‘ลามิน่า’ มั่นใจตลาดฟิล์มกรองแสงทดแทนขยายตัวแรงตามการเติบโตของตลาดรถยนต์มือสอง ที่ได้รับอานิสงส์การส่งมอบรถใหม่ชะลอตัว ดันยอดขายโตเกินคาดในปีนี้ ร่วมออกงาน บางกอก ยูสด์คาร์ แอนด์ อิมพอร์ต คาร์ โชว์ ครั้งที่ 4 คาด ดันส่วนแบ่งตลาดฟิล์มทดแทนทะลุ 35% จากเป้าหมายการจำหน่าย 700 ล้านบาท ที่เพิ่มขึ้นช่วงกลางปี
นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และฟิล์มกรองแสงอาคาร ‘ลามิน่า’ ฟิล์มกลุ่มพิเศษ ‘ลูม่าร์’ ผลิตโดยซีพีฟิล์มอิงค์ สหรัฐอเมริกา มาตรฐาน ISO 9001 รวมถึงอุปกรณ์บรรทุกสัมภาระ ‘ธูเล่’ จากสวีเดน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดฟิล์มกรองแสงทดแทนในปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของตลาดรถยนต์มือสอง
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์มือสองที่ปกติแล้วมีขนาดของตลาดราว 3 เท่าของตลาดรถยนต์ใหม่นั้น ปีนี้ยังมีแนวโน้มที่สดใส จากผลกระทบการส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่คาดว่าจะชะลอหลังจากที่ผู้ผลิตรถยนต์ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมา และถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับตลาดรถยนต์มือสองที่น่าจะเติบโตอย่างมากในปีนี้
การเติบโตของตลาดรถยนต์มือสอง จะทำให้ธุรกิจอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ได้รับอานิสงส์ที่ดีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในกลุ่มฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ที่ผู้บริโภคมักนำรถยนต์มือสองที่ซื้อมา มาทำการตกแต่งด้วยการติดฟิล์มกรองแสงใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีความต้องการสินค้าคุณภาพดี ที่มีมาตรฐาน และได้รับการรับรอง ทำให้ลามิน่าเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคกลุ่มนี้
“เราเชื่อว่า กลุ่มลูกค้ารถยนต์มือสองเองมีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพเช่นเดียวกับลูกค้ารถยนต์ใหม่ ซึ่งลามิน่ามีสินค้าที่หลากหลายให้กับลูกค้าทุกกลุ่มเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม ทำให้เราเป็นตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และได้รับรางวัลยืนยันความสำเร็จมาอย่างมากมาย”
นางสาวจันทร์นภา กล่าวว่า การเติบโตของตลาดรถยนต์มือสองในปีนี้ จะทำให้สัดส่วนฟิล์มกรองแสงทดแทน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนฟิล์มของผู้ใช้รถนั้น จะปรับเพิ่มมากขึ้นเป็น 35% ของยอดจำหน่ายของลามิน่า จากปกติที่อยู่ที่ระดับ 30% ซึ่งเป็นการเติบโตตามการคาดการณ์การขยายตัวของตลาดรถยนต์มือสองและตลาดฟิล์มกรองแสงในประเทศไทย
ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมาของปี 2555 ลามิน่ามียอดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงไปแล้วมากกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทตัดสินใจปรับเป้าหมายการจำหน่ายจากเดิมที่วางไว้ 640 ล้านบาท เพิ่มเป็น 700 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยบวกของอุตสาหกรรมยานยนต์ในทุกส่วนมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ในปีนี้
ลามิน่า มองว่า ในปีนี้ จะเป็นปีที่เห็นการขยายตัวของมูลค่าตลาดรวมอย่างชัดเจน โดยในเบื้องต้นคาดว่าตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในปี 2555 นี้ น่าจะมียอดจำหน่ายอยู่ที่ระดับ 1,500-1,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการตลาดสูงสุดเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดในช่วงที่ผ่านมา โดยลามิน่าเชื่อว่าจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดฟิล์มกรองกรองแสงระดับพรีเมี่ยมด้วยส่วนแบ่งการตลาดไม่น้อยกว่า 80%
“เราเชื่อว่า โอกาสที่ตัวเลขยอดจำหน่ายจะไปถึงระดับดังกล่าวมีอยู่สูงมาก เนื่องจากแนวโน้มที่ตลาดรถยนต์จะเติบโตตามการคาดการณ์ เป็นผลมาจากปัจจัยบวกที่มีเพิ่มขึ้นมาในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายรถคันแรก ที่ช่วยผลักดันตลาดรถยนต์ใหม่ และตลาดรถยนต์มือสองที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน และคาดว่า จะขยายตัวตามที่มีการคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้า”
นางสาวจันทร์นภา กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดฟิล์มกรองแสงในช่วงกลางปีนี้ บริษัทได้ตัดสินใจเข้าร่วมแสดงสินค้าในงานบางกอกบางกอก ยูสด์คาร์ แอนด์ อิมพอร์ต คาร์ โชว์ ครั้งที่ 4 ซึ่งทางผู้จัดงานคาดว่าจะมีรถเข้าร่วมจำหน่ายในงานมากกว่า 1 หมื่นคัน และคาดหวังว่าจะมีวงเงินสะพัดในงานมากกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท
ผู้ที่สนใจพบกับสินค้าที่น่าสนใจของลามิน่า สามารถเข้าร่วมชมได้ที่บูธหมายเลข C 3 ภายในงานดังกล่าวที่จะจัดขึ้น ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 20-29 กรกฎาคม 2555 รวมระยะเวลาของการจัดงานทั้งสิ้น 10 วัน ซี่งภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับผู้ที่สนใจเข้าชมงานตลอดทั้งงาน
นางสาวจันทร์นภา สายสมร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทคโนเซล (เฟรย์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์และฟิล์มกรองแสงอาคาร ‘ลามิน่า’ ฟิล์มกลุ่มพิเศษ ‘ลูม่าร์’ ผลิตโดยซีพีฟิล์มอิงค์ สหรัฐอเมริกา มาตรฐาน ISO 9001 รวมถึงอุปกรณ์บรรทุกสัมภาระ ‘ธูเล่’ จากสวีเดน เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดฟิล์มกรองแสงทดแทนในปีนี้ มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของตลาดรถยนต์มือสอง
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า ตลาดรถยนต์มือสองที่ปกติแล้วมีขนาดของตลาดราว 3 เท่าของตลาดรถยนต์ใหม่นั้น ปีนี้ยังมีแนวโน้มที่สดใส จากผลกระทบการส่งมอบรถยนต์ใหม่ที่คาดว่าจะชะลอหลังจากที่ผู้ผลิตรถยนต์ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติในช่วงปลายปี 2554 ที่ผ่านมา และถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับตลาดรถยนต์มือสองที่น่าจะเติบโตอย่างมากในปีนี้
การเติบโตของตลาดรถยนต์มือสอง จะทำให้ธุรกิจอุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ได้รับอานิสงส์ที่ดีเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในกลุ่มฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ที่ผู้บริโภคมักนำรถยนต์มือสองที่ซื้อมา มาทำการตกแต่งด้วยการติดฟิล์มกรองแสงใหม่ ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ผู้บริโภคกลุ่มนี้มีความต้องการสินค้าคุณภาพดี ที่มีมาตรฐาน และได้รับการรับรอง ทำให้ลามิน่าเชื่อว่าจะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคกลุ่มนี้
“เราเชื่อว่า กลุ่มลูกค้ารถยนต์มือสองเองมีความต้องการสินค้าที่มีคุณภาพเช่นเดียวกับลูกค้ารถยนต์ใหม่ ซึ่งลามิน่ามีสินค้าที่หลากหลายให้กับลูกค้าทุกกลุ่มเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสม ทำให้เราเป็นตัวแทนจำหน่ายฟิล์มกรองแสงรถยนต์ที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน และได้รับรางวัลยืนยันความสำเร็จมาอย่างมากมาย”
นางสาวจันทร์นภา กล่าวว่า การเติบโตของตลาดรถยนต์มือสองในปีนี้ จะทำให้สัดส่วนฟิล์มกรองแสงทดแทน ซึ่งเป็นการเปลี่ยนฟิล์มของผู้ใช้รถนั้น จะปรับเพิ่มมากขึ้นเป็น 35% ของยอดจำหน่ายของลามิน่า จากปกติที่อยู่ที่ระดับ 30% ซึ่งเป็นการเติบโตตามการคาดการณ์การขยายตัวของตลาดรถยนต์มือสองและตลาดฟิล์มกรองแสงในประเทศไทย
ในช่วง 6 เดือนแรกที่ผ่านมาของปี 2555 ลามิน่ามียอดจำหน่ายฟิล์มกรองแสงไปแล้วมากกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งเป็นเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทตัดสินใจปรับเป้าหมายการจำหน่ายจากเดิมที่วางไว้ 640 ล้านบาท เพิ่มเป็น 700 ล้านบาทในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยบวกของอุตสาหกรรมยานยนต์ในทุกส่วนมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ ในปีนี้
ลามิน่า มองว่า ในปีนี้ จะเป็นปีที่เห็นการขยายตัวของมูลค่าตลาดรวมอย่างชัดเจน โดยในเบื้องต้นคาดว่าตลาดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ในปี 2555 นี้ น่าจะมียอดจำหน่ายอยู่ที่ระดับ 1,500-1,700 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าการตลาดสูงสุดเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดในช่วงที่ผ่านมา โดยลามิน่าเชื่อว่าจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาดฟิล์มกรองกรองแสงระดับพรีเมี่ยมด้วยส่วนแบ่งการตลาดไม่น้อยกว่า 80%
“เราเชื่อว่า โอกาสที่ตัวเลขยอดจำหน่ายจะไปถึงระดับดังกล่าวมีอยู่สูงมาก เนื่องจากแนวโน้มที่ตลาดรถยนต์จะเติบโตตามการคาดการณ์ เป็นผลมาจากปัจจัยบวกที่มีเพิ่มขึ้นมาในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายรถคันแรก ที่ช่วยผลักดันตลาดรถยนต์ใหม่ และตลาดรถยนต์มือสองที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน และคาดว่า จะขยายตัวตามที่มีการคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้า”
นางสาวจันทร์นภา กล่าวว่า เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดฟิล์มกรองแสงในช่วงกลางปีนี้ บริษัทได้ตัดสินใจเข้าร่วมแสดงสินค้าในงานบางกอกบางกอก ยูสด์คาร์ แอนด์ อิมพอร์ต คาร์ โชว์ ครั้งที่ 4 ซึ่งทางผู้จัดงานคาดว่าจะมีรถเข้าร่วมจำหน่ายในงานมากกว่า 1 หมื่นคัน และคาดหวังว่าจะมีวงเงินสะพัดในงานมากกว่า 2.7 หมื่นล้านบาท
ผู้ที่สนใจพบกับสินค้าที่น่าสนใจของลามิน่า สามารถเข้าร่วมชมได้ที่บูธหมายเลข C 3 ภายในงานดังกล่าวที่จะจัดขึ้น ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 20-29 กรกฎาคม 2555 รวมระยะเวลาของการจัดงานทั้งสิ้น 10 วัน ซี่งภายในงานจะมีการจัดแสดงสินค้าของบริษัทอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อรองรับผู้ที่สนใจเข้าชมงานตลอดทั้งงาน
