ASTVผู้จัดการรายวัน-ทายาทโอสถสภาฟ้อง"สารสาส"ปลอมเอกสารโอนที่กว่า 17 ไร่มูลค่าเกือบ300ล้านบาทโดยไม่ได้รับความยินยอม อดีตภรรยาแฉ"ชินเวศ สารสาส"ปลอมเอกสาร ลายมือชื่อ นำสินสมรสไปแต่ไม่บอก พบปัจจุบันเป็นที่ตั้งรีสอร์ตหรูที่จัดตั้งเป็นกองอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ แถมเคยมีปัญหาฟ้องร้องจนต้องเปลี่ยนผุ้เช่าใหม่มาแล้ว
นางเสาวนีย์ โอสถานุเคราะห์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วย นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.สินชัย ศรีคำขลิบ รอง ผกก.สส.สภ.เกาะยาว จ.พังงา ให้ดำเนินคดีนายชินเวศ สารสาส ที่ สภ.เกาะยาว อ.เกาะยาว จ.พังงาในข้อหา ปลอมแปลงหนังสือให้ความยินยอมและลายมือชื่อในหนังสือดังกล่าว
โดยตนได้นำเอกสารหลักฐานสำเนาที่ดิน น.ส.3 ก.จำนวน 3 แปลง โดยได้ใส่ชื่อนายชินเวศเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์พร้อมด้วยสำเนาหนังสือให้ความยินยอมปลอม ฉบับลงวันที่ 24 พ.ย.2546 สำเนาบัตรทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวประชาชนที่ปลอมลายมือชื่อ หนังสือรับรองบริษัท โรงแรมป่าเกาะ จำกัดมาเป็นหลักฐาน
สำหรับนางเสาวนีย์ โอสถานุเคราะห์ (เดิมสารสาส) ปัจจุบันอายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 7 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี และเมื่อประมาณปี 2520 ได้จดทะเบียนสมรสกับนายชินเวศ สารสาส และปัจจุบันไม่ได้หย่าขาดจากกันและระหว่างสมรสกันนั้น ประมาณปี 2538 ถึง 2539 ได้ร่วมกันซื้อที่ดิน น.ส.3 ก.จำนวน 3 แปลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อประมาณวันที่ 24 พ.ย.2546 ได้ชินเวศได้ร่วมกับนายสุทธิ ศรีปทุม น.ส.ภิญญา ชูสงวนพงศ์ ปลอมแปลงเอกสารหนังสือให้ความยินยอมของตนทั้งฉบับ โดยร่วมกันปลอมข้อความในหนังสือให้ความยินยอมทั้งฉบับ และลายมือชื่อของตนในหนังสือให้ความยินยอม ฉบับลงวันที่ 24 พ.ย.2546 เพราะความเป็นจริงแล้วตนไม่เคยทำหนังสือให้ความยินยอมในการไปโอนที่ดิน และไม่เคยลงลายมือชื่อในหนังสือดังกล่าวแต่อย่างใด
ต่อมา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2546 นายชินเวศ ทั้งในฐานะส่วนตัว และในฐานะกรรมการของบริษัท โรงแรมป่าเกาะ จำกัด ได้มอบอำนาจให้นายสุทธิ ศรีปทุม ให้เอกสารปลอมไปแสดงเป็นพยานหลักฐานต่อเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอเกาะยาว จ.พังงา เพื่อทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้ง 3 แปลง ให้แก่บริษัท โรงแรมป่าเกาะ จำกัด
นางเสาวนีย์ กล่าวว่า ที่ดินทั้ง 3 แปลงนับเป็นทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมรส ถือได้ว่าเป็นสินสมรส นายชินเวศจะกระทำการใดๆ อันเกี่ยวกับที่ดินทั้ง 3 แปลงจะต้องได้รับความยินยอมจากตนก่อนและการกระทำทั้งหมดเป็นการสมรู้ร่วมคิดกันจัดทำเอกสารปลอม และใช้เอกสารปลอม ตนจึงขอร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เกาะยาว จ.พังงา เพื่อให้พนักงานสอบสวนกระทำการสอบสวน และดำเนินคดีต่อนายชินเวศ และพวกจนถึงที่สุด
**มหากาพย์รีสอร์ตหรู**
สำหรับที่ดินทั้ง 3 แปลงที่มีการปลอมแปลงเอกสารสิทธินั้น มีเนื้อที่รวม 17 ไร่ 3 งาน 35 ตารางวา มูลค่า 292 ล้านบาท ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงแรมซิกเซ้นส์ ไฮด์อะเวย์ ยาวน้อย รีสอร์ทหรูที่สุดที่เกาะยาวน้อย ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทหารไทย โดยจัดตั้งขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 2551
โดยก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาฟ้องร้องกับทางบริษัท อี.เอช.วาย. จำกัด และ บริษัท โรงแรม ป่าเกาะ จำกัดในการจ่ายผลตอบแทนตามสัญญา และส่งผลให้มีการขายทอดตลาดหน่วยลงทุนของบริษัท โรงแรม ป่าเกาะ จำกัด (ป่าเกาะ) จำนวนไม่เกิน 30 ล้านหน่วย โดยกำหนดราคาในการประมูลที่ขั้นต่ำหน่วยลงทุนละ 4.52 บาท เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2554ที่ผ่านมาเพื่อนำมาชำระหนี้ตามสัญญาที่ตกลง
นอกจากนี้ล่าสุดหลังจากหลังจากมีการฟ้องร้อง ผู้ถือหน่วยลงทุนยังมีมติให้บริษัท ซัสเทนเนเบิ้ล ลัคชัวรี ฮอสพิทัลลิตี (ไทยแลนด์) จำกัด หรือเอสแอลเอช เป็นผู้เช่าทรัพย์สิน โดยมีค่าเช่าคงที่ (Fixed Lease Fee) ที่ 70 ล้านบาทต่อปี ตลอดระยะเวลาเช่า 3 ปีแรก จากนั้นค่าเช่าคงที่จะถูกปรับขึ้นในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี จนกระทั่งสิ้นสุดอายุสัญญาเช่า และรวมถึงการต่ออายุโดยผู้เช่าอาจจะแบ่งชำระค่าเช่าคงที่รายเดือนในอัตราที่แตกต่างกันในแต่ละเดือนโดยจะอ้างอิงตามฤดูกาลการท่องเที่ยว ซึ่งกองทุนรวมและผู้เช่าจะได้กำหนดไว้ในงประมาณประจำปีแต่ละปี
นางเสาวนีย์ โอสถานุเคราะห์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนเองพร้อมด้วย นายสุวัฒน์ อภัยภักดิ์ ทนายความได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พ.ต.ท.สินชัย ศรีคำขลิบ รอง ผกก.สส.สภ.เกาะยาว จ.พังงา ให้ดำเนินคดีนายชินเวศ สารสาส ที่ สภ.เกาะยาว อ.เกาะยาว จ.พังงาในข้อหา ปลอมแปลงหนังสือให้ความยินยอมและลายมือชื่อในหนังสือดังกล่าว
โดยตนได้นำเอกสารหลักฐานสำเนาที่ดิน น.ส.3 ก.จำนวน 3 แปลง โดยได้ใส่ชื่อนายชินเวศเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์พร้อมด้วยสำเนาหนังสือให้ความยินยอมปลอม ฉบับลงวันที่ 24 พ.ย.2546 สำเนาบัตรทะเบียนบ้าน และบัตรประจำตัวประชาชนที่ปลอมลายมือชื่อ หนังสือรับรองบริษัท โรงแรมป่าเกาะ จำกัดมาเป็นหลักฐาน
สำหรับนางเสาวนีย์ โอสถานุเคราะห์ (เดิมสารสาส) ปัจจุบันอายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 7 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี และเมื่อประมาณปี 2520 ได้จดทะเบียนสมรสกับนายชินเวศ สารสาส และปัจจุบันไม่ได้หย่าขาดจากกันและระหว่างสมรสกันนั้น ประมาณปี 2538 ถึง 2539 ได้ร่วมกันซื้อที่ดิน น.ส.3 ก.จำนวน 3 แปลง
อย่างไรก็ตาม เมื่อประมาณวันที่ 24 พ.ย.2546 ได้ชินเวศได้ร่วมกับนายสุทธิ ศรีปทุม น.ส.ภิญญา ชูสงวนพงศ์ ปลอมแปลงเอกสารหนังสือให้ความยินยอมของตนทั้งฉบับ โดยร่วมกันปลอมข้อความในหนังสือให้ความยินยอมทั้งฉบับ และลายมือชื่อของตนในหนังสือให้ความยินยอม ฉบับลงวันที่ 24 พ.ย.2546 เพราะความเป็นจริงแล้วตนไม่เคยทำหนังสือให้ความยินยอมในการไปโอนที่ดิน และไม่เคยลงลายมือชื่อในหนังสือดังกล่าวแต่อย่างใด
ต่อมา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2546 นายชินเวศ ทั้งในฐานะส่วนตัว และในฐานะกรรมการของบริษัท โรงแรมป่าเกาะ จำกัด ได้มอบอำนาจให้นายสุทธิ ศรีปทุม ให้เอกสารปลอมไปแสดงเป็นพยานหลักฐานต่อเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอเกาะยาว จ.พังงา เพื่อทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้ง 3 แปลง ให้แก่บริษัท โรงแรมป่าเกาะ จำกัด
นางเสาวนีย์ กล่าวว่า ที่ดินทั้ง 3 แปลงนับเป็นทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างสมรส ถือได้ว่าเป็นสินสมรส นายชินเวศจะกระทำการใดๆ อันเกี่ยวกับที่ดินทั้ง 3 แปลงจะต้องได้รับความยินยอมจากตนก่อนและการกระทำทั้งหมดเป็นการสมรู้ร่วมคิดกันจัดทำเอกสารปลอม และใช้เอกสารปลอม ตนจึงขอร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เกาะยาว จ.พังงา เพื่อให้พนักงานสอบสวนกระทำการสอบสวน และดำเนินคดีต่อนายชินเวศ และพวกจนถึงที่สุด
**มหากาพย์รีสอร์ตหรู**
สำหรับที่ดินทั้ง 3 แปลงที่มีการปลอมแปลงเอกสารสิทธินั้น มีเนื้อที่รวม 17 ไร่ 3 งาน 35 ตารางวา มูลค่า 292 ล้านบาท ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของโรงแรมซิกเซ้นส์ ไฮด์อะเวย์ ยาวน้อย รีสอร์ทหรูที่สุดที่เกาะยาวน้อย ซึ่งเป็นสินทรัพย์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทหารไทย โดยจัดตั้งขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 2551
โดยก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาฟ้องร้องกับทางบริษัท อี.เอช.วาย. จำกัด และ บริษัท โรงแรม ป่าเกาะ จำกัดในการจ่ายผลตอบแทนตามสัญญา และส่งผลให้มีการขายทอดตลาดหน่วยลงทุนของบริษัท โรงแรม ป่าเกาะ จำกัด (ป่าเกาะ) จำนวนไม่เกิน 30 ล้านหน่วย โดยกำหนดราคาในการประมูลที่ขั้นต่ำหน่วยลงทุนละ 4.52 บาท เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2554ที่ผ่านมาเพื่อนำมาชำระหนี้ตามสัญญาที่ตกลง
นอกจากนี้ล่าสุดหลังจากหลังจากมีการฟ้องร้อง ผู้ถือหน่วยลงทุนยังมีมติให้บริษัท ซัสเทนเนเบิ้ล ลัคชัวรี ฮอสพิทัลลิตี (ไทยแลนด์) จำกัด หรือเอสแอลเอช เป็นผู้เช่าทรัพย์สิน โดยมีค่าเช่าคงที่ (Fixed Lease Fee) ที่ 70 ล้านบาทต่อปี ตลอดระยะเวลาเช่า 3 ปีแรก จากนั้นค่าเช่าคงที่จะถูกปรับขึ้นในอัตราร้อยละ 3 ต่อปี จนกระทั่งสิ้นสุดอายุสัญญาเช่า และรวมถึงการต่ออายุโดยผู้เช่าอาจจะแบ่งชำระค่าเช่าคงที่รายเดือนในอัตราที่แตกต่างกันในแต่ละเดือนโดยจะอ้างอิงตามฤดูกาลการท่องเที่ยว ซึ่งกองทุนรวมและผู้เช่าจะได้กำหนดไว้ในงประมาณประจำปีแต่ละปี
