ข่าวในประเทศ-บริษัท โปรดักส์คอนซัลแต้นท์ จำกัด หนึ่งในกลุ่มบริษัทสิวะดล เปิดตัว “เอสเทค” ฟิล์มนิรภัยอเนกประสงค์นำเข้าจากประเทศเกาหลี สามารถใช้ได้ทั้งที่อยู่อาศัยและรถยนต์ ชูคุณสมบัติพิเศษสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกระจกสูงสุด 500 เท่า ตั้งเป้าปีแรกกวาดยอดขาย 100 ล้านบาท
สมทบ สีบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรดักส์คอนซัลแต้นท์ จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวฟิล์มนิรภัยอเนกประสงค์ STEC (เอสเทค) ว่า เอสเทคเป็นฟิล์มนิรภัยจากประเทศเกาหลีที่ได้ใช้เวลาคิดค้น และพัฒนาขึ้นกว่า 10 ปี เพื่อให้ได้ฟิล์มนิรภัยที่มีคุณสมบัติของกาวที่ยึดติดกระจกได้อย่างเหนียวแน่นมากกว่าฟิล์มทั่วไป และมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของการดูดซับแรงกระแทก ซึ่งสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกระจกได้สูงสุดถึง 500 เท่า ดังนั้น จึงสามารถลดความรุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งยังป้องกันอันตรายจากกระจกที่แตกกระจายได้อีกด้วย
“ปัจจุบันผู้บริโภคให้การยอมรับผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี เพราะมีคุณภาพระดับสากล และทางบริษัทฯ เห็นโอกาสทางการตลาด จึงนำฟิล์มนี้เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย และคาดว่าจะใช้งบการตลาด 10 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในปีแรกที่ 100 ล้านบาท มุ่งกลุ่มที่พักอาศัยและอาคารเป็นหลักประมาณ 70% ซึ่งแยกย่อยออกเป็นกลุ่มอาคารสูง 20% บ้านพักอาศัย 40% และร้านค้า 10% ส่วนเป้าหมายยอดขายอีก 30% สำหรับกลุ่มยานยนต์ ส่วนช่องทางจำหน่ายวางแผนแต่งตั้งดีลเลอร์ 50 แห่งภายในปีนี้” สมทบ สีบุญเรือง กล่าวและว่า
“ด้านวิธีการติดตั้งต้องลอกฟิล์มเดิมออกก่อนทั้งอาคารและรถยนต์ เนื่องจากกาวฟิล์มนิรภัยต้องยึดติดกับกระจกเท่านั้น หลังจากนั้นจึงจะสามารถติดฟิล์มกรองแสงทับได้ สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 200-300 บาทต่อตารางฟุต และเนื่องในโอกาสพิเศษช่วงเปิดตัว บริษัทฯ มอบโปรโมชั่นส่วนลด 30% สำหรับลูกค้าติดตั้งฟิล์มรถยนต์ ตั้งแต่วันนี้-31 สิงหาคม 2555”
สำหรับฟิล์มนิรภัย เอสเทค มีวางจำหน่าย 25 ประเทศทั่วโลก โดยเป็นฟิล์มนิรภัยที่ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ เช่น ถึงแม้กระจกจะถูกทุบจนแตก แต่ฟิล์มนิรภัยยังสามารถรองรับกระจกไว้เพื่อป้องกันการได้รับบาดเจ็บจากเศษกระจกด้วย และยังทำให้การบุกรุกทำได้ยากขึ้น อีกทั้งไม่ทำลายทัศนียภาพเฉกเช่นเหล็กดัด ส่วนสำหรับรถยนต์ ฟิล์มเอสเทคสามารถชะลอการแตกของกระจก เมื่อมีหินดีดกระเด็นใส่ขณะขับรถ หรือถูกปาหิน นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการป้องกันรังสียูวีจากภายนอกได้สูงสุด 99% จึงเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ รวมถึงการซีดจางของเฟอร์นิเจอร์ในอาคารและที่พักอาศัยอีกด้วย
สมทบ สีบุญเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท โปรดักส์คอนซัลแต้นท์ จำกัด กล่าวถึงการเปิดตัวฟิล์มนิรภัยอเนกประสงค์ STEC (เอสเทค) ว่า เอสเทคเป็นฟิล์มนิรภัยจากประเทศเกาหลีที่ได้ใช้เวลาคิดค้น และพัฒนาขึ้นกว่า 10 ปี เพื่อให้ได้ฟิล์มนิรภัยที่มีคุณสมบัติของกาวที่ยึดติดกระจกได้อย่างเหนียวแน่นมากกว่าฟิล์มทั่วไป และมีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของการดูดซับแรงกระแทก ซึ่งสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกระจกได้สูงสุดถึง 500 เท่า ดังนั้น จึงสามารถลดความรุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุ ทั้งยังป้องกันอันตรายจากกระจกที่แตกกระจายได้อีกด้วย
“ปัจจุบันผู้บริโภคให้การยอมรับผลิตภัณฑ์จากประเทศเกาหลี เพราะมีคุณภาพระดับสากล และทางบริษัทฯ เห็นโอกาสทางการตลาด จึงนำฟิล์มนี้เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย และคาดว่าจะใช้งบการตลาด 10 ล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในปีแรกที่ 100 ล้านบาท มุ่งกลุ่มที่พักอาศัยและอาคารเป็นหลักประมาณ 70% ซึ่งแยกย่อยออกเป็นกลุ่มอาคารสูง 20% บ้านพักอาศัย 40% และร้านค้า 10% ส่วนเป้าหมายยอดขายอีก 30% สำหรับกลุ่มยานยนต์ ส่วนช่องทางจำหน่ายวางแผนแต่งตั้งดีลเลอร์ 50 แห่งภายในปีนี้” สมทบ สีบุญเรือง กล่าวและว่า
“ด้านวิธีการติดตั้งต้องลอกฟิล์มเดิมออกก่อนทั้งอาคารและรถยนต์ เนื่องจากกาวฟิล์มนิรภัยต้องยึดติดกับกระจกเท่านั้น หลังจากนั้นจึงจะสามารถติดฟิล์มกรองแสงทับได้ สนนราคาจำหน่ายอยู่ที่ 200-300 บาทต่อตารางฟุต และเนื่องในโอกาสพิเศษช่วงเปิดตัว บริษัทฯ มอบโปรโมชั่นส่วนลด 30% สำหรับลูกค้าติดตั้งฟิล์มรถยนต์ ตั้งแต่วันนี้-31 สิงหาคม 2555”
สำหรับฟิล์มนิรภัย เอสเทค มีวางจำหน่าย 25 ประเทศทั่วโลก โดยเป็นฟิล์มนิรภัยที่ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการก่ออาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ เช่น ถึงแม้กระจกจะถูกทุบจนแตก แต่ฟิล์มนิรภัยยังสามารถรองรับกระจกไว้เพื่อป้องกันการได้รับบาดเจ็บจากเศษกระจกด้วย และยังทำให้การบุกรุกทำได้ยากขึ้น อีกทั้งไม่ทำลายทัศนียภาพเฉกเช่นเหล็กดัด ส่วนสำหรับรถยนต์ ฟิล์มเอสเทคสามารถชะลอการแตกของกระจก เมื่อมีหินดีดกระเด็นใส่ขณะขับรถ หรือถูกปาหิน นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการป้องกันรังสียูวีจากภายนอกได้สูงสุด 99% จึงเป็นการช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ รวมถึงการซีดจางของเฟอร์นิเจอร์ในอาคารและที่พักอาศัยอีกด้วย