เตือนซื้อรถมือสอง ระวังโดนย้อมแมว-จมน้ำ แนะผู้บริโภคต้องดูให้ถี่ถ้วน

สหการประมูล แนะซื้อรถมือสองหลังผ่านวิกฤตน้ำท่วม ต้องตรวจสอบสภาพรถให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อ โดยเฉพาะกับการซื้อรถยนต์กับเต็นท์รถที่เพิ่งตั้งใหม่ ซื้อกับตัวแทนขายทั่วไป หรือซื้อกับเจ้าของรถเอง ต้องดูว่าราคาถูกจนผิดปกติหรือไม่ หวั่นเจอรถจมน้ำย้อมแมวขาย พร้อมระบุ ความต้องการรถมือสองยังมีสูง ทั้งรถเก๋งเล็ก กระบะ และมอเตอร์ไซค์

นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด กล่าวแนะนำในการเลือกซื้อรถยนต์มือสองในช่วงหลังวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ โดยระบุว่า ผู้บริโภคจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะกับการซื้อรถยนต์กับเต็นท์รถที่เพิ่งตั้งใหม่ ซื้อกับตัวแทนขายทั่วไป หรือซื้อกับเจ้าของรถเอง ต้องดูว่าราคาถูกจนผิดปกติหรือไม่ ซึ่งหากถูกเกินไปต้องมีการสอบถามว่าเป็นรถจมน้ำ ที่นำมาซ่อมแซมใหม่หรือไม่

ทั้งนี้ หากเจ้าของเต็นท์ ตัวแทนขาย หรือเจ้าของรถยืนยันว่าไม่เคยผ่านน้ำท่วมมาก่อน ให้ตรวจสอบสภาพรถ เช่น ให้ดูโคมไฟ มีลอยน้ำ หรือมีร่องรอยการเปลี่ยนใหม่หรือไม่ ดูสนิท มีลักษณะของการขัดออกหรือไม่ ซึ่งจะมีการทิ้งร่องรอยไว้ โดยส่วนใหญ่ผู้ค้ารถ หรือช่างซ่อม จะดูออกว่ารถคันนั้นผ่านการซ่อมมาแล้วหรือไม่ แต่ถ้าผู้ขายยอมรับว่ารถจมน้ำมา เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อสามารถพิจารณาได้เองว่า ยอมรับได้หรือไม่ และจะมีการตกลงกันถึงราคาที่เหมาะสม คุ้มกับการซ่อมหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการนำรถยนต์จมน้ำมาซ่อมแล้วขายใหม่มีสัดส่วนไม่มากนัก เพราะเจ้าของรถที่ไม่มีประกัน ต้องซ่อมเอง ส่วนใหญ่มองว่าถ้าต้นทุนที่ซ่อมสูงกว่าราคาที่จะขายได้ ก็จะเลือกซ่อมแล้วใช้เองมากกว่า แต่ก็เป็นสิ่งที่ผู้ซื้อต้องรอบคอบในการเลือกซื้อมากขึ้น แต่หากซื้อกับเต็นท์รถที่มีชื่อเสียง หรือตัวแทนขายรายใหญ่ ส่วนใหญ่จะมั่นใจได้ว่าไม่ใช่รถย้อมแมวขาย เพราะผู้ค้ารถกลุ่มนี้จะไม่ยอมแลกชื่อเสียงที่สั่งสมมากับกำไรเพียงเล็กน้อย อีกทั้งจะมีการบอกอย่างชัดเจนว่า รถมือสองเหล่านี้เป็นรถจมน้ำ หรือรถที่เสียหายจากสถานการณ์ใด

อย่างไรก็ดี สหการประมูล ได้จัดทำการวิจัยตลาดรถยนต์มือสองฉบับแรกของประเทศไทย พบว่า ความต้องการรถยนต์นั่งขนาด 1.3-1.5 ซีซี มีความต้องการซื้อต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากช่วงที่ผ่านมา โรงงานผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายได้หยุดการผลิตชั่วคราวเนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ส่งผลให้อุปทานรถยนต์นั่งใหม่ยังคงหายไปจากตลาดรถยนต์ จนกว่าผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่างๆ จะกลับมาผลิตได้ตามปกติ คาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาส 1 ปี 2555 ทำให้ตลาดประมูลรถยนต์นั่งมือสองคึกคักขึ้น

ด้านตลาดรถกระบะ ยังคงมีการต้องการสูง คาดว่าราคาประมูลเฉลี่ยรถกระบะประเภทต่างๆ เดือน ธ.ค.54 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเฉลี่ยประมาณ 3% ขณะที่ภาวะตลาดประมูลรถจักรยานยนต์ พบว่า อุปทานรถใหม่ หายไปจากตลาดเพราะน้ำท่วมเช่นกัน แต่ความต้องการสูง ดังนั้น ตลาดประมูลจักรยานยนต์มือสองจึงเริ่มกลับมาคึกคัก เนื่องจากผู้ซื้อเริ่มหันมาหาตลาดจักรยานยนต์มือสองใช้แทนก่อน