ปอร์เช่ เอจี เยอรมนี เตรียมส่ง คาเยนน์ เอส ดีเซล (Cayenne S Diesel) เอสยูวีพันธุ์หรูที่มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล4.2 ลิตร ไบเทอร์โบ ให้กำลังสูงสุด 382 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 850 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ได้ 5.7 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด 252 กม./ชม. แถมคุยว่าจิบน้ำมัน 8.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 12.04 กม./ลิตร
หากมองจากภายนอกจะพบว่าคาเยนน์ ดีเซล คันนี้ยังคงเหมือนกับรุ่นคาเยนน์ เอส (Cayenne S) แต่ภายใต้ฝากระโปรงที่วางเครื่องยนต์ขนาด 8 สูบ ฉะนั้นระบบเบรกจึงได้รับการปรับเปลี่ยนขนาดให้เหมาะสมกับพละกำลังเครื่องยนต์ที่ขับออกมา ขณะเดียวกันยังโดดเด่นด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีเงิน พร้อมโลโก้ “diesel”
ด้วยพละกำลังเครื่องยนต์ที่ทรงพลังและเหนือชั้นของคาเยนน์ เอส ดีเซล (Cayenne S Diesel) ทำให้รถคันนี้สามารถลากจูงน้ำหนักได้มากถึง 3.5 ตัน ขณะเดียวกันยังมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในเรื่องของการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงขณะวิ่งทางไกล ซึ่งหากติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่างถังน้ำมัน 100 ลิตรมาด้วยแล้ว รถคันนี้จะวิ่งได้ไกลถึง 1,200 กิโลเมตรเลยทีเดียว
คาเยนน์ เอส ดีเซล (Cayenne S Diesel) คันนี้ให้ทั้งประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตามแบบฉบับความเป็นปอร์เช่ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการขับขี่คล่องตัวสูงและเสียงของเครื่องยนต์สามารถสร้างความสุนทรีย์ให้กับผู้ขับขี่ตามรูปแบบเฉพาะของรถสปอร์ตทุกประการ ตลอดจนระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะแบบ PTM active all-wheel drive ก็ติดตั้งมาให้เช่นกัน
นอกจากนี้ลูกค้ายังเลือกติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่างระบบการกระจายแรงบิดไปยังแต่ละล้อเพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมรถขณะเข้าโค้ง (Porsche Torque Vectoring Plus - PTV Plus) เพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบและสร้างความสปอร์ตมากขึ้น
สำหรับคาเยนน์ เอส ดีเซล เตรียมทำตลาดในเดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนประเทศไทยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด
หากมองจากภายนอกจะพบว่าคาเยนน์ ดีเซล คันนี้ยังคงเหมือนกับรุ่นคาเยนน์ เอส (Cayenne S) แต่ภายใต้ฝากระโปรงที่วางเครื่องยนต์ขนาด 8 สูบ ฉะนั้นระบบเบรกจึงได้รับการปรับเปลี่ยนขนาดให้เหมาะสมกับพละกำลังเครื่องยนต์ที่ขับออกมา ขณะเดียวกันยังโดดเด่นด้วยคาลิปเปอร์เบรกสีเงิน พร้อมโลโก้ “diesel”
ด้วยพละกำลังเครื่องยนต์ที่ทรงพลังและเหนือชั้นของคาเยนน์ เอส ดีเซล (Cayenne S Diesel) ทำให้รถคันนี้สามารถลากจูงน้ำหนักได้มากถึง 3.5 ตัน ขณะเดียวกันยังมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมในเรื่องของการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงขณะวิ่งทางไกล ซึ่งหากติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่างถังน้ำมัน 100 ลิตรมาด้วยแล้ว รถคันนี้จะวิ่งได้ไกลถึง 1,200 กิโลเมตรเลยทีเดียว
คาเยนน์ เอส ดีเซล (Cayenne S Diesel) คันนี้ให้ทั้งประสบการณ์การขับขี่ที่ยอดเยี่ยมตามแบบฉบับความเป็นปอร์เช่ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพการขับขี่คล่องตัวสูงและเสียงของเครื่องยนต์สามารถสร้างความสุนทรีย์ให้กับผู้ขับขี่ตามรูปแบบเฉพาะของรถสปอร์ตทุกประการ ตลอดจนระบบขับเคลื่อนอัจฉริยะแบบ PTM active all-wheel drive ก็ติดตั้งมาให้เช่นกัน
นอกจากนี้ลูกค้ายังเลือกติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่างระบบการกระจายแรงบิดไปยังแต่ละล้อเพื่อประสิทธิภาพในการควบคุมรถขณะเข้าโค้ง (Porsche Torque Vectoring Plus - PTV Plus) เพื่อการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบและสร้างความสปอร์ตมากขึ้น
สำหรับคาเยนน์ เอส ดีเซล เตรียมทำตลาดในเดือนมกราคมปีหน้าเป็นต้นไป ส่วนประเทศไทยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด