xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

บลจ.จ่อรับเคราะห์ ภรรยา “โอสถานุเคราะห์” ฟ้อง อดีตสามี “สารสาส”ปลอมเอกสาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เกาะยาว สถานที่ตั้งของรีสอร์ทเจ้าปัญหา
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -เป็นเรื่องเป็นราวกันขึ้นมาหลังอดีตภรรยา นางเสาวนีย์ โอสถานุเคราะห์ ทายาทโอสถสภา แจ้งความดำเนินคดีอดีตสามีนักธุรกิจใหญ่ นายชินเวศ สารสาส ในข้อหาปลอมแปลงหนังสือให้ความยินยอมและลายมือชื่อในหนังสือดังกล่าว เพื่อนำไปทำธุรกรรมการโอนที่ดินเนื้อที่รวม 17 ไร่ 3 งาน 35 ตารางวา มูลค่ารวม 292 ล้านบาท

ที่ดินดังกล่าว เป็นผืนที่ทั้งสองเคยซื้อรวมกันระหว่างสมรสประมาณปี 2538 ถึง 2539 ประกอบด้วยโฉนดที่ดิน น.ส.3 ก.จำนวน 3 แปลง โดยได้ใส่ชื่อนายชินเวศเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ซึ่งประกอบด้วย น.ส.3 ก.ทะเบียนเลขที่ 1132, น.ส.3 ก ทะเบียนเลขที่ 1280 และ น.ส.3 ก ทะเบียนเลขที่ 1261 ต.เกาะยาวน้อย อ.เกาะยาว จ.พังงา

หากเป็นไปตามข้อมูลเบื้องต้นที่ดินทั้ง 3 แปลงจะถือเป็นสินสมรสทางกฎหมายการกระทำการใดๆ จะต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรส ถึงแม้จะอยู่ระหว่างที่นางเสาวนีย์ยื่นฟ้องหย่าต่อนายชินเวศ ที่ศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ตั้งแต่เมื่อปี 2553 ก็ตาม

ที่มาของการแจ้งดำเนินคดี นางเสาวนีย์ให้การต่อเจ้าพนักงานว่า เมื่อประมาณวันที่ 24 พ.ย.2546 ได้ชินเวศได้ร่วมกับนายสุทธิ ศรีปทุม น.ส.ภิญญา ชูสงวนพงศ์ ปลอมแปลงเอกสารหนังสือให้ความยินยอมของตนทั้งฉบับ โดยร่วมกันปลอมข้อความในหนังสือให้ความยินยอมทั้งฉบับ และลายมือชื่อของตนในหนังสือให้ความยินยอม ฉบับลงวันที่ 24 พ.ย.2546 เพราะความเป็นจริงแล้วตนไม่เคยทำหนังสือให้ความยินยอมในการไปโอนที่ดิน และไม่เคยลงลายมือชื่อในหนังสือดังกล่าวแต่อย่างใด

ต่อมา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.2546 นายชินเวศ ทั้งในฐานะส่วนตัว และในฐานะกรรมการของบริษัท โรงแรมป่าเกาะ จำกัด ได้มอบอำนาจให้นายสุทธิ ศรีปทุม ให้เอกสารปลอมไปแสดงเป็นพยานหลักฐานต่อเจ้าพนักงานที่ดินอำเภอเกาะยาว จ.พังงา เพื่อทำนิติกรรมจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินทั้ง 3 แปลง ให้แก่บริษัท โรงแรมป่าเกาะ จำกัด

ส่วนคดีจะออกมาเป็นอย่างไรคงจะต้องติดตามกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ ทั้ง 2 คนมีบุตรร่วมกันถึง 3 คนประกอบด้วย บุตรคนโต นายณัฐพล สารสาส (นัท) นางสาววิสา สารสาส (ไหม) นายอาษา สารสาส (หมี) ซึ่งทั้งนัทและไหมเป็นบุคคลที่คนไทยรู้จักกันในวงกว้าง โดย นัท เป็นที่รู้จักในฐานะหนุ่มไฟแรงทายาทไฮโซ และอดีตแฟนของนักแสดงสาวชื่อดังอย่าง "ปู ไปรยา" รวมถึงการเป็นผู้บริหารของรีสอร์ตหรูบนที่ดินพื้นนี้

ขณะที่ ไหม เป็นที่รู้จักกันในฐานะนางเอกคู่กับหนุ่มอารมณ์ดี โน้สอุดม ในเรื่อง “โคตรรักเอ็งเลย” และยังเป็นอดีตคู่รักกับพระเอกหนุ่ม ต่าย ณัฐพล โดยบุตรทั้ง 3 อาจเป็นกาวใจในการสมานความขัดแย้งในครั้งนี้ได้เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม คงต้องบอกว่า ไม่ใช่แค่ข้อบาดหมางของคู่สามีภรรยา แต่สำหรับพื้นดินซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงแรมซิกเซ้นส์ ไฮด์อะเวย์ ยาวน้อย รีสอร์ทหรูที่สุดบนเกาะยาวน้อยถือว่ามีปัญหามาอย่างต่อเนื่องหลังจากจัดตั้งเป็นกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ ภายใต้การดูแลของบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ทหารไทย ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2551

กองทุนดังกล่าวมีมูลค่าโครงการ 1,965 ล้านบาทและสินทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ประกอบด้วยที่ดิน 11 แปลง พื้นที่รวมกว่า 76 ไร่ สิ่งปลูกสร้างที่เป็นวิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว จำนวน 56 หลัง

กองทุนได้รับประโยชน์จากการให้เช่าทรัพย์สินแก่บริษัท อีเอชวาย จำกัด ที่ถือหุ้นโดยโรงแรมป่าเกาะ 99% โดยอีเอชวายจะว่าจ้างให้กลุ่มซิกส์เซ้นส์เป็นผู้บริหารโครงการ ซึ่งกองทุนจะได้รับค่าเช่าเป็น 2 ส่วนคือ ค่าเช่าอัตราคงที่ และค่าเช่าแปรผันตามความสามารถของการบริหารงานในแต่ละปี โดยใน 5 ปีแรกของการลงทุนกองทุนจะให้ผลตอบแทนการันตี ในอัตราปีที่ 1 จ่าย 6.0% ปีที่ 2 จ่าย 6.5% ปีที่ 3-5 จ่าย 7% ต่อปี

นอกจากนี้ยังมีนโยบายจ่ายปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง และจะจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิประจำปี หรืออาจมีการจ่ายปันผลจากกำไรสะสม

โดยปัญหาที่เกิดขึ้นมาจากความผิดพลาดในการจ่ายผลตอบแทนตามที่ได้ให้สัญญาไว้ จนเป็นที่มาของการยึดหลักประกันจำนวน 50,552,003.60 บาท ที่บริษัทอี.เอช.วาย จำกัด และบริษัทโรงแรมป่าเกาะทำการค้ำประกันไว้กับกองทุน ซึ่งในกรณีได้มีการฟ้องร้องเพื่อระงับการขายทอดตลาดของหน่วยลงทุนดังกล่าว และใช้เหตุผลความไม่สงบทางการเมืองในปี 2552-2553

แต่ดูเหมือนการฟ้องต่อศาลจะไม่เป็นผล เนื่องจากสุดท้ายแล้ว มีการขายทอดตลาดหน่วยลงทุนของบริษัท โรงแรม ป่าเกาะ จำกัด (ป่าเกาะ) จำนวนไม่เกิน 30 ล้านหน่วย เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2554ที่ผ่านมาเพื่อนำมาชำระหนี้ตามสัญญาที่ตกลง

นอกจากนี้ล่าสุดหลังจากหลังจากมีการฟ้องร้อง ผู้ถือหน่วยลงทุนยังมีมติให้บริษัท ซัสเทนเนเบิ้ล ลัคชัวรี ฮอสพิทัลลิตี (ไทยแลนด์) จำกัด หรือเอสแอลเอช เป็นผู้เช่าทรัพย์สินและบริหารงานแทนโดยมี โดยมีค่าเช่าคงที่ (Fixed Lease Fee) ที่ 70 ล้านบาทต่อปี ตลอดระยะเวลาเช่า 3 ปีแรก

ผูัจัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งเปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องทางกฎหมายแต่แน่นอนว่าถ้ามีคำตัดสินออกมาจะมีผลกระทบต่อกองทุน ซึ่งหากเป็นในทางที่เลวร้ายคือ มีความผิดและเป็นการยักยอกทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสาร และโอนกรรมสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วจะมีผลกระทบต่อกองทุนฯ อย่างมาก แต่เชื่อว่าผลกระทบที่ออกมาคงไม่ถึงผู้ถือหน่วยลงทุน แต่ผู้ที่รับผิดชอบต้องเป็นบลจ.ที่จัดตั้งกองทุน

“ถ้าผลมันออกมาเลวร้ายที่สุดนักลงทุนคงไม่เป็นไรเพราะได้รับความคุ้มครองอยู่แล้ว แต่บลจ.คงแย่เพราะต้องรับผิดชอบทั้งหมด ส่วนจะไปไล่บี้กันอย่างไรต่อต้องอยู่กับทีมกฎหมายของเขา”

ขณะที่แหล่งข่าวจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย จำกัด ระบุว่า จากกรณีข่าวการฟ้องร้องที่เกิดขึ้นเบื้องต้นขณะนี้ ยังไม่สามารถเปิดเผยอะไรได้ เนื่องจากเป็นความขัดแย้งในเรื่องกฎหมายระหว่างภรรยากับสามี จึงยังไม่ทราบผลกระทบที่จะมีมาถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ จึงคงต้องรอดูต่อไปว่าสถานการณ์จะเป็นยังไงต่อไป ซึ่งหากเหตุอันใดเกิดขึ้นทางบริษัทก็ต้องปรึกษาทางฝ่ายกฏหมายต่อไปตามขั้นตอน

กระนั้นก็ดี ขณะนี้ทาง บลจ.ทหารไทย ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลักซ์ชัวรี่ ยังไม่มีความกังวลในเรื่องนี้แต่อย่างใด เพราะเป็นแค่การเข้าไปแจ้งความเท่านั้น แต่ทางบริษัทก็ยังคงติดตามสถานการณ์ในเรื่องนี้ต่อไป


เสาวนีย์ โอสถานุเคราะห์ ขณะเดินทางไปแจ้งความ
กำลังโหลดความคิดเห็น