ตลาดรถยนต์มือ 2 คึกคัก รับศึกเลือกตั้ง ผู้สมัคร ส.ส.แห่ซื้อใช้หาเสียง ดันราคาขายพุ่งอีก 3-4% ด้านสินค้าอุปโภคบริโภค เชื่อ ยอดขายดีขึ้นจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ประชาชนเริ่มมั่นใจใช้จ่าย ส่วนธุรกิจโฆษณาตีปีกรับ
นายภิญญาวัฒน์ จันทรกานตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เคทีบีลิสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์มือสองจะมีปริมาณมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากความต้องการใช้รถปิกอัพ เพื่อติดป้ายโฆษณาและการหาเสียงของผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ซึ่งมีสัดส่วนที่สูง โดยเชื่อว่า จะส่งผลให้ราคาขายรถมือสองปรับเพิ่มขึ้นอีก 3-4% จากที่ได้ปรับขึ้นไปแล้ว 10% จากผลกระทบเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่น พร้อมระบุว่า ปัจจัยดังกล่าวจะเป็นเพียงชั่วคราว เพราะภายหลังการเลือกตั้งแล้วเสร็จวันที่ 3 กรกฎาคม 2553 ตลาดรถมือสองจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
“มองว่า ช่วงเลือกตั้ง สินเชื่อรถใหม่มีน้อย เพราะปัจจุบันมีปัญหาเรื่องการผลิตรถใหม่และการส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าที่ล่าช้าอยู่แล้ว ทำให้ตลาดรถยนต์มือสองได้รับความนิยมและคึกคักมากขึ้นในช่วงนี้ แต่เชื่อว่าในช่วงเดือนกรกฎาคม 2554 ซึ่งเข้าสู่ช่วงไตรมาส 3 ปัญหาการผลิตรถใหม่จะคลี่คลาย ซึ่งส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์สามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าตามออเดอร์ที่มีไว้ก่อนหน้านี้ได้ทั้งหมด และในช่วงไตรมาส 4 คาดว่า ตลาดรถยนต์จะกลับมาเหมือนเดิม”
นายชลิต ศิลป์ศรีกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปกติในช่วงเลือกตั้งจะมีเงินหมุนเวียนในระบบเป็นจำนวนมาก ซึ่งเชื่อว่า จะส่งผลดีต่อยอดขายรถปิกอัพเพิ่มขึ้น 10% โดยธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สิ้นปีนี้เติบโตประมาณ 10-15%
นายสมบุญ ประสิทธิ์จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค กล่าวว่า ตลาดรวมสินค้าอุปโภคบริโภคนับจากนี้จนถึงวันเลือกตั้งจะมีความคึกคักมากในรอบหลายปี เพราะได้รับผลดีจากความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นมากตามเศรษฐกิจโดยรวมที่ขยายตัวดีขึ้น รวมถึงสินค้าเกษตรราคาดีขึ้น ทำให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นที่จะใช้จ่ายมากขึ้น คาดว่า ในเดือนมิถุนายน 2554 นี้ ตลาดรวมสินค้าอุปโภคบริโภคจะเติบโตสูงกว่าปกติอยู่ที่ 8-9% ส่วนช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมาเติบโต 6%
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า สถานการณ์หลังจากการเลือกตั้งแล้วไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์วุ่นวายมากระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และเชื่อว่าจะไม่มีสถานการณ์รุนแรงเกิดขึ้นจนกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ และอยากให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาดูแลปัญหาแรงงานที่กำลังขาดตลาดจำนวนมาก
นายชัยประนิน วิสุทธิผล นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจโฆษณานับจากนี้จนถึงเลือกตั้งจะเติบโตสูงมาก ไม่ต่ำกว่า 10% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะได้รับผลดีจากการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในประเทศ และเศรษฐกิจของประเทศที่ฟื้นตัวขึ้น
