ไทยประกันฯ เพิ่มกรมธรรม์มะเร็ง

ไทยประกันชีวิตเสริมทัพแบบประกันมะเร็ง ส่งแบบประกันใหม่คุ้มครองมะเร็งบุรุษ-สตรี ระบุแนวโน้มคนไทยป่วยเป็นมะเร็งเพิ่มขึ้นปีละกว่า 8 หมื่นราย ด้านกรุงเทพประกันภัยคาดปี 55 เบี้ยประกันภัยแตะ 1.7 แสนล้าน รับอานิสงส์ยอดจำหน่ายรถยนต์พุ่งแตะ 1.2 ล้านคัน

นายอภิรักษ์ ไทพัฒนกุล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยมีแนวโน้มป่วยด้วยโรคมะเร็งเพิ่มสูงขึ้น จากสถิติของกระทรวงสาธารณสุขพบว่ามีคนไทยป่วยด้วยโรคมะเร็งกว่า 3 แสนราย และเพิ่มขึ้นปีละกว่า 8 หมื่นราย

ทั้งนี้ บริษัทจึงเตรียมออกแบบประกันคุ้มครองโรคมะเร็งเพิ่มเติม หลังจากก่อนหน้านี้ แบบประกันไม่มะเร็งมีคืน ซึ่งเป็นแบบประกันที่คืนเบี้ยประกันปีสุดท้ายหากไม่มีการเคลมสินไหมตามเงื่อนไขที่กำหนดได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

สำหรับแบประกันใหม่ทั้ง 2 แบบ ประกอบด้วย แบบประกันภัยมะเร็งบุรุษ (Guy We Care) เป็นแบบประกันที่คุ้มครองโรคมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะ หากตรวจพบว่าผู้เอาประกันเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก รับเงินคุ้มครองทันทีสูงสุดถึง 1 ล้านบาท มะเร็งอื่นๆ คุ้มครองสูงสุด 5 แสนบาท มะเร็งผิวหนังคุ้มครองสูงสุด 1 แสนบาท และพร้อมคุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณีสูงสุด 1 ล้านบาท

แบบประกันภัยมะเร็งสตรี (Lady We Care) เป็นแบบประกันที่คุ้มครองโรคมะเร็งทุกชนิด ทุกระยะเช่นเดียวกัน โดยคุ้มครองมะเร็งเต้านมสูงสุดถึง 1 ล้านบาท มะเร็งอื่นๆ คุ้มครองสูงสุด 5 แสนบาท มะเร็งผิวหนังคุ้มครองสูงสุด 1 แสนบาท และคุ้มครองการเสียชีวิตทุกกรณีสูงสุด 1 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองแบบประกันผู้สนใจสามารถทำประกันได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ

BKI คาดเบี้ยทั้งปีแตะ 1.7 แสนล้าน

นายพนัส ธีรวณิชย์กุล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยแนวโน้มธุรกิจประกันภัยของไทยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2555 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ดีเมื่อเทียบกับปี 2554 โดยคาดว่าเบี้ยประกันวินาศภัยในปี 2555 จะอยู่ที่ประมาณ 170,000 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 20 จากปีที่ผ่านมา

ส่วนผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2 ของปี 2555 มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 2,881.7 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.5 เมื่อหักภาษีเงินได้แล้ว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 185.5 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 2554 ร้อยละ 68.4 และกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 2.44 บาท

ส่วนปัจจัยสนับสนุนในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะมาจากยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าทั้งปี 2555 จะมียอดจำหน่ายทั้งสิ้น 1.2 ล้านคัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 51.1 จากปีที่ผ่านมา

และบริษัทประกันภัยได้มีการปรับอัตราเบี้ยประกันภัยเพิ่มขึ้นของประกันภัยทรัพย์สิน ประกันอัคคีภัย ประกันภัยความเสี่ยงภัยทุกชนิด ตามต้นทุนของการประกันภัยต่อที่ปรับสูงขึ้นจากการขึ้นค่าเบี้ยประกันภัยของบริษัทรับประกันภัยต่อสำหรับความคุ้มครองภัยธรรมชาติ

อย่างไรก็ตาม ยังคงปัจจัยลบที่อาจส่งผลกระทบได้อีกด้วย คือ การชะลอตัวทางเศรษฐกิจโลก ต้นทุนค่าซ่อมรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น จากมาตรการรัฐบาลในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท