เนื้อหาที่สมาคมผู้นำเข้าฯ ยื่นขอความเป็นธรรม เกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป.ป.ท. ในการออกมาให้ข่าวการตรวจสอบการนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศของผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ
“พ.ต.อ.ดุษฎีได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กล่าวหาผู้นำเข้ารถยนต์อิสระด้วยข้อความเป็นเท็จหลายครั้งด้วยกัน โดยที่ไม่มีการพิสูจน์ตัดสินหรือดำเนินการทางคดีแม้แต่รายเดียว จนส่งผลให้ลูกค้าไม่เชื่อถือในการดำเนินกิจการซื้อขายและนำเข้ารถยนต์ของผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกของสมาคมผู้นำเข้าฯ โดยเหตุการณ์เริ่มมาตั้งแต่เมื่อกลางปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน และพบว่าแต่ละบริษัทมียอดขายลดลง 70-80% ได้รับความเสียหายเป็นมูลค่ารายละประมาณ 30 ล้านบาท หรือรวมสมาชิกที่มีจำนวน 25 ราย และที่กำลังจะเข้ามาอีก 11 ราย คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาทได้”
จากความเสียหายดังกล่าว ทำให้ทางสมาคมผู้นำเข้าฯ ต้องการให้กระทรวงยุติธรรมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฯ ทำการตรวจสอบความเป็นจริง และสอบวินัยของพ.ต.อ.ดุษฎี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะต้องทำงานด้วยความสุจริตและโปร่งใส รวมถึงให้ความยุติกรรมกับประชาชน แต่กลับทำการตรวจสอบและโจมตีกลุ่มบริษัทผู้ประกอบธุรกิจนำเข้ารถยนต์อิสระ ว่าได้กระทำผิดนำเข้ารถยนต์โดยทุจริต และหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร ด้วยการปลอมเอกสารการรับเงิน(อินวอยซ์) และสำแดงราคาต่ำกว่าคามเป็นจริง ทั้งที่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องใด ดำเนินการวินิจฉัยความผิดของบริษัทผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้ารถยตน์อิสระแต่อย่างใด
ตัวแทนสมาคมผู้นำเข้าฯ เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้ารถยนต์อิสระ ยืนยันเอกสารเกี่ยวกับการนำเข้าดังกล่าว เป็นเอกสารที่ทางราชการได้ตรวจสอบแล้ว เป็นเอกสารที่ถูกต้องแท้จริงและรับเสียภาษีการนำเข้ารถยนต์อย่างถูกต้อง และหลังจากมีคำสั่งโยกย้ายพ.ต.อ.ดุษฎีไปเป็นรองปลัดกระทรวงยุติธรรม กลับเก็บรวบรวมเอกสารพยานหลักฐานเกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์ โดยไม่ส่งมอบคืนให้กับหน่วยงานของรัฐ ทั้งที่ไม่มีอำนาจในการครอบครองเอกสารอันเป็นสมบัติของทางราชการอีกต่อไป จึงน่าสงสัยว่าเป็นการครอบครองเอกสารราชการโดยมิชอบ การตรวจสอบโดยยึดถือพยานเอกสารชุดดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน
“เราพร้อมที่จะต่อสู้ด้วยความจริง และเชื่อมั่นการดำเนินธุรกิจมีความโปร่งใส พร้อมเอกสารหลักฐานที่ยืนยันได้ ซึ่งหากพบมีผู้กระทำตามข้อกล่าวหาให้ดำเนินการเอาผิดทันที ไม่ใช่ให้ข่าวจนเกิดความเสียหายเช่นนี้ และถึงปัจจุบันยังไม่มีผู้ประกอบการที่ถูกดำเนินคดีและวินิจฉัยความผิดแม้แต่รายเดียว เหตุนี้สมาคมผู้นำเข้าฯ จึงยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และหากไม่มีความชัดเจนในการคืนความเป็นธรรม ให้กับผู้ประกอบการนำเข้ารถยนต์อิสระ มาตรการต่อไปสมาคมผู้นำเข้าฯ จะมอบอำนาจให้กับทนายความดำเนินการรวบรวมเอกสารยื่นฟ้องแพ่งและอาญา รวมถึงยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือป.ป.ช. ถึงการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของพ.ต.อ.ดุษฎี และพร้อมจะต่อสู้ทางกฎหมายหากถูกพ.ต.อ.ดุษฎีฟ้องกลับ”
สำหรับสมาคมผู้นำเข้าฯ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการธุรกิจนำเข้ารถยนต์อิสระ เพื่อดูแลประโยชน์และแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสมาชิก ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ทั้งหมด 25 ราย และกำลังพิจารณาจะเข้ามาเพิ่มอีก 11 ราย โดยผู้ที่จะเข้าเป็นสมาชิกต้องได้รับการพิจารณาถึงความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งสำคัญ และนอกจากนี้ยังเป็นตัวกลางในการดูแลและอำนวยความสะดวก ตลอดรับการร้องเรียนให้กับผู้บริโภค หรือลูกค้าที่ซื้อรถจากสมาชิกอีกด้วย