คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”
เมื่อวานนี้ ทางทีมงาน The Golf Touch ได้ไปถ่ายทำกันที่สนามกอล์ฟ Best Ocean เพื่อผลิตช่วง 2 Mins Lessons เพิ่มเติมรวมไปถึง Show Case ของรายการ TeeOff ด้วย เราถ่ายงานท่ามกลางแสงแดดและอุณหภูมิ 39 องศาเกือบทั้งวัน พอตื่นมาวันนี้รับรู้ได้ถึงผลกระทบจากเมื่อวานได้เลยทันที โดยปกติแล้วก็ไม่ใช่คนที่ทาครีมกันแดดเป็นประจำอยู่แล้ว ที่แล้วมาก็แค่ดูคล้ำขึ้น แต่ก็ไม่ถึงขนาดแสบผิวอย่างครั้งนี้ ปัญหาโลกร้อนส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งนักกอล์ฟด้วย
ช่วงหน้าร้อนนี้ผมคิดว่าช่วงเวลาแห่งความทรมานที่สุดของการออกรอบ ก็คือ ช่วง 10.00-15.00น. แนะนำว่าถ้าจะออกรอบ ไม่เช้าไปเลย (6.00-6.30 น.) เพื่อจะได้เล่นจบก่อนเที่ยง ก็ให้เป็นหลังบ่ายโมง (13.00 น.) ไปเลย เพราะจะได้ทนร้อนแค่ 9 หลุมพอ หรือถ้าท่านนักกอล์ฟที่เน้นคุณภาพไม่ได้เน้นปริมาณมากนัก ต้องการเพียงแค่ได้ออกรอบ ไม่จบไม่เป็นไรแค่ไหนแค่นั้น ช่วงหลัง 16.00 น.ก็กำลังสบาย แต่ถ้าไม่ว่าอย่างไร ก็จะไม่ยอมสู้แดดสู้ความร้อนเลย ก็แนะนำให้เล่น night golf ไปเลยครับ
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจออกรอบตอนไหน แต่ถ้ามีแสงแดดเข้ามาเกี่ยวข้อง สิ่งแรกที่ควรทำทุกครั้ง ก็คือ ทาครีมกันแดด 15 นาทีก่อนออกรอบ และควรทาซ้ำเรื่อยๆ ตลอดทั้งวัน ทากันไปเถอะครับ จะเหนียวจะเหนอะหนะอย่างไรก็ขอให้อดทน แน่นอนว่ามันไม่ได้ช่วยให้หายร้อน แต่มันจะทำให้แสงแดดมีผลกระทบต่อผิวเราน้อยลง ไม่ดูแก่ก่อนวัย และช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วย
ผมเคยถามหมอเรื่องความหมายของตัวเลขบนครีมกันแดด และวิธีเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสม ซึ่งหลังจากที่ฟังหมอพูดแล้วทำให้หายโง่ไปเยอะเลย ก่อนอื่นเลยผิวหนังแต่ละคนมีความทนทานต่อแสงแดดได้ไม่เท่ากัน โดยทั่วไปแล้วคนผิวคล้ำจะทนแดดได้นานกว่า และตัวเลข SPF (sun protective factor) ที่มีค่าสูงไม่ได้หมายความว่า จะป้องกันแดดได้มากกว่าหรือดีกว่าเลย ตัวเลขที่สูงกว่าเช่น SPF 60 ต่างจาก SPF 15 เพียงแค่ยืดเวลาการทาซ้ำของเราให้นานออกไปกว่าเดิม ซึ่งตัวเลข SPF 15 หมายความว่า ครีมกันแดดตัวนี้จะช่วยป้องกันคุณจากแสงแดดได้มากขึ้น 15 เท่าจากความทนทานของผิวคุณ สมมติว่า ผิวหนังคุณทนแดดได้ 10 นาที ถ้าคุณทา SPF 15 ผิวหนังคุณก็จะสามารถทนแดดได้เพิ่มขึ้นเป็น 150 นาที (15 เท่า) แต่ด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาชะล้างครีมกันแดดบนผิวของเรา จึงทำให้ระยะเวลาที่สามารถป้องกันได้น้อยลงไป เราจึงควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือใครที่ไม่ชอบทาซ้ำบ่อยๆ ก็ให้ใช้ SPF ที่สูงๆหรือชนิดป้องกันน้ำก็จะป้องกันได้นานกว่า แต่ต้องทนความเหนียวเหนอะหน่อยกันหน่อยนะครับ
แต่หัวใจสำคัญเวลาที่เราเลือกซื้อครีมกันแดดนั้น ไม่ได้อยู่ที่ SPF ซะทีเดียว เราต้องดูด้วยว่าครีมอันนั้นแสดงค่า PA เท่าไหร่ด้วยหรือไม่ เพราะว่ารังสีอัลตราไวโอเลตนั้นมี 3 ประเภท คือ UVA, UVB และ UVC แต่ละประเภทก็มีอันตรายไม่เท่ากัน UVA จะมีผลทำให้ผิวหนังเป็นฝ้าและเหี่ยวย่น, UVB จะทำให้ผิวหนังไหม้ ปวดแสบปวดร้อน ส่วน UVC เข้ามาถึงพื้นโลกได้น้อยเนื่องจากถูกชั้นบรรยากาศทำลายออกไปก่อนมาถึงเรา โดยปกติ SPF จะช่วยป้องกัน UVB อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการป้องกัน UVA หรือ UVC ด้วย ก็ต้องดูครีมที่ปรากฏค่า (PA ++ ) หรือ (PA+++) แน่นอนว่ายิ่งมากก็ยิ่งป้องกันได้เยอะ ราคาก็จะสูงตามไปด้วย
สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรับมือกับสภาพอากาศอันแสนโหดร้ายเช่นนี้ คือ “H2O” ครับ เพราะนอกเหนือจากครีมกันแดด หรือบรรดาตัวช่วยอื่นๆ เช่น ใส่ปลอกแขน หรือเดินกางร่มแล้ว ด้วยสภาวะอากาศที่ร้อนและอบอ้าวทำให้ร่างกายเราเสียเหงื่อเป็นจำนวนมาก เราต้องการน้ำเข้าไปทดแทน น้ำเปล่าครับ ดื่มเยอะๆ พยายามจิบก่อนตีทุกช็อตหรือขึ้นทีอ๊อฟทุกหลุม ร่างกายจะได้ไม่ขาดน้ำ เพราะถ้าเรารู้สึกกระหายน้ำเมื่อไหร่ แสดงว่าร่างกายของเราขาดน้ำไปเรียบร้อยแล้ว
เมื่อวานนี้ ทางทีมงาน The Golf Touch ได้ไปถ่ายทำกันที่สนามกอล์ฟ Best Ocean เพื่อผลิตช่วง 2 Mins Lessons เพิ่มเติมรวมไปถึง Show Case ของรายการ TeeOff ด้วย เราถ่ายงานท่ามกลางแสงแดดและอุณหภูมิ 39 องศาเกือบทั้งวัน พอตื่นมาวันนี้รับรู้ได้ถึงผลกระทบจากเมื่อวานได้เลยทันที โดยปกติแล้วก็ไม่ใช่คนที่ทาครีมกันแดดเป็นประจำอยู่แล้ว ที่แล้วมาก็แค่ดูคล้ำขึ้น แต่ก็ไม่ถึงขนาดแสบผิวอย่างครั้งนี้ ปัญหาโลกร้อนส่งผลกระทบต่อทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งนักกอล์ฟด้วย
ช่วงหน้าร้อนนี้ผมคิดว่าช่วงเวลาแห่งความทรมานที่สุดของการออกรอบ ก็คือ ช่วง 10.00-15.00น. แนะนำว่าถ้าจะออกรอบ ไม่เช้าไปเลย (6.00-6.30 น.) เพื่อจะได้เล่นจบก่อนเที่ยง ก็ให้เป็นหลังบ่ายโมง (13.00 น.) ไปเลย เพราะจะได้ทนร้อนแค่ 9 หลุมพอ หรือถ้าท่านนักกอล์ฟที่เน้นคุณภาพไม่ได้เน้นปริมาณมากนัก ต้องการเพียงแค่ได้ออกรอบ ไม่จบไม่เป็นไรแค่ไหนแค่นั้น ช่วงหลัง 16.00 น.ก็กำลังสบาย แต่ถ้าไม่ว่าอย่างไร ก็จะไม่ยอมสู้แดดสู้ความร้อนเลย ก็แนะนำให้เล่น night golf ไปเลยครับ
ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจออกรอบตอนไหน แต่ถ้ามีแสงแดดเข้ามาเกี่ยวข้อง สิ่งแรกที่ควรทำทุกครั้ง ก็คือ ทาครีมกันแดด 15 นาทีก่อนออกรอบ และควรทาซ้ำเรื่อยๆ ตลอดทั้งวัน ทากันไปเถอะครับ จะเหนียวจะเหนอะหนะอย่างไรก็ขอให้อดทน แน่นอนว่ามันไม่ได้ช่วยให้หายร้อน แต่มันจะทำให้แสงแดดมีผลกระทบต่อผิวเราน้อยลง ไม่ดูแก่ก่อนวัย และช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งผิวหนังอีกด้วย
ผมเคยถามหมอเรื่องความหมายของตัวเลขบนครีมกันแดด และวิธีเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสม ซึ่งหลังจากที่ฟังหมอพูดแล้วทำให้หายโง่ไปเยอะเลย ก่อนอื่นเลยผิวหนังแต่ละคนมีความทนทานต่อแสงแดดได้ไม่เท่ากัน โดยทั่วไปแล้วคนผิวคล้ำจะทนแดดได้นานกว่า และตัวเลข SPF (sun protective factor) ที่มีค่าสูงไม่ได้หมายความว่า จะป้องกันแดดได้มากกว่าหรือดีกว่าเลย ตัวเลขที่สูงกว่าเช่น SPF 60 ต่างจาก SPF 15 เพียงแค่ยืดเวลาการทาซ้ำของเราให้นานออกไปกว่าเดิม ซึ่งตัวเลข SPF 15 หมายความว่า ครีมกันแดดตัวนี้จะช่วยป้องกันคุณจากแสงแดดได้มากขึ้น 15 เท่าจากความทนทานของผิวคุณ สมมติว่า ผิวหนังคุณทนแดดได้ 10 นาที ถ้าคุณทา SPF 15 ผิวหนังคุณก็จะสามารถทนแดดได้เพิ่มขึ้นเป็น 150 นาที (15 เท่า) แต่ด้วยเหงื่อที่ไหลออกมาชะล้างครีมกันแดดบนผิวของเรา จึงทำให้ระยะเวลาที่สามารถป้องกันได้น้อยลงไป เราจึงควรทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง หรือใครที่ไม่ชอบทาซ้ำบ่อยๆ ก็ให้ใช้ SPF ที่สูงๆหรือชนิดป้องกันน้ำก็จะป้องกันได้นานกว่า แต่ต้องทนความเหนียวเหนอะหน่อยกันหน่อยนะครับ
แต่หัวใจสำคัญเวลาที่เราเลือกซื้อครีมกันแดดนั้น ไม่ได้อยู่ที่ SPF ซะทีเดียว เราต้องดูด้วยว่าครีมอันนั้นแสดงค่า PA เท่าไหร่ด้วยหรือไม่ เพราะว่ารังสีอัลตราไวโอเลตนั้นมี 3 ประเภท คือ UVA, UVB และ UVC แต่ละประเภทก็มีอันตรายไม่เท่ากัน UVA จะมีผลทำให้ผิวหนังเป็นฝ้าและเหี่ยวย่น, UVB จะทำให้ผิวหนังไหม้ ปวดแสบปวดร้อน ส่วน UVC เข้ามาถึงพื้นโลกได้น้อยเนื่องจากถูกชั้นบรรยากาศทำลายออกไปก่อนมาถึงเรา โดยปกติ SPF จะช่วยป้องกัน UVB อยู่แล้ว แต่ถ้าต้องการป้องกัน UVA หรือ UVC ด้วย ก็ต้องดูครีมที่ปรากฏค่า (PA ++ ) หรือ (PA+++) แน่นอนว่ายิ่งมากก็ยิ่งป้องกันได้เยอะ ราคาก็จะสูงตามไปด้วย
สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรับมือกับสภาพอากาศอันแสนโหดร้ายเช่นนี้ คือ “H2O” ครับ เพราะนอกเหนือจากครีมกันแดด หรือบรรดาตัวช่วยอื่นๆ เช่น ใส่ปลอกแขน หรือเดินกางร่มแล้ว ด้วยสภาวะอากาศที่ร้อนและอบอ้าวทำให้ร่างกายเราเสียเหงื่อเป็นจำนวนมาก เราต้องการน้ำเข้าไปทดแทน น้ำเปล่าครับ ดื่มเยอะๆ พยายามจิบก่อนตีทุกช็อตหรือขึ้นทีอ๊อฟทุกหลุม ร่างกายจะได้ไม่ขาดน้ำ เพราะถ้าเรารู้สึกกระหายน้ำเมื่อไหร่ แสดงว่าร่างกายของเราขาดน้ำไปเรียบร้อยแล้ว