xs
xsm
sm
md
lg

สามมิตรลั่นพร้อมลุยเออีซี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ-สามมิตรประกาศความพร้อมขึ้นแท่นผู้นำ รับการขยายตัวความต้องการด้านขนส่งและลอจิสติกส์ที่กำลังเพิ่มมากขึ้นเพื่อพร้อมรับตลาด AEC ในปี 2558 เร่งเจรจาและขยายพันธมิตรจับมือเฮนดริกสันนำเข้าระบบช่วงล่างแบบถุงลมจากสหรัฐอเมริกา หวังให้บริการหลังการขายครบวงจรรายแรกของไทย

สุริยา โพธิ์ศิริสุข กรรมการรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สามมิตรมอเตอร์สแมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SMMผู้รับผิดชอบการดำเนินธุรกิจของบริษัทและสายธุรกิจยานยนต์เพื่อการพาณิชย์และลอจิสติกส์ เปิดเผยว่า ประเทศไทยมีต้นทุนลอจิสติกส์ประมาณ 20-25% ของ GDP การลดต้นทุนด้านลอจิสติกส์ของไทยให้แข่งขันได้ถือเป็นเป้าหมายสำคัญของธุรกิจ SMM

“ปัจจุบันการขนส่งทางบกโดยเฉพาะการใช้รถเพื่อการพาณิชย์มีการเติบโตขึ้นอย่างมาก และคาดว่าในปีนี้ ยอดการผลิตรถเพื่อ การพาณิชย์ในประเทศจะมีตลาดยอดขายรวมกว่า 40,000 คัน SMM เราเป็น Transportation Logistics Provider ที่ให้บริการแบบครบวงจร โดย SMM เป็นผู้ผลิตตัวถังรถเพื่อการพาณิชย์รวมถึงรถพ่วงและรถกึ่งพ่วงเพื่อการพาณิชย์อันดับหนึ่งทั้งในตลาดในประเทศและตลาด AEC”

สำหรับการเข้าสู่ตลาด AEC นั้น SMM ได้ขยายเครือข่ายทั้งการขายและการบริการหลังการขายครอบคลุมพื้นที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยปัจจุบันมีเครือข่ายการบริการหลังการขายในประเทศแล้วกว่า 72 แห่ง และในต่างประเทศโดยเฉพาะ AEC แล้วใน 8 ประเทศ โดยคาดว่าจะขายให้ครบทุกประเทศใน AEC ให้ได้ภายในต้นปีหน้า

“การที่เราจะไป AEC สินค้าเราต้องได้รับการยอมรับ มาตรฐานสากล เราจึงต้องมีพันธมิตรระดับโลกเข้ามาเสริม ด้านเครือข่ายเราต้องครอบคลุม AEC ซึ่งตอนนี้ยังขาดฟิลิปปินส์กับบรูไนเท่านั้น นอกจากนี้ได้มีการเจรจาร่วมกับพันธมิตรในระดับโลกในการพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าในการใช้รถเพื่อการพาณิชย์ในแต่ละกลุ่มให้มากขึ้น เพราะในอนาคตอันใกล้นี้ทั้งการคมนาคมขนส่งในภูมิภาคเราจะมีทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และทางเรือ ซึ่งการคมนาคมจะต้องมีการเชื่อมโยงกันมากขึ้น SMM จึงต้องหาพันธมิตรในการร่วมพัฒนาสินค้าให้เหมาะสมกับการใช้งานของลูกค้าให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุนและที่สำคัญต้องมีความปลอดภัย”

สุริยา กล่าวว่า การเลือก Hendrickson เข้ามาเป็นพันธมิตรในเรื่องการพัฒนารถพ่วงและกึ่งพ่วงที่ใช้ระบบถุงลม เนื่องจากมองว่าทั้ง SMM และ Hendrickson ต่างมีแนวคิดทางธุรกิจที่ใกล้เคียงกัน เพราะรถพ่วงไม่ใช่แค่มีระบบช่วงล่างดีแล้วรถจะดี แต่มองรถพ่วงและรถกึ่งพ่วงของเราทั้งคันว่าต้องมีระบบช่วงล่างดี โครงสร้างดี และตัวถังที่ดี เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในแต่ละกลุ่มได้ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่ต้องใช้รถพ่วงที่มีระบบถุงลม อาทิ กลุ่ม Food & Drink, Fruit & Vegetable, Electronic, Oil & Gas เป็นต้น ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้จะใช้ระบบช่วงล่างที่เป็นถุงลมมากขึ้นเพื่อที่จะรักษาคุณภาพของสินค้าที่บรรทุกให้ได้คุณภาพ
กำลังโหลดความคิดเห็น