ข่าวในประเทศ - ค่ายรถอินเดีย “ทาทา” ประกาศเล็งผุดโรงงานในอาเซียน ผลิตรถปีละ 5-6 หมื่นคัน เผยกำลังพิจารณาเลือกระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย คาดไม่เกินปีครึ่งหรือก่อนเกิดเออีซี จะสามารถดำเนินการได้ พร้อมเดินหน้านำรถบรรทุกหัวลากจากเกาหลี “ทาทา แดวู” มาบุกตลาด โดยวางไทยเน้นรุกรถเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก ล่าสุดเปิดตัวรถปิกอัพเพลาลอยรุ่นแรกในไทย
นายอจิต เวนคาทารามาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาทา มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ทาทา เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดรถปัจจุบันกลุ่มรถยนต์นั่ หรือเก๋ง โดยเฉพาะเก๋งขนาดเล็กมีอัตราการเติบโตมาก และทาทาในไทยได้มีการนำ ทาทา นาโน ซิตี้คาร์ขนาด 600 ซีซี จากประเทศอินเดียมาทดลองจำหน่ายจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่เป็นการทำตลาดอย่างเป็นทางการ อยู่ระหว่างช่วงของการทดลองศึกษาตลาด และความต้องการของผู้บริโภคอยู่
“ปัจจัยที่ยังไม่เอื้อให้ทาทาทำตลาดรถเล็กจริงจัง เพราะไทยมีภาษีนำเข้ารถสำเร็จรูป หรือซีบียู(CBU) จากอินเดียสูงอยู่ ซึ่งหากจะแข่งขันในตลาดได้ ต้องมีการประกอบในประเทศหรืออาเซียน เหตุนี้ทาทากำลังศึกษาที่จะตั้งโรงงานในภูมิภาคอาเซียน ระหว่างไทยและอินโดนีเซียเป็นที่ตั้งโรงงานแห่งใหม่ คาดว่าภายในไม่เกินปีครึ่งน่าจะเริ่มดำเนินการได้ หรือก่อนเกิดประชาคมอาเซียน(AEC)”
ทั้งนี้ทาทาเคยยื่นขอส่งเสริมลงทุนโครงการอีโคคาร์ แต่เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่เหมาะสม ทำให้ต้องขอยกเลิกโครงการดังกล่าวไป แต่โรงงานแห่งใหม่จะรองรับการผลิตรถยนต์หลากหลาย มีการผลิตปีละไม่ต่ำกว่า 5-6 หมื่นคัน เพื่อทำตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งตอนนี้กำลังพิจารณาความเหมาะสม ในการลงทุนของระหว่างสองประเทศ เพราะไทยมีจุดเด่นในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ชำนาญและมีฐานการผลิตชิ้นส่วน ขณะที่อินโดนีเซียมีต้นทุนต่ำกว่า ประชากรมากกว่า 250 ล้านคน และอนาคตจะเป็นตลาดที่ใหญ่มาก
“ประเทศไทยเป็นฐานธุรกิจแห่งแรกของทาทาในภูมิภาคอาเซียน และปัจจุบันได้มีการจ้างโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ ผลิตปิกอัพทาทา ซีนอน ทำตลาดอยู่แล้ว ซึ่งนโยบายของทาทาในไทยปัจจุบัน จะเน้นไปที่รถเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก โดยล่าสุดได้เปิดตัวปิกอัพทาทา ซีนอน ไจแอนซ์ เฮฟวี ดิวตี้ 2 รุ่น และยังมีการนำรถบรรทุกใหญ่ ทาทา แดวู จากประเทศเกาหลีมาทำตลาดในไทยด้วย” นายอจิตกล่าว
นายอภิเชต สีตกะลิน รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการลูกค้า บริษัท ทาทา มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทาทา ซีนอนไจแอนซ์ เฮฟวี ดิวตี้ ที่เปิดตัวสู่ตลาดล่าสุด เป็นปิกอัพ 1 ตัน ที่ติดตั้งเพลาลอยแบบรถบรรทุกรุ่นแรกในไทย ทำให้สามารถบรรทุกหนักได้มากกว่า และมีความแข็งแกร่งทนทาน โดยปิกอัพรุ่นนี้ได้มีการทำตลาด 2 รุ่น เป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ราคา 5.19 แสนบาท และรุ่นซีนอน เฮฟวี ดิวตี้ ซีเอ็นจี พลัส เครื่องยนต์ 2.1 ลิตรปรับปรุงใหม่ ให้รองรับพลังงานก๊าซธรรมชาติได้ดีและทนทานมากขึ้น ราคา 5.69 แสนบาท
“การเพิ่มผลิตภัณฑ์ทำให้ปัจจุบัน ปิกอัพทาทามีให้เลือก 6 รุ่น ตอบสนองความต้องการหลากหลายของลูกค้า อย่างรุ่นใหม่เพลาลอยเหมาะกับผู้ที่ต้องการบรรทุกและใช้งานหนัก รองรับการต่อเติมหรือติดตั้งตู้เพิ่มได้ ซึ่งจากการเปิดตัวรถใหม่ จะทำให้ทาทามียอดขายในปีงบประมาณ 2555 เพิ่มเป็น 8-9 พันคัน จากปีที่ผ่านมาทำได้ประมาณ 5.6 พันคัน”
นายสมพงษ์ ผลจิตจรูญ ผู้อำนวยการแผนกรถบรรทุกขนาดใหญ่ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเออีซีไทยจะเป็นแลนด์บริดจ์ (Land Bridge) ของภูมิภาค เป็นศูนย์กลางหรือสะพานเชื่อมการขนส่งทางบก ไม่ว่าจะจากสิงค์โปร์ไปยังตอนล่างสุดของจีน และจากพม่ามาอ่าวไทย หรือไปยังเวียดนาม ทำให้ความต้องการรถบรรทุกขนาดใหญ่มากขึ้น เหตุนี้ทาทาจึงได้นำเข้ารถบรรทุกหัวลากจากเกาหลี “ทาทา แดวู” มาทำตลาดในไทย
ปัจจุบันทาทาได้นำรถหัวลากรุ่นโนวัส เครื่องยนต์ดีเซลและซีเอ็นจีมาทำตลาด โดยมีคอนเซ็ปต์รถคุณภาพยุโรป แต่ราคาแบบญี่ปุ่น ซึ่งจะเห็นว่ารถรุ่นโนวัสของทาทาที่มีกำลัง 420 แรงม้า ราคาเพียงกว่า 3 ล้านบาท ใกล้เคียงกับรถญี่ปุ่น 380 แรงม้า ขณะที่รถยุโรปมีราคากว่า 4 ล้านบาท เหตุนี้แม้เพิ่งจะทำตลาด แต่มียอดขายแล้วกว่า 30 คัน คาดว่าปีนี้จะมียอดขาย 150 คัน และช่วงนี้จะเร่งสร้างทีมขาย เครือข่าย และมาตรฐานการบริการ ให้เป็นที่ยอมรับก่อนเกิดเออีซี และรองรับการเพิ่มผลิตภัณฑ์รถบรรทุกที่หลากหลายมากขึ้นในอนาคต
นายอจิต เวนคาทารามาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทาทา มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์ทาทา เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดรถปัจจุบันกลุ่มรถยนต์นั่ หรือเก๋ง โดยเฉพาะเก๋งขนาดเล็กมีอัตราการเติบโตมาก และทาทาในไทยได้มีการนำ ทาทา นาโน ซิตี้คาร์ขนาด 600 ซีซี จากประเทศอินเดียมาทดลองจำหน่ายจำนวนหนึ่ง แต่ยังไม่เป็นการทำตลาดอย่างเป็นทางการ อยู่ระหว่างช่วงของการทดลองศึกษาตลาด และความต้องการของผู้บริโภคอยู่
“ปัจจัยที่ยังไม่เอื้อให้ทาทาทำตลาดรถเล็กจริงจัง เพราะไทยมีภาษีนำเข้ารถสำเร็จรูป หรือซีบียู(CBU) จากอินเดียสูงอยู่ ซึ่งหากจะแข่งขันในตลาดได้ ต้องมีการประกอบในประเทศหรืออาเซียน เหตุนี้ทาทากำลังศึกษาที่จะตั้งโรงงานในภูมิภาคอาเซียน ระหว่างไทยและอินโดนีเซียเป็นที่ตั้งโรงงานแห่งใหม่ คาดว่าภายในไม่เกินปีครึ่งน่าจะเริ่มดำเนินการได้ หรือก่อนเกิดประชาคมอาเซียน(AEC)”
ทั้งนี้ทาทาเคยยื่นขอส่งเสริมลงทุนโครงการอีโคคาร์ แต่เนื่องจากมีปัจจัยหลายอย่างที่ไม่เหมาะสม ทำให้ต้องขอยกเลิกโครงการดังกล่าวไป แต่โรงงานแห่งใหม่จะรองรับการผลิตรถยนต์หลากหลาย มีการผลิตปีละไม่ต่ำกว่า 5-6 หมื่นคัน เพื่อทำตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งตอนนี้กำลังพิจารณาความเหมาะสม ในการลงทุนของระหว่างสองประเทศ เพราะไทยมีจุดเด่นในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน ชำนาญและมีฐานการผลิตชิ้นส่วน ขณะที่อินโดนีเซียมีต้นทุนต่ำกว่า ประชากรมากกว่า 250 ล้านคน และอนาคตจะเป็นตลาดที่ใหญ่มาก
“ประเทศไทยเป็นฐานธุรกิจแห่งแรกของทาทาในภูมิภาคอาเซียน และปัจจุบันได้มีการจ้างโรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ ผลิตปิกอัพทาทา ซีนอน ทำตลาดอยู่แล้ว ซึ่งนโยบายของทาทาในไทยปัจจุบัน จะเน้นไปที่รถเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก โดยล่าสุดได้เปิดตัวปิกอัพทาทา ซีนอน ไจแอนซ์ เฮฟวี ดิวตี้ 2 รุ่น และยังมีการนำรถบรรทุกใหญ่ ทาทา แดวู จากประเทศเกาหลีมาทำตลาดในไทยด้วย” นายอจิตกล่าว
นายอภิเชต สีตกะลิน รองประธานฝ่ายขาย การตลาด และบริการลูกค้า บริษัท ทาทา มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ทาทา ซีนอนไจแอนซ์ เฮฟวี ดิวตี้ ที่เปิดตัวสู่ตลาดล่าสุด เป็นปิกอัพ 1 ตัน ที่ติดตั้งเพลาลอยแบบรถบรรทุกรุ่นแรกในไทย ทำให้สามารถบรรทุกหนักได้มากกว่า และมีความแข็งแกร่งทนทาน โดยปิกอัพรุ่นนี้ได้มีการทำตลาด 2 รุ่น เป็นรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.2 ลิตร เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ ราคา 5.19 แสนบาท และรุ่นซีนอน เฮฟวี ดิวตี้ ซีเอ็นจี พลัส เครื่องยนต์ 2.1 ลิตรปรับปรุงใหม่ ให้รองรับพลังงานก๊าซธรรมชาติได้ดีและทนทานมากขึ้น ราคา 5.69 แสนบาท
“การเพิ่มผลิตภัณฑ์ทำให้ปัจจุบัน ปิกอัพทาทามีให้เลือก 6 รุ่น ตอบสนองความต้องการหลากหลายของลูกค้า อย่างรุ่นใหม่เพลาลอยเหมาะกับผู้ที่ต้องการบรรทุกและใช้งานหนัก รองรับการต่อเติมหรือติดตั้งตู้เพิ่มได้ ซึ่งจากการเปิดตัวรถใหม่ จะทำให้ทาทามียอดขายในปีงบประมาณ 2555 เพิ่มเป็น 8-9 พันคัน จากปีที่ผ่านมาทำได้ประมาณ 5.6 พันคัน”
นายสมพงษ์ ผลจิตจรูญ ผู้อำนวยการแผนกรถบรรทุกขนาดใหญ่ บริษัท ทาทา มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเออีซีไทยจะเป็นแลนด์บริดจ์ (Land Bridge) ของภูมิภาค เป็นศูนย์กลางหรือสะพานเชื่อมการขนส่งทางบก ไม่ว่าจะจากสิงค์โปร์ไปยังตอนล่างสุดของจีน และจากพม่ามาอ่าวไทย หรือไปยังเวียดนาม ทำให้ความต้องการรถบรรทุกขนาดใหญ่มากขึ้น เหตุนี้ทาทาจึงได้นำเข้ารถบรรทุกหัวลากจากเกาหลี “ทาทา แดวู” มาทำตลาดในไทย
ปัจจุบันทาทาได้นำรถหัวลากรุ่นโนวัส เครื่องยนต์ดีเซลและซีเอ็นจีมาทำตลาด โดยมีคอนเซ็ปต์รถคุณภาพยุโรป แต่ราคาแบบญี่ปุ่น ซึ่งจะเห็นว่ารถรุ่นโนวัสของทาทาที่มีกำลัง 420 แรงม้า ราคาเพียงกว่า 3 ล้านบาท ใกล้เคียงกับรถญี่ปุ่น 380 แรงม้า ขณะที่รถยุโรปมีราคากว่า 4 ล้านบาท เหตุนี้แม้เพิ่งจะทำตลาด แต่มียอดขายแล้วกว่า 30 คัน คาดว่าปีนี้จะมียอดขาย 150 คัน และช่วงนี้จะเร่งสร้างทีมขาย เครือข่าย และมาตรฐานการบริการ ให้เป็นที่ยอมรับก่อนเกิดเออีซี และรองรับการเพิ่มผลิตภัณฑ์รถบรรทุกที่หลากหลายมากขึ้นในอนาคต