เป็นรถยนต์อีกหนึ่งรุ่นครับ ที่คนซื้อไม่ได้ขับ คนขับไม่ได้จ่ายตังค์ซื้อเอง เพราะตามคำบอกของ “อภิเชต สีตกะลิน” รองประธานฝ่ายขาย การตลาดและบริการลูกค้า บริษัท ทาทา มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ว่า ลูกค้าปิกอัพ ซีนอน เกือบร้อยทั้งร้อย เป็นเจ้าของกิจการที่มักจะซื้อให้ลูกน้องขับส่งของ หรือขนอุปกรณ์การทำงาน เพื่อสร้างเงินเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจ
ที่ผ่านมา “ทาทา ซีนอน” เป็นที่ชื่นชอบจากบรรดาเถ่าแก่มองการไกล ที่เห็นกำไรอยู่ที่ของท้ายรถ (กำไรไม่ได้อยู่ที่ตัวรถและราคาขายต่อ) ด้วยส่วนแบ่งการตลาดในปิกอัพกลุ่มตอนเดียว(ซิงเกิลแค็บ) 15% ซึ่งในจำนวนนี้ยอดขายมาจากรุ่นเครื่องยนต์ซีเอ็นจีเป็นหลัก
ล่าสุดแบรนด์ดังจากอินเดีย ยังเสริมทางเลือกด้วย “ซีนอน แม็กซ์แค็บ” กระบะตอนครึ่งพื้นเรียบ (Flat Deck) ที่เราเห็นโฆษณาขนโอ่งนั้นละครับ คราวนี้นอกจากจะได้บรรทุกสิ่งของเต็มพื้นที่ พร้อมฝากระบะเปิดได้ 3 ทางช่วยอำนวยความสะดวกแล้ว ยังสามารถขนคนไปเพิ่มได้อีก 1-2 คน(แม้ตามข้อกำหนดของกรมการขนส่งจะไม่ได้ให้พื้นที่ตอนครึ่งตรงนี้เป็นที่นั่งก็ตาม) พร้อมราคาขาย 504,000 บาท
อย่างที่บอกว่า“คนซื้อไม่ได้ขับ” ดังนั้นประเด็นในการทดสอบว่า สมรรถนะรถเป็นอย่างไร สะดวกสบายแค่ไหนคงไม่สำคัญ เท่าการพัฒนาโปรดักต์ของทาทา ให้ตอบโจทย์ตรงใจกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
สำหรับ “ซีนอน แม็กซ์แค็บ กระบะพื้นเรียบ” ผู้เขียนว่า ในภาพรวมดูดีกว่ารุ่น ซิงเกิลแค็บเครื่องดีเซล และซีเอ็นจีที่เคยลองขับเมื่อ 2-3 ปีก่อน วัสดุที่ว่าเป็นเกรดธรรมดา แต่การประกอบดูจะเนียนตามากขึ้น ขณะเดียวกันหลายจุดที่เคยประดักประเดิด อย่างกล่องอีซียู (บอดี้ คอนโทรล ยูนิต)ที่เคยวางเกะกะอยู่ใกล้เท้าซ้ายผู้ขับ แต่มาคราวนี้เก็บงานเรียบร้อย ตลอดจนมืองัดเพื่อเปิดประตูจากด้านใน และปุ่มบิดปรับระดับแอร์ ก็ดูแข็งแรงมากขึ้น
ด้านเบาะนั่งคนขับเลื่อนหน้าถอยหลังได้ แต่ปรับระดับสูงต่ำไม่ได้ ใครตัวสูงหรือตัวเล็กอาศัยปรับต่ำแหน่งพวงมาลัยขึ้น-ลง ตามถนัด เบาะนั่งคู่หน้าหุ้มไวนีลดูสะอาดเอี่ยม และการตกแต่งภายในห้องโดยสารสีครีม ให้อารมณ์โปร่งสบายตา กระจกข้างปรับเลื่อนด้วยไฟฟ้า พร้อมปุ่มควบคุมตรงคอนโซลกลางใกล้คันเกียร์
ส่วนพื้นหัวเก๋งแบบแค็บที่กว้างขวางขึ้น โดยด้านหลังคนขับเหลือๆครับ สามารถวางกระเป๋าใบใหญ่ได้ แต่ถ้าจะให้ผู้โดยสารเข้าไปนั่งก็ต้องทำใจ คิดเสียว่าดีกว่าทนนั่งท้ายกระบะให้แดดเผา หรือเปียกฝน
การเก็บเสียงภายในห้องโดยสารต้องบอกว่าแย่เหมือนเดิม เสียงทุกอย่างจากภายนอกและเสียงเครื่องยนต์สะท้อนเข้ามามาก โดยการขับความเร็ว 80-100 กม./ชม ยังมาพร้อมเสียงลมฟู่ฟ่าปะทะดัง ที่สำคัญไม่มีเครื่องเสียงติดตั้งมาเป็นเพื่อนเดินทางนะครับ แต่กระนั้นทาทาก็เตรียมช่องใส่ฟอนท์รองรับเอาไว้ ซึ่งเถ้าแก่ท่านไหนใจดี จะซื้อติดให้ลูกน้องสักเครื่อง เผื่อพวกเขาจะได้ทำงานอย่างมีความสุขมากขึ้น
ในส่วนของการขับขี่รวมๆ “ซีนอน แม็กซ์แค็บ” อาจจะไม่เนียนแน่นเท่าปิกอัพแบรนด์ญี่ปุ่น แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานจริง อย่างช่วงล่างออกแนวแข็ง มีกระเด้งกระดอนตามสภาพถนน ขณะที่พวงมาลัยบอลแอนด์นัทมีระยะฟรี แต่น้ำหนักก็พอดีมือพร้อมผ่อนแรงด้วยไฮดรอลิกก็ถือว่าดีถมแล้ว
เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ขนาด 2.2 ลิตร 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน อินเตอร์คูลเลอร์ ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 320 นิวตันเมตร ที่ 1,700 - 2,700 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 สปีด โดยคันเกียร์ยาวขนาดนี้ บวกกับน้ำหนักแป้นคลัทซ์ไม่แข็งจนเกินไป ทำให้การเปลี่ยนเกียร์ง่ายดาย และนุ่มนวลพอสมควร
ด้านพละกำลังมาแบบสมเหตุสมผล โดยทริปนี้ที่ผู้เขียนนั่งไป 2 คน ไม่มีของโหลด วิ่งทางไกล กรุงเทพ-เพชรบุรี ก็ขับได้เรื่อยๆสบายๆ จังหวะส่ง-ช่วงเร่งแซงไม่ต้องลุ้น หรือสรุปรวมๆว่า ถ้าใช้“ทาทา ซีนอน แม็กซ์แค็บ”วิ่งส่งของหรือบรรทุกหนัก ขับความเร็ว 90-100 กม./ชม. ไม่น่าจะเป็นปัญหาครับ
รวบรัดตัดความ... “ซีนอน”ไม่ใช่ปิกอัพขับเท่ แต่เป็นปิกอัพที่เกิดมาใช้งานจริง ในรุ่น “แม็กซ์แค็บ กระบะตอนครึ่งพื้นเรียบ” ที่ไม่มีซุ้มล้อแถมเปิดได้ 3 ด้าน ขน-ถ่ายสิ่งของสะดวก ขณะที่ห้องโดยสารรองรับความอเนกประสงค์ได้มากขึ้น พร้อมราคาขายไม่สูงมาก น่าจะวิ่งงานสร้างเงินได้ดีทีเดียว